Case study

บริษัทขายสินค้าไปยังเขต EPZ สามารถออกใบกำกับภาษี 0% เป็นสกุลเงิน USD ได้หรือไม่


เรื่อง บริษัทขายสินค้าไปยังเขต EPZ สามารถออกใบกำกับภาษี 0% เป็นสกุลเงิน USD ได้หรือไม่
แหล่งที่มา Case study
วันที่ 22/11/2023
ประเภทภาษี ภาษีมูลค่าเพิ่ม
ข้อกฎหมาย
คำถาม

บริษัทขายสินค้าไปยังเขต EPZ  สามารถออกใบกำกับภาษี 0%  เป็นสกุลเงิน USD ได้หรือไม่

คำตอบ

ตอบ

การขายสินค้า ในทางธุรกิจ สามารถตกลงกันได้ว่า จะขายสินค้าด้วยสกุลใด แต่ การออกใบกำกับภาษี  ตามมาตรา 86/4 วรรคสอง ระบุว่า รายการในใบกำกับภาษีให้ทำ เป็นหน่วยเงินตราไทย   เว้นแต่ ในกิจการบางประเภทที่มีความจำเป็นต้องทำ เป็นหน่วยเงินตราต่างประเทศ ให้กระทำได้เมื่อได้รับอนุมัติจากอธิบดีสรรพากร


สรุป 

  1. บริษัทสามารถออกใบแจ้งหนี้เป็นเงินตรา USD ได้ แต่เมื่อออกใบกำกับภาษี บริษัทจะต้องออกเป็นเงินตราไทยเท่านั้นค่ะ  
  2. การออกใบกำกับให้ผู้ประกอบการ  EPZ จะต่างจากการขายส่งออกไปต่างประเทศ ที่ไม่ต้องออกใบกำกับภาษีได้ แต่ใช้ INV USD ได้เลย เนื่องจากมีระบุไว้ใน ป.86/2542 ข้อ 22(1) ให้มีรายการเช่นเดียวกันกับใบกำกับสินค้าซึ่งผู้ส่งออกได้ออกเป็นปกติตามประเพณีทางการค้าระหว่างประเทศ

 

มาตรา 86/4ภายใต้บังคับมาตรา 86/5 และมาตรา 86/6 ใบกำกับภาษีต้องมีรายการอย่างน้อยดังต่อไปนี้
             (1) คำว่า “ใบกำกับภาษี” ในที่ที่เห็นได้เด่นชัด
             (2) ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ออกใบกำกับภาษี และในกรณีที่ตัวแทนเป็นผู้ออกใบกำกับภาษีในนามของผู้ประกอบการจดทะเบียนตามมาตรา 86 วรรคสี่ หรือมาตรา 86/2 หรือผู้ทอดตลาดเป็นผู้ออกใบกำกับภาษีในนามของผู้ประกอบการจดทะเบียนตามมาตรา 86/3 ให้ระบุชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของตัวแทนนั้นด้วย
             (3) ชื่อ ที่อยู่ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ
             (4) หมายเลขลำดับของใบกำกับภาษี และหมายเลขลำดับของเล่มถ้ามี
             (5) ชื่อ ชนิด ประเภท ปริมาณ และมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ
             (6) จำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่คำนวณจากมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ โดยให้แยกออกจากมูลค่าของสินค้าและหรือของบริการให้ชัดแจ้ง
             (7) วัน เดือน ปี ที่ออกใบกำกับภาษี
             (8) ข้อความอื่นที่อธิบดีกำหนด

 รายการในใบกำกับภาษีให้ทำเป็นภาษาไทย เป็นหน่วยเงินตราไทย และใช้ตัวเลขไทยหรืออารบิค เว้นแต่ในกิจการบางประเภทที่มีความจำเป็นต้องทำเป็นภาษาต่างประเทศหรือเป็นหน่วยเงินตราต่างประเทศ ให้กระทำได้เมื่อได้รับอนุมัติจากอธิบดี

 ใบกำกับภาษีอาจออกรวมกันสำหรับการขายสินค้าหรือการให้บริการหลายอย่างก็ได้ เว้นแต่อธิบดีจะได้กำหนดให้การออกใบกำกับภาษีสำหรับสินค้าหรือบริการบางอย่างหรือหลายอย่าง ต้องกระทำแยกต่างหาก โดยมิให้รวมไว้ในใบกำกับภาษีเดียวกันกับรายการอื่น
 




คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป. 86/2542

เรื่อง      หลักเกณฑ์การจัดทำใบกำกับภาษีตามมาตรา 86/4 และมาตรา 86/5 แห่งประมวลรัษฎากร เฉพาะที่มีลักษณะเป็นแบบเต็มรูป


   ข้อ 22   ผู้ประกอบการจดทะเบียนซึ่งต้องจัดทำใบกำกับภาษีตามมาตรา 86/5 แห่งประมวลรัษฎากร เฉพาะที่มีลักษณะเป็นแบบเต็มรูป จะต้องจัดทำใบกำกับภาษีและสำเนาโดยส่งมอบต้นฉบับใบกำกับภาษีให้แก่ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ และเก็บรักษาสำเนาใบกำกับภาษีเพื่อการลงรายงานภาษีขายตามมาตรา 87(1) แห่งประมวลรัษฎากร

                ใบกำกับภาษีตามวรรคหนึ่ง ต้องมีรายการอย่างน้อยดังต่อไปนี้

(1) ใบกำกับภาษีของการขายสินค้าโดยการส่งออกตามมาตรา 86/5(1) แห่งประมวลรัษฎากร ให้มีรายการเช่นเดียวกันกับใบกำกับสินค้าซึ่งผู้ส่งออกได้ออกเป็นปกติตามประเพณีทางการค้าระหว่างประเทศ โดยไม่ต้องมีรายการครบถ้วนตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร




มาตรา 80/1 ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละ 0 ในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับการประกอบกิจการประเภทต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

(1) การส่งออกสินค้าที่มิใช่การส่งออกสินค้าซึ่งได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา

 (ดูคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.97/2543)


 (2) การให้บริการที่กระทำในราชอาณาจักร และได้มีการใช้บริการนั้นในต่างประเทศตามประเภท หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกำหนด
 
( ดูประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 105) )

     การให้บริการที่กระทำในราชอาณาจักร และได้มีการใช้บริการนั้นในต่างประเทศให้รวมถึง การให้บริการที่กระทำในราชอาณาจักร เพื่อใช้ผลิตสินค้าในเขตปลอดอุตสาหกรรมส่งออกเพื่อส่งออก และการให้บริการที่กระทำในเขตอุตสาหกรรมส่งออก เพื่อใช้ผลิตสินค้าเพื่อส่งออกด้วย

( พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 35) พ.ศ. 2544 )
 ( 
ดูคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.104/2544 )    



มาตรา 77/1 ในหมวดนี้ เว้นแต่ข้อความจะแสดงให้เห็นเป็นอย่างอื่น

 (14) “ส่งออก” หมายความว่า ส่งสินค้าออกนอกราชอาณาจักรเพื่อส่งไปต่างประเทศ และให้หมายความรวมถึง
 
                  (ก) การนำสินค้าในราชอาณาจักรเข้าไปในเขตปลอดอากรเฉพาะสินค้าที่ต้องเสียอากรขาออกหรือที่ได้รับยกเว้นอากรขาออกตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกำหนด
(ข) การขายสินค้าของคลังสินค้าทัณฑ์บนประเภทร้านค้าปลอดอากรตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรที่ขายให้แก่ผู้ที่เดินทางออกไปนอกราชอาณาจักร ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกำหนด



เรื่อง

การออกใบกำกับภาษีสำหรับลูกค้าอยู่เขต Free Zone และ Free Trade Zone (EPZ เดิม)

แหล่งที่มา

Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

ประเภทภาษี

ภาษีมูลค่าเพิ่ม

ข้อกฎหมาย

มาตรา 80/1 (1), มาตรา 81 (1)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร

ปุจฉา

ขอเรียนถามเกี่ยวกับการออกใบกำกับภาษีสำหรับลูกค้าอยู่เขต Free Zone และ EPZ 

    1. ผู้ขายเป็นบริษัทที่ตั้งอยู่ในเขตทั่วไป ขายสินค้าให้กับลูกค้าที่อยู่เขต Free Zone และ EPZ ออกใบกับภาษี 0% แต่บางครั้งลูกค้าเขต Free Zone และ EPZ ให้ทางผู้ขายออกใบกำกับภาษี 7% ไม่ทราบว่ามีกรณีไหนบ้างค่ะ

    2. ลูกค้าเขต Free Zone และ EPZ  การออกใบกำกับภาษี 0% เหมือนกันใช่ไหมค่ะ

    3. เอกสารที่แนบใบกำกับภาษีไว้สำหรับผู้ตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่สรรพากรตรวจสอบ

        3.1 ขายสินค้าในเขตทั่วไป กรณีทางผู้ขายเป็นผู้นำเข้า ออกใบกำกับภาษี 7%

        3.2 ขายสินค้าให้เขตทั่วไป กรณีทางผู้ขายมอบสิทธิ์ให้ผู้ซื้อนำเข้า ไม่ต้องออกใบกำกับภาษี แต่เอกสารที่แนบ คือ ใบเสร็จรับเงินของกรมศุลกร และใบขนขาเข้า โดยขอจากลูกค้า

        3.3 ขายสินค้าให้ลูกค้าเขต Free Zone และ EPZ กรณีทางผู้ขายเป็นผู้นำเข้า ออกใบกำกับภาษี 0% เอกสารที่แนบใบกำกับภาษี คือ ใบ กศก. 122

        3.4 ขายสินค้าให้ลูกค้าเขต Free Zone และ EPZ กรณีทางผู้ขายมอบสิทธิ์ให้ผู้ซื้อนำเข้า ออกใบกำกับภาษี 0% เอกสารที่แนบใบกำกับภาษี คือ ใบขาเข้า โดยขอจากลูกค้ามา

วิสัชนา

1.เขตปลอดอากร (Free Zone) หมายความว่า เขตปลอดอากรตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร เขตอุตสาหกรรมส่งออกตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และเขตที่มีกฎหมายกำหนดให้ยกเว้นอากรขาเข้า (มาตรา 77/1 (21) แห่งประมวลรัษฎากร แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 35) พ.ศ. 2544 ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2544 เป็นต้นไป)

    เขตปลอดอากร คือ เขตพื้นที่ที่กำหนดไว้ เพื่อประโยชน์ทางอากรศุลกากรในการประกอบอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม หรือกิจการอื่นที่เป็นประโยชน์แก่การเศรษฐกิจของประเทศ โดยผู้ที่ประสงค์จะจัดตั้งเขตปลอดอากรต้องได้รับใบอนุญาตจากอธิบดีกรมศุลกากร

    ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการในเขตปลอดอากร คือ ผู้ที่ได้รับอนุญาตจากอธิบดีให้ประกอบอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม หรือกิจการอื่นใดที่เป็นประโยชน์แก่การเศรษฐกิจของประเทศในเขตปลอดอากร

    สิทธิประโยชน์ในเขตปลอดอากร

    (1) ได้รับยกเว้นอากรขาเข้า สำหรับของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อเข้าไปในเขตปลอดอากรในกรณี ดังนี้

• เครื่องจักร อุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ รวมทั้งส่วนประกอบแห่งของดังกล่าวที่จำเป็นต่อการประกอบกิจการ โดยให้รวมถึงของที่ใช้ในการสร้าง ประกอบหรือติดตั้งโรงงานหรืออาคารในเขตปลอดอากร

• ของที่นำเข้ามาเพื่อใช้ในการประกอบอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม หรือกิจการอื่นใด ที่เป็นประโยชน์แก่การเศรษฐกิจของประเทศ หรือ

• ของที่ปล่อยออกมาจากเขตปลอดอากรอื่น

    (2) ได้รับยกเว้นอากรขาออก สำหรับของที่ปล่อยออกไปจากเขตปลอดอากรเพื่อส่งออกไปนอกราชอาณาจักร

    (3) ในกรณีที่มีกฎหมายบัญญัติให้ของใดได้รับยกเว้นหรือคืนอากรเมื่อส่งออกไปนอกราชอาณาจักร หากนำของนั้นเข้าไปในเขตปลอดอากร ให้ได้รับยกเว้นหรือคืนอากร โดยให้ถือว่าของนั้นได้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักรในเวลาที่ได้นำของนั้นเข้าไปในเขตปลอดอากร

    (4) ได้รับการยกเว้นไม่อยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวกับการควบคุมการนำเข้ามาในราชอาณาจักร การส่งออกไปนอกราชอาณาจักร การครอบครองหรือการใช้ประโยชน์ซึ่งของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร หรือวัตถุดิบภายในราชอาณาจักร ซึ่งนำเข้าไปในเขตปลอดอากร เพื่อผลิต ผสม ประกอบ บรรจุ หรือดำเนินการด้วยวิธีอื่นใดกับของนั้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งออกไปนอกราชอาณาจักร สำหรับผู้ประกอบกิจการในเขตปลอดอากรในพื้นที่ต่อไปนี้

• เขตปลอดอากร ณ สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินอู่ตะเภา

• เขตปลอดอากรที่จัดตั้งในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ

• เขตปลอดอากรที่จัดตั้งในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก

https://www.customs.go.th/cont_strc_simple.php...


2. การนำสินค้าจากต่างประเทศเข้าไปในเขตปลอดอากร ทั้งนี้ เฉพาะสินค้าที่ได้รับยกเว้นอากรขาเข้าตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 81 (1)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร


 3.การนำสินค้าในราชอาณาจักรเข้าไปในเขตปลอดอากรเฉพาะสินค้าที่ต้องเสียอากรขาออกหรือที่ได้รับยกเว้นอากรขาออกตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 125) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการนำสินค้าในราชอาณาจักร เข้าไปในเขตปลอดอากรและการขายสินค้าของคลังสินค้าทัณฑ์บน ประเภทร้านค้าปลอดอากรตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร ตามมาตรา 77/1(14)(ก) และ (ข) แห่งประมวลรัษฎากร ที่เป็นไปตามแบบ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร ถือเป็นการ “ส่งออก” ตามมาตรา 77/1 (14)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งผู้ส่งออกได้สิทธิเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรา 0% ตามมาตรา 80/1 (1) แห่งประมวลรัษฎากร

     การนำของเข้าเก็บในเขตปลอดอากร

• การนำของเข้าจากต่างประเทศ – ให้จัดทำใบขนสินค้า Type 0 และระบุการใช้สิทธิประโยชน์ของเขตปลอดอากรในใบขนสินค้าด้วย

• การรับโอนของจากสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรอื่น เช่นรับโอนของตามมาตรา 29/คลังสินค้าทัณฑ์บน/เขตปลอดอากรอื่น/เขตประกอบการเสรี/ของที่ได้รับการส่งเสริมบีโอไอ – ให้จัดทำใบขนสินค้า Type D และระบุการใช้สิทธิประโยชน์ของเขตปลอดอากรในใบขนสินค้าด้วย

