Case study

การให้บริการและฐานภาษีของภาษีออกแทนให้


เรื่อง การให้บริการและฐานภาษีของภาษีออกแทนให้
แหล่งที่มา Case study
วันที่ 08/05/2025
ประเภทภาษี ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย,ภาษีมูลค่าเพิ่ม
ข้อกฎหมาย
คำถาม

บริษัทให้บริการบริษัทต่างประเทศ บริษัทออกแทนภาษีหัก ณ ที่จ่ายให้บริษัทต่างประเทศ   

คำถาม บริษัทจะต้องคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่ายและ ฐานในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างไรหรอคะ

คำตอบ

ตอบ  กรณีบริษัทในประเทศไทยให้บริการแก่ บริษัทต่างประเทศ และออกภาษีหัก ณ ที่จ่าย แทนบริษัทต่างประเทศ ให้พิจารณาเรื่องหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบภาษีหัก ณ ที่จ่าย แทนบริษัทต่างประเทศ 


กรณีที่ ไม่ได้มีระบุในสัญญา  ว่าบริษัทในประเทศไทยออกแทนภาษีหัก ณ ที่จ่ายให้บริษัทต่างประเทศ

ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ที่ออกแทน ถือเป็น การให้โดยเน่หา และเป็น รายจ่ายที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจการ บริษัทไม่สามารถรับรู้เป็นรายจ่ายทางภาษีได้ ถือเป็นค่าใช้จ่ายต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี(3)(13) แห่งประมวลรัษฎากร   ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่ายแบบออกแทน ให้คำนวณตามปกติ เช่น ถ้า ค่าบริการ 1 แสนบาท ต้องหัก ณ ที่จ่าย 15% ตามมาตรา 70  แห่งประมวลรัษฎากร   ประกอบกับอนุสัญญาภาษีซ้อน

  • คำนวณหักภาษี ณ ที่จ่าย 100,000 x 15 /100 = 15,000 บาท 
  • จ่ายเงินให้บริษัทต่างประเทศ 1 แสนบาท

ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภ.พ.36 ตามมาตรา 83/6(2)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร    ให้คำนวณจาก ค่าบริการ 1 แสนบาท x 7% 

การบันทึกบัญชี  

Dr. ค่าบริการ

100,000


Dr. ค่าใช้จ่ายบวกกลับ

15,000


Dr. ภาษีซื้อรอใบกำกับ

7,000


         Cr. ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ภ.ง.ด.54


15,000

         Cr. ภาษีมูลค่าเพิ่มนำส่งตาม ภ.พ.36


7,000

         Cr. เงินฝาก


100,000


          


กรณีที่ มีระบุในสัญญา ว่าบริษัทในประเทศไทย ต้องออก ภาษีหัก ณ ที่จ่าย แทนบริษัทต่างประเทศ

ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ที่ออกแทน ถือเป็นรายจ่ายที่เกี่ยวข้องกับกิจการ บริษัทสามารถรับรู้เป็นรายจ่ายทางภาษีได้ ไม่เป็นค่าใช้จ่ายต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี(3)(13) แห่งประมวลรัษฎากร   ดังนั้น จึงต้องคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่ายแบบออกแทน  เช่น  ค่าบริการ 1 แสนบาท ต้องหัก ณ ที่จ่าย 15% ตามมาตรา 70  แห่งประมวลรัษฎากร   ประกอบกับอนุสัญญาภาษีซ้อน

  • คำนวณหักภาษี ณ ที่จ่าย แบบออกแทน = 100,000 x 15 /(100-15)  = 17,647 บาท 
  • จ่ายเงินให้บริษัทต่างประเทศ 1 แสนบาท

ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภ.พ.36 ตามมาตรา 83/6(2)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร   

 ให้คำนวณจาก ค่าบริการ (100,000 + 17,647.06)x 7% 

การบันทึกบัญชี  

Dr. ค่าบริการ (100,000 + 17,647.06)

117,647.06


Dr. ภาษีซื้อรอใบกำกับ 117,647.06  x 7%

8,235.29


         Cr. ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ภ.ง.ด.54


17,647.06

        Cr. ภาษีมูลค่าเพิ่มนำส่งตาม ภ.พ.36


8,235.29

         Cr. เงินฝาก


100,000



มาตรา 65 ตรีรายการต่อไปนี้ ไม่ให้ถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ

“(3) รายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการส่วนตัว การให้โดยเสน่หา หรือการกุศล เว้นแต่..

(13) รายจ่ายซึ่งมิใช่รายจ่ายเพื่อหากำไรหรือเพื่อกิจการโดยเฉพาะ


มาตรา 83/6   เมื่อมีการชำระราคาสินค้าหรือ ราคาค่าบริการให้กับผู้ประกอบการดังต่อไปนี้ ให้ผู้จ่ายเงินค่าซื้อสินค้า หรือค่าบริการมีหน้าที่นำส่งเงินภาษีมูลเพิ่มที่ผู้ประกอบการมีหน้าที่เสียภาษี
 
    (1) ผู้ประกอบการที่อยู่นอกราชอาณาจักรซึ่งได้เข้ามาประกอบกิจการขายสินค้า หรือให้บริการในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว และไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นการชั่วคราวตามมาตรา 85/3
     “(2) ผู้ประกอบการที่ได้ให้บริการจากต่างประเทศและได้มีการใช้บริการนั้นในราชอาณาจักรทั้งนี้ เฉพาะ
(ก) ผู้ประกอบการที่ได้ให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์แก่ผู้ใช้ซึ่งเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียน
        (ข) ผู้ประกอบการที่ได้ให้บริการอื่นนอกจากบริการทางอิเล็กทรอนิกส์แก่ผู้ใช้ทุกราย”



อ้างอิง

เรื่อง

หลักการคิดหัก ณ ที่จ่ายออกแทน

แหล่งที่มา

Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

วันที่

วันที่ถาม 11/02/2025 - วันที่ตอบ 18/03/2025

ประเภทภาษี

ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย,ภาษีเงินได้นิติบุคคล

ข้อกฎหมาย

มาตรา 65 ตรี (3) แห่งประมวลรัษฎากร

ปุจฉา

การออกภาษีหัก ณ ที่จ่าย แบบยื่น ภ.ง.ด.53 แบบภาษีออกให้หน่อยนะคะ กรณีเป็นการจ่ายค่าบริการ หัก ณ ที่จ่าย 3% คิดจากยอดก่อนภาษีมูลค่าเพิ่มหรือเปล่าค่ะในการนำส่งกรมสรรพากร

วิสัชนา

กรณีเป็นการจ่ายค่าบริการ หัก ณ ที่จ่าย 3% คิดจากยอดก่อนภาษีมูลค่าเพิ่ม ถูกต้องแล้วครับ

ถ้ากรณีที่ไม่ได้หัก ณ ที่จ่ายไว้แล้ว บริษัทฯ เป็นผู้รับผิดชอบจ่ายภาษีในส่วนนี้แทน นั้น ในเบื้องต้นควรหักไว้เพียง 3% ของค่าบริการ และนำส่ง แล้วตั้ง Supplier เป็นลูกหนี้ สำหรับจำนวนภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย จากนั้นให้มีจดหมายทวงถาม 2 ครั้ง แล้วจำหน่วยเป็นหนี้สูญ

เพราะหากออกให้โดยไม่มีข้อตกลงในทางภาษีอากร ถือเป็นรายจ่ายให้โดยเสน่หา เข้าลักษณะเป็นรายจ่ายต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (3) แห่งประมวลรัษฎากร


  

Wawa Mrita

หลักการคิดหัก ณ ที่จ่ายเหมือนกันหรือเปล่าค่ะ และติ๊กหัก ณ ที่จ่ายในแบบเป็นเงื่อนไข 2 (ออกให้ตลอดไป)

ถ้าหัก ณ ที่จ่ายยอดหลักสิบละคะ บริษัทฯ ลืมหัก ณ ที่จ่าย

แต่ตกลงว่าจะรับผิดชอบยื่นในส่วนนี้เอง ส่วนที่ออกให้ถือเป็นรายการบัญชีต้องห้ามทางภาษี

สามารถทำแบบนี้ได้หรือเปล่าค่ะ

ไม่ต้องเอาภาษีมาทบด้วยฐานการคิด 3% ใช่มั้ยค่ะ


  

สุเทพ พงษ์พิทักษ์ วิสัชนา:

1. หลักการคิดหัก ณ ที่จ่าย ต่างกันเป็น 3 กรณี คือ

    กรณีที่ 1ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย เช่น จ่ายเงินได้ 100,000 บาท ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย 3% (100,000 x3/100) = 3,000.00 บาท บริษัทฯ จ่ายเงินสุทธิให้แก่ผู้มีเงินได้ 97,000 บาท

    กรณีที่ 2ออกภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ให้ตลอดไป (ออกให้ทุกทอด) เช่น จ่ายเงินได้ 100,000 บาท ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย 3% (100,000 x3/97) = 3,092.78 บาท เช่นนี้ ผู้มีเงินได้ได้รับเงินได้ทั้งสิ้น 103,000 บาท บริษัทฯ จ่ายเงินสุทธิให้แก่ผู้มีเงินได้ 100,000 บาท

    กรณีที่ 3ออกภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายครั้งเดียว (ทอดเดียว) เช่น เงินได้ 100,000 บาท ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย 3% (100,000 x3/100) = 3,000 บาท ออกภาษีเงินได้ให้ 3,000 บาท รวมเป็นภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายทั้งสิ้น 3,090.00 บาท ออกให้ทอดเดียว 3,000 บาท บริษัทฯ จึงต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายไว้อีก 90 บาท เช่นนี้ ผู้มีเงินได้ได้รับเงินได้ทั้งสิ้น 103,000 บาท บริษัทฯ จ่ายเงินสุทธิให้แก่ผู้มีเงินได้ 99,910 บาท


  

2. กรณีหัก ณ ที่จ่ายยอดหลักสิบละคะ บริษัทฯ ลืมหัก ณ ที่จ่าย แต่ตกลงว่าจะรับผิดชอบยื่นในส่วนนี้เอง ส่วนที่ออกให้โดยมีข้อตกลง (ควรเป็นลายลักษณ์อักษร) เช่นนี้ บริษัทฯ นำภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ที่ออกแทนให้มาถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (3) แห่งประมวลรัษฎากร


  

3. การออกภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย แทนผู้มีเงินได้ ต้องนำจำนวนภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย มาถือรวมเป็นฐานในการคำนวณภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ตามหลักกฎหมาย ไม่สามารถทำแบบที่คุณกล่าวได้ โดยไม่ต้องเอาภาษีมาทบด้วยฐานการคิด 3% ทั้งนี้ตามมาตรา 39 คำว่า “เงินได้พึงประเมิน” ประกอบมาตรา 40 วรรคท้าย แห่งประมวลรัษฎากร


ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะคลิ๊กที่นี่ เพื่อติดตาม FB เพจ "อาจารย์ สุเทพ พงษ์พิทักษ์"


หมายเหตุ : TAX CASE STUDY จาก Tax-EZ Website เป็นเพียงเคสตัวอย่างเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลก่อนนำไปใช้อ้างอิง
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การท่องเว็บที่ดีขึ้น ข้อตกลงและนโยบายความเป็นส่วนตัว
ยอมรับ