Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

ประมาณกำไรสุทธิตามแบบ ภ.ง.ด.51 นำส่งไว้สูงกว่าภาษีปีก่อน
เรื่อง | ประมาณกำไรสุทธิตามแบบ ภ.ง.ด.51 นำส่งไว้สูงกว่าภาษีปีก่อน |
แหล่งที่มา | Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ |
วันที่ | วันที่ถาม 26/03/2024 - วันที่ตอบ 31/03/2024 |
ประเภทภาษี | ภาษีเงินได้นิติบุคคล |
ข้อกฎหมาย | มาตรา 67 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร , คำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 50/2537ฯ |
ปุจฉา | ขอสอบถาม เรื่อง ประมาณการกำไรขาดไป 25% ค่า ปี 2565 ปี 2564 กำไรทางภาษี 1,014,261.70 613,472.39 ประมาณการกำไร (ภ.ง.ด.51) 640,000 สูงกว่า เข้าข่าย ป. 152/2558 กึ่งหนึ่ง 320,000.00 ภาษีที่ต้องเสีย 3,000.00 มีภาษีหักไว้ ณ ที่จ่าย 21,000.00 เพราะฉะนั้น ภ.ง.ด.51 ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม 1,014,261.70 – 640,000 374,361.70 คิดเป็น (374,361.70 x 100/1,014261.70) = 36.89% สรรพากรพื้นที่แจ้งว่า เสียเงินเพิ่ม ได้แย้งไปตาม ป. 152/2558 ข้อ 2 สรรพากรแย้งกลับมาว่าไม่เข้าค่ะ โดยอ้างเรื่องการลดอัตราภาษีและพูดเรื่อง ม.67 ตรี ค่ะ จึงขอเรียนปรึกษาอาจารย์ว่า สิ่งที่บริษัทฯ ไปแย้งว่าตาม 152/2558 นั้นถูกต้องไหมคะ |
วิสัชนา | ตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 50/2537 เรื่อง แนวทางการพิจารณา"เหตุอันสมควร" กรณีแสดงประมาณการกำไรสุทธิขาดไป ตามมาตรา 67 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2537 แก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 152/2558ฯ ใช้บังคับในการคำนวณภาษีเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ซึ่งมีรอบระยะเวลาบัญชีเริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2555 เป็นต้นไป “ตามที่บทบัญญัติมาตรา 67 ทวิ (1) แห่งประมวลรัษฎากร บัญญัติให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากกำไรสุทธิ จัดทำประมาณการกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิ ซึ่งได้จากกิจการหรือเนื่องจากกิจการที่ได้กระทำในรอบระยะเวลาบัญชี แล้วให้คำนวณและชำระภาษีจากกึ่งหนึ่งของประมาณการกำไรสุทธิในรอบระยะเวลาบัญชีนั้น และในกรณีที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลดังกล่าว ได้แสดงประมาณการกำไรสุทธิขาดไปเกินร้อยละ 25 ของกำไรสุทธิในรอบระยะเวลาบัญชีนั้น โดยไม่มีเหตุอันสมควร บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นต้องเสียเงินเพิ่มอีกร้อยละ 20 ของภาษีที่ชำระขาด ตามมาตรา 67 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร แม้ต่อมาจะได้มีหนังสือที่ กค 0810/6379 ลงวันที่ 27 เมษายน 2533 เรื่อง แนวทางการพิจารณา “เหตุอันสมควร” ตามมาตรา 67 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร ให้ถือปฏิบัติแล้วก็ตาม แต่ในระยะเวลาต่อมา การพิจารณา “เหตุอันสมควร” ก็ยังเป็นเรื่องยุ่งยากสับสนและไม่สามารถแสดงได้ว่าความ “สมควร” เกิดขึ้นจริง และโดยที่การเสียภาษีตามมาตรา 67 ทวิ เป็นเพียงการจัดเก็บภาษีก่อนถึงกำหนดเวลายื่นแบบแสดงรายการประจำปี ฉะนั้น เพื่ออำนวยความสะดวกในการพิจารณา “เหตุอันสมควร” ดังกล่าว กรมสรรพากรจึงมีคำสั่งเพื่อให้เจ้าพนักงานสรรพากรถือเป็นแนวทางปฏิบัติเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ ข้อ 1 กรณีดังต่อไปนี้ ให้ถือว่าเป็นกรณีมีเหตุอันสมควร (1) กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลได้จัดทำประมