ข้อพิพาทกฏหมายที่น่าสนใจ

ทำสัญญาให้บริการแต่การจ้างมีลักษณะจ้างแรงงาน การเลิกจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยหรือไม่
เรื่อง | ทำสัญญาให้บริการแต่การจ้างมีลักษณะจ้างแรงงาน การเลิกจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยหรือไม่ |
แหล่งที่มา | ข้อพิพาทกฏหมายที่น่าสนใจ |
วันที่ | |
ประเภทภาษี | |
ข้อกฎหมาย | พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 5, ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 575 |
คำถาม | ทำสัญญาให้บริการแต่การจ้างมีลักษณะจ้างแรงงาน การเลิกจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยหรือไม่ |
คำตอบ | คดีแรงงาน เรื่อง แม้ทำสัญญาให้บริการแต่การจ้างมีลักษณะจ้างแรงงาน เลิกจ้างต้องจ่ายค่าชดเชย คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1176/2560 กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 5, ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 575 บริษัทว่าจ้างผู้รับจ้างซึ่งเป็นโจทก์ทำงานในตำแหน่งที่ปรึกษาอาวุโสฝ่ายจัดซื้อ โดยจัดทำสัญญาชื่อว่า Service Agreement (ข้อตกลงในการให้บริการ) เป็นช่วงๆ และต่อสัญญาเรื่อยมา แต่ต่อมาวันที่ 20 เมษายน 2555 บริษัทแจ้งเลิกจ้างผู้รับจ้างให้มีผลในวันที่ 30 มิถุนายน 2555 โดยไม่มีความผิด ผู้รับจ้างจึงฟ้องศาลแรงงานเพื่อขอให้บริษัทจ่ายค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี ค่าชดเชย พร้อมดอกเบี้ย ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า นิติสัมพันธ์ตามสัญญาจ้างแรงงานต้องเป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ประกอบประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 575 ซึ่งความหมายของลูกจ้าง คือ ผู้ซึ่งตกลงทำงานให้แก่นายจ้างโดยรับค่าจ้าง ทั้งนี้ ลูกจ้างต้องปฏิบัติตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานหรือระเบียบหรือคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรมของนายจ้าง เช่น วันเวลาทำงาน วันหยุด วันลาต่างๆ หากลูกจ้างฝ่าฝืนนายจ้างมีสิทธิลงโทษลูกจ้างได้ หรืออีกนัยหนึ่งคือนายจ้างมีอำนาจบังคับบัญชาสามารถออกคำสั่งให้ลูกจ้างทำงานให้เป็นไปตามข้อบังคับฯ ของนายจ้าง หากลูกจ้างฝ่าฝืนนายจ้างมีสิทธิลงโทษลูกจ้างได้ คดีนี้ สัญญาว่าจ้างระหว่างผู้รับจ้าง (โจทก์) กับบริษัท (จำเลย) แม้จะเรียกชื่อสัญญาว่า Service Agreement แปลว่า ข้อตกลงในการให้บริการ แต่เมื่อพิจารณาสัญญาดังกล่าว ข้อ 4.3 ที่กำหนดให้ผู้รับจ้าง (โจทก์) ต้องปฏิบัติตามกฎและข้อบังคับทั้งหมดของลูกค้าของบริษัทอย่างเคร่งครัด จึงเป็นกรณีที่บริษัทใช้อำนาจบังคับบัญชาที่มีต่อผู้รับจ้าง ส่งให้ผู้รับจ้าง (โจทก์) ไปทำงานกับบริษัท ป. จำกัด ซึ่งเป็นลูกค้าของบริษัทและบริษัทได้มอบอำนาจบังคับบัญชาของบริษัทให้ลูกค้าของบริษัทใช้อำนาจดังกล่าวแทน ดังนั้น บริษัทจึงมีอำนาจบังคับบัญชาโจทก์ ทั้งเมื่อพิจารณาจากพฤติการณ์ที่บริษัทจ่ายค้าจ้างเพื่อตอบแทนในการทำงานของโจทก์มาโดยตลอด และในขณะทำงานบริษัทจัดหาใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าวให้แก่โจทก์ โดยระบุว่าโจทก์ทำงานเป็นลูกจ้างและบริษัทจัดให้โจทก์เข้าประกันตนต่อสำนักงานประกันสังคม จึงแสดงว่าบริษัทกับโจทก์มีนิติสัมพันธ์เป็นนายจ้างและลูกจ้างต่อกันตามพะราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 5 และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 575 เมื่อบริษัทเลิกจ้างโจทก์ ศาลจึงพิพากษาให้บริษัทจ่ายค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี ค่าชดเชย พร้อมดอกเบี้ย และให้ศาลแรงงานกลางพิจารณากำหนดค่าเสียหายจากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมแก่โจทก์
ที่ปรึกษาด้านกฏหมายทั่วไป เช่น การยื่นขอใบอนุญาตต่างๆ และ การตรวจสอบข้อกฎหมาย จัดทำระเบียบข้อบังคับบริษัทและหนังสือสัญญาการจ้างงาน จัดทำและตรวจทานหนังสือสัญญา รับคำปรึกษาและแก้ไขปัญหาด้านแรงงาน รับคำปรึกษาด้านการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา บริการงานด้านมรดก และอื่นๆ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ แผนกกฏหมาย (ทนายความ) ติดต่อโดยตรง : 02-261-8182 E-mail : legal@aapth.com |