• การนำของจากภายในประเทศ – ให้จัดทำคำร้องแบบกศก. 122 หรือใบขนสินค้า Type D โดยไม่ต้องระบุการใช้สิทธิประโยชน์ของเขตปลอดอากรในใบขนสินค้า


  

4. เขตประกอบการเสรี (Free Trade Zone) 

 

    พระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2522 ได้มีการจัดตั้ง การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยขึ้นเป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมมีชื่อย่อว่า "กนอ." มีวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งหลายประการ โดยเริ่มจากการจัดหาที่ดินที่เหมาะสมเพื่อจัดตั้ง หรือขยายนิคมอุตสาหกรรม หรือเพื่อดำเนินธุรกิจอื่นที่จะเป็นประโยชน์ ดำเนินการปรับปรุงที่ดินเพื่อให้บริการ ตลอดจนจัดสิ่งอำนวยความสะดวกในการดำเนินงาน รวมทั้งสาธารณูปโภคต่างๆให้แก่ผู้ประกอบกิจการอุตสาหกรรมในเขตนิคมอุตสาหกรรม พื้นที่เขตนิคมอุตสาหกรรมแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ

 

    (1) พื้นที่เขตอุตสาหกรรมทั่วไป อันเป็นเขตพื้นที่ที่กำหนดไว้สำหรับการประกอบอุตสาหกรรมและกิจการอื่นที่เป็นประโยชน์หรือเกี่ยวเนื่องกับการประกอบอุตสาหกรรม

 

    (2) พื้นที่เขตประกอบการเสรี (เขตอุตสาหกรรมส่งออกเดิม) อันเป็นเขตพื้นที่ที่กำหนดไว้สำหรับ การประกอบอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม หรือกิจการอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับการประกอบอุตสาหกรรมหรือ พาณิชยกรรม เพื่อประโยชน์ในทางเศรษฐกิจ การรักษาความมั่นคงของรัฐ สวัสดิภาพของประชาชน การจัดการด้านสิ่งแวดล้อม หรือความจำเป็นอื่นตามที่คณะกรรมการกำหนด โดยของที่เข้าไปในเขตดังกล่าวจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร และค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นตามที่กฎหมายบัญญัติ

 

    สิทธิประโยชน์ด้านภาษีอากรในเขตประกอบการเสรี

 

    (1) ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมพิเศษตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน อากรขาเข้า ภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีสรรพสามิตสำหรับเครื่องจักร อุปกรณ์เครื่องมือและเครื่องใช้ รวมทั้งส่วนประกอบของสิ่งของดังกล่าวที่จำเป็นในการผลิตและของที่ใช้ในการสร้างโรงงาน หรืออาคาร

 

    (2) ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมพิเศษตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน รวมทั้งอากรขาเข้าภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีสรรพสามิตสำหรับของที่นำเข้ามาเพื่อใช้ในการผลิตสินค้า หรือเพื่อพาณิชยกรรมสำหรับของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรและนำเข้าไปในเขตประกอบการเสรี

 

    (3) ได้รับยกเว้นอากรขาออก ภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีสรรพสามิตสำหรับของซึ่งได้นำเข้ามา ตามมาตรา 48 แห่งพระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2522 รวมทั้งผลิตภัณฑ์ สิ่งพลอยได้ และสิ่งอื่นที่ได้จากการผลิตแล้วส่งออก

 

    (4) ได้รับยกเว้นหรือคืนค่าภาษีอากรสำหรับของที่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายให้ได้รับยกเว้น หรือ คืนค่าภาษีอากร เมื่อได้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร หรือ หากผู้ประกอบการที่ได้รับยกเว้นอากรสำหรับวัตถุดิบตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520 หรือผู้ประกอบการที่เป็นคลังสินค้าทัณฑ์บนประเภทโรงผลิตสินค้าตามมาตรา 8 ทวิ (2) แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 หรือผู้ประกอบการที่ได้รับสิทธิคืนอากรตามมาตรา 19 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร(ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2482 ส่งของเข้าไปในเขตประกอบการเสรี จะได้รับยกเว้นค่าภาษีอากรหรือคืนค่าภาษีอากรเช่นเดียวกับการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร

 

    (5) ของที่นำเข้าไปในเขตประกอบการเสรีได้รับสิทธิประโยชน์เช่นเดียวกับเขตปลอดอากร

 

    (6) ของ ผลิตภัณฑ์ สิ่งพลอยได้ และสิ่งอื่นที่ได้จากการผลิตในเขตประกอบการเสรีที่นำออกจากเขตประกอบการเสรีและต้องเสียภาษีอากร ไม่ต้องนำราคาของวัตถุดิบภายในราชอาณาจักรที่นำเข้าเข้าไปในเขตประกอบการเสรีเพื่อผลิต ผสมประกอบ บรรจุ หรือดำเนินการอื่นใดที่ไม่มีสิทธิได้รับการคืน หรือ ยกเว้นอากร มาคำนวณค่าภาษีอากรตามมาตรา 52/1 แห่งพระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2550

 

    (7) การนำของเข้ามาในประเทศ หรือวัตถุดิบภายในประเทศ และนำเข้าไปในเขตประกอบการเสรีเพื่อผลิต ผสม ประกอบบรรจุ หรือดำเนินการอื่นใดโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งออก ให้ยกเว้นไม่อยู่ภายในบังคับของกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการนำเข้าการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร การครอบครอง หรือ การใช้ประโยชน์ การควบคุมมาตรฐาน หรือคุณภาพ การประทับตราหรือเครื่องหมายใด ๆ แก่ของนั้น แต่ทั้งนี้ไม่รวมถึงกฎหมายว่าด้วยศุลกากร แต่ถ้าของดังกล่าวก่อให้เกิด หรืออาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคง สุขภาพอนามัยของประชาชน สิ่งแวดล้อม หรือมีพันธกรณีตามข้อผูกพันตามสัญญาหรือความตกลงระหว่างประเทศ ให้รัฐมนตรีมีอำนาจออกกฎกระทรวงกำหนดชนิด หรือประเภทของของนั้นมิให้ได้รับยกเว้นตามกฎหมายดังกล่าวด้วยก็ได้ มาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2522 

 

    พิธีการศุลกากรในเขตประกอบการเสรี (เขตอุตสาหกรรมส่งออกเดิม)

 

    (1) ผู้ประกอบการยื่นใบขนสินค้าขาเข้าเพื่อนำของเข้าไปในเขตประกอบการเสรี โดยต้องมีหนังสือรับรองจากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ว่าเป็นผู้ประกอบการในเขตประกอบการเสรีแนบมาด้วย ส่วนกรณีเป็นการนำเข้าตามมาตรา 48 แห่ง พ.ร.บ. การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2522 ต้องมีหนังสือยกเว้นอากรจากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเพิ่มเติมด้วย

 

    (2) ผู้นำของเข้าซึ่งการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยมีหนังสือรับรองว่าเป็นผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการขนย้ายสินค้า จะต้องทำหนังสือสัญญาประกันไว้กับกรมศุลกากรตามแบบที่กำหนด และการขนส่งต้องไปตามเส้นทางที่กรมศุลกากรกำหนดด้วย

 

https://www.customs.go.th/cont_strc_simple.php...

 


 

ต่อข้อถาม ขอเรียนว่า

 

เกี่ยวกับการออกใบกำกับภาษีสำหรับลูกค้าอยู่เขต Free Zone และ Free Trade Zone (EPZ เดิม)

 

1.ผู้ขายเป็นบริษัทที่ตั้งอยู่ในเขตทั่วไป ขายสินค้าให้กับลูกค้าที่อยู่ เขต Free Zone และ Free Trade Zone (EPZ เดิม) ออกใบกับภาษี 0% ในกรณีที่บริษัทผู้ขายเป็นผู้ดำเนินพิธีการทางศุลกากร ในการนำของจากภายในประเทศเข้าในไปในเขตดังกล่าว – ให้จัดทำคำร้องแบบ กศก. 122 หรือใบขนสินค้า Type D โดยไม่ต้องระบุการใช้สิทธิประโยชน์ของเขตปลอดอากรในใบขนสินค้า

 

แต่บางครั้งลูกค้าเขต Free Zone และ Free Trade Zone (EPZ เดิม) ให้ทางผู้ขายออกใบกำกับภาษี 7% ในกรณีที่บริษัทผู้ขายมิได้เป็นผู้ดำเนินพิธีการทางศุลกากร ในการนำของจากภายในประเทศเข้าในไปในเขตดังกล่าว  

 


 

2. ลูกค้าเขต Free Zone และ Free Trade Zone (EPZ เดิม) การออกใบกำกับภาษี 0% เหมือนกัน ถูกต้องแล้วครับ

 

3.เอกสารที่แนบใบกำกับภาษีไว้สำหรับผู้ตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่สรรพากรตรวจสอบ

 

    3.1 ขายสินค้าในเขตทั่วไป กรณีทางผู้ขายเป็นผู้นำเข้า ออกใบกำกับภาษี 7%

 

    3.2 ขายสินค้าให้เขตทั่วไป กรณีทางผู้ขายมอบสิทธิ์ให้ผู้ซื้อนำเข้า ตามมาตรา 79 (4) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ 2 (9) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 40) เรื่อง กำหนดลักษณะ และเงื่อนไข ค่าตอบแทนที่ไม่ต้องนำมารวมคำนวณมูลค่าของฐานภาษี ตามมาตรา 79 (4) แห่งประมวลรัษฎากร ไม่ต้องออกใบกำกับภาษี แต่ต้องออกใบส่งของ/ใบเสร็จรับเงินค่าสินค้า และเอกสารที่แนบ คือ สำเนาใบส่งของ/ (Invoice/Receipt) ของบริษัทฯ ใบเสร็จรับเงินค่าภาษีมูลค่าเพิ่มของกรมศุลกร และสำเนาใบขนสินค้าขาเข้า โดยขอจากลูกค้า

 

    3.3 ขายสินค้าให้ลูกค้าเขต Free Zone และ Free Trade Zone (EPZ เดิม) กรณีทางผู้ขายเป็นผู้นำเข้า ออกใบกำกับภาษี 0%  เอกสารที่แนบใบกำกับภาษี คือ สำเนาคำร้องแบบ กศก 122 หรือใบขนสินค้า Type D ในนามบริษัทฯ

 

    3.4 ขายสินค้าให้ลูกค้าเขต Free Zone และ Free Trade Zone (EPZ เดิม) กรณีทางผู้ขายมอบสิทธิ์ให้ผู้ซื้อนำเข้า ออกใบกำกับภาษี 0% เอกสารที่แนบใบกำกับภาษี คือ สำเนาคำร้องแบบ กศก 122 หรือใบขนสินค้า Type D ในนามบริษัทฯ โดยขอจากลูกค้ามา

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ

  

คลิ๊กที่นี่ เพื่อติดตาม FB เพจ "อาจารย์ สุเทพ พงษ์พิทักษ์"



หมายเหตุ: TAX CASE STUDY จาก Tax-EZ Website เป็นเพียงเคสตัวอย่างเท่านั้น  กรุณาตรวจสอบข้อมูลก่อนนำไปใช้อ้างอิง

หมายเหตุ : TAX CASE STUDY จาก Tax-EZ Website เป็นเพียงเคสตัวอย่างเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลก่อนนำไปใช้อ้างอิง
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การท่องเว็บที่ดีขึ้น ข้อตกลงและนโยบายความเป็นส่วนตัว
ยอมรับ