Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

บริษัทฯ รับจำนองที่ดินถูกฟ้องบังคับคดี จะหยุดรับรู้รายไ้ด้ดอกเบี้ยจากการรับจำนอง
เรื่อง | บริษัทฯ รับจำนองที่ดินถูกฟ้องบังคับคดี จะหยุดรับรู้รายไ้ด้ดอกเบี้ยจากการรับจำนอง |
แหล่งที่มา | Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ |
วันที่ | วันที่ถาม 31/07/2024 - วันที่ตอบ 12/08/2024 |
ประเภทภาษี | ภาษีเงินได้นิติบุคคล |
ข้อกฎหมาย | มาตรา 702 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ |
ปุจฉา | กิจการเป็นนิติบุคคลรับจำนองที่ดิน มีรายได้ดอกเบี้ยที่เกิดจากการรับจำนอง ดอกเบี้ยดังกล่าวกิจการนำส่ง ภ.ธ.40 แล้วนำมาคำนวณรายได้เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามรอบระยะเวลาบัญชี หากกิจการถูกฟ้องเกี่ยวกับการจำนองที่ดินที่รับจำนองดังกล่าว คำถาม 1. กิจการสามารถหยุดรับรู้รายได้ดอกเบี้ยได้หรือไม่ นับจากวันถูกฟ้องบังคับคดี หรือ 2. รับรู้รายได้ดอกเบี้ยต่อจนครบอายุสัญญา |
วิสัชนา | 1. ตามมาตรา 702 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ได้บัญญัติลักษณะของสัญญาจำนองไว้ดังนี้ “มาตรา 702 อันว่าจำนองนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่ง เรียกว่าผู้จำนอง เอาทรัพย์สินตราไว้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่าผู้รับจำนอง เป็นประกันการชำระหนี้ โดยไม่ส่งมอบทรัพย์สินนั้นให้แก่ผู้รับจำนอง ผู้รับจำนองชอบที่จะได้รับชำระหนี้จากทรัพย์สินที่จำนองก่อนเจ้าหนี้สามัญมิพักต้องพิเคราะห์ว่ากรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินจะได้โอนไปยังบุคคลภายนอกแล้วหรือหาไม่” จากบทบัญญัติดังกล่าว องค์ประกอบของสัญญาจำนอง 1.1 ต้องมีหนี้ประธานระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ เนื่องจากการจำนองเป็นการประกันการชำระหนี้รูปแบบหนึ่ง โดยสัญญาจำนองเป็นการเอาทรัพย์สินเป็นประกัน แทนการประกันด้วยบุคคล หรือการค้ำประกัน 1.2 เอาทรัพย์สินตราไว้แก่ผู้รับจำนองเพื่อประกันการชำระหนี้โดยไม่ต้องส่งมอบทรัพย์ที่จำนอง 1.3 ผู้รับจำนองมีสิทธิได้รับชำระหนี้จากทรัพย์สินที่จำนองก่อนเจ้าหนี้สามัญ 1.4 ผู้รับจำนองชอบที่จะได้รับชำระหนี้ก่อนถึงแม้ว่าทรัพย์จำนองจำนวนกรรมสิทธิ์ไปแล้ว 1.5 ผู้จำนองต้องเป็นเจ้าของทรัพย์ที่จำนอง 2. แบบของสัญญาจำนอง ตามมาตรา 714 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บัญญัติว่า “มาตรา 714 อันสัญญาจำนองนั้น ท่านว่าต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่” 3. การจำนองนั้นสามารถจำนองทรัพย์หลายสิ่งเพื่อเป็นการประกันหนี้รายเดียว หรือจำนองทรัพย์สินสิ่งเดียวเป็นการประกันการชำระหนี้หลายราย ตามมาตรา 710 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บัญญัติว่า “ทรัพย์สินหลายสิ่งมีเจ้าของคนเดียวหรือหลายคนจะจำนองเพื่อประกันการชำระหนี้แต่รายหนึ่งรายเดียว ท่านก็ให้ทำได้ และในการนี้คู่สัญญาจะตกลงกันดังต่อไปนี้ก็ได้ คือว่า (1) ให้ผู้รับจำนองใช้สิทธิบังคับเอาแก่ทรัพย์สินซึ่งจำนองตามลำดับอันระบุไว้ (2) ให้ถือเอาทรัพย์สินแต่ละสิ่งเป็นประกันหนี้เฉพาะแต่ส่วนหนึ่งส่วนใดที่ระบุไว้” 4. หนี้ที่จำนองครอบคลุม ตามมาตรา 715 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บัญญัติว่า “มาตรา 715 ทรัพย์สินซึ่งจำนองย่อมเป็นประกันเพื่อการชำระหนี้กับทั้งค่าอุปกรณ์ต่อไปนี้ด้วย คือ (1) ดอกเบี้ย (2) ค่าสินไหมทดแทนในการไม่ชำระหนี้ (3) ค่าฤชาธรรมเนียมในการบังคับจำนอง” 5. ผู้จำนองชำระหนี้ล้างจำนองเป็นงวด ๆ ตามมาตรา 713 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บัญญัติว่า “มาตรา 713 ถ้ามิได้ตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่นในสัญญาจำนอง ท่านว่าผู้จำนองจะชำระหนี้ล้างจำนองเป็นงวด ๆ ก็ได้” ต่อข้อถาม ขอเรียนว่า กรณีบริษัทฯ รับจำนองที่ดิน มีรายได้ดอกเบี้ยที่เกิดจากการรับจำนอง ดอกเบี้ยดังกล่าวกิจการนำส่ง ภ.ธ.40 แล้วนำมาคำนวณรายได้เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามรอบระยะเวลาบัญชี หากกิจการถูกฟ้องเกี่ยวกับการจำนองที่ดินที่รับจำนองดังกล่าว กิจการสามารถหยุดรับรู้รายได้ดอกเบี้ยได้ นับจากวันถูกฟ้องบังคับคดี เนื่องจากการฟ้องร้องเกี่ยวกับการจำนองที่ดินดังกล่าว ถือเป็นการบอกเลิกสัญญา แต่บริษัทฯ ย่อมมีสิทธิเรียกค่าความเสียหายต่อจากวันที่บอกเลิกสัญญา โดยให้รับรู้รายได้ก็ต่อเมื่อศาลสั่ง หรือคดีสิ้นสุดลง ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ |