1. ตามหนังสือตอบข้อหารือของกรมสรรพากรเลขที่ กค 0706/พ./3340 ลงวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2548 “กรณีภาษีมูลค่าเพิ่ม เนื่องจากสำนักงานฯ มีรายรับจากค่าธรรมเนียม ค่าบำรุง ค่าตอบแทน ค่าบริการ ค่าเช่าพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ ค่าจัดอบรมสัมมนา ค่าเช่าห้องฝึกอบรม/คอมพิวเตอร์ ซึ่งรายรับทุกประเภทดังกล่าวสำนักงานฯ จะนำไปใช้ในการดำเนินงานโดยไม่นำส่งกระทรวงการคลังตามกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลัง และกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ ตามมาตรา 11 แห่งพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานฯ เงินที่สำนักงานฯ ได้รับ จึงเข้าลักษณะเป็นประโยชน์หรือค่าตอบแทนที่ได้รับจากการให้บริการตามมาตรา 77/1 (10) แห่งประมวลรัษฎากร อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 77/2 แห่งประมวลรัษฎากร”
2. ตามหนังสือตอบข้อหารือของกรมสรรพากรเลขที่ กค 0702/8013 ลงวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2557 “กรณีสมาคมฯ ซึ่งเข้าลักษณะเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร เรียกเก็บเงินสนับสนุนค่าจัดงานฯ จากบริษัท บริษัท ส. เพื่อสมาคมฯ จะนำเงินดังกล่าวไปจ่ายให้แก่บริษัทที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ ที่ร่วมการจัดงานอีกทอดหนึ่ง ตามเอกสารใบแจ้งหนี้ (Inv/2013-004) และบริษัท บริษัท ส. ผู้จ่ายเงินได้จากการให้บริการได้หักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 3.0 ตามหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามข้อเท็จจริงดังกล่าว เข้าลักษณะเป็นค่าตอบแทนที่ได้รับจากการกระทำใดๆ อันอาจหาประโยชน์อันมีมูลค่า ซึ่งถือเป็นการให้บริการ ตามมาตรา 77/1 (10) แห่งประมวลรัษฎากร เงินค่าบริการจัดงานฯ ดังกล่าว เข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร ผู้จ่ายเงินซึ่งเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น ซึ่งจ่ายเงินได้ดังกล่าวให้แก่ผู้รับซึ่งเป็นมูลนิธิหรือสมาคมไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามข้อ 12/1 (2) ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 4/2528 เรื่อง สั่งให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2528”
3.https://www.facebook.com/Suthep.../posts/5131619723555629/ “กรณีบริษัทฯ จ่ายเงินสนับสนุนการแข่งขัน กอล์ฟ ให้ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย แล้วทาง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้ออกหนังสือ ขอบคุณให้กับบริษัทฯ การจ่ายเงินสนับสนุนดังกล่าว หากมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ บริษัทฯ ก็ย่อมนำไปบันทึกเป็นค่าโฆษณาประชาสัมพันธ์ของบริษัทฯ ในรอบระยะเวลาบัญชีที่จ่ายนั้น ได้”
ต่อข้อถาม ขอเรียนว่า กรณีบริษัทฯ ได้หนังสือเชิญจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เพื่อเชิญสนับสนุนจัดกิจกรรมแข่งขันการวิ่งแข่ง โดยที่รายได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายจะมอบให้จะกับโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณะสุข (แต่ลองหาในกรมสรรพากรแล้วไม่เจอครับ) เช่นนี้ หากโรงพยาบาลเอกชนดังกล่าว ได้ออกใบกำกับภาษีให้แก่บริษัทฯ โดยในการจัดกิจกรรมแข่งขันการวิ่ง ได้มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ชื่อของบริษัทฯ เป็นผู้สนับสนุนกิจกรรมแข่งขันการวิ่งดังกล่าว บริษัทฯ ก็ย่อมนำไปบันทึกเป็นค่าโฆษณาประชาสัมพันธ์ของบริษัทฯ ในรอบระยะเวลาบัญชีที่จ่ายนั้น ได้ โดยบริษัทฯ มีหน้าที่ต้องคำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายในอัตรา 2% ของเงินสนับสนุนดังกล่าว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆมาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ คลิ๊กที่นี่ เพื่อติดตาม FB เพจ "อาจารย์ สุเทพ พงษ์พิทักษ์"
หมายเหตุ: TAX CASE STUDY จาก Tax-EZ Website เป็นเพียงเคสตัวอย่างเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลก่อนนำไปใช้อ้างอิง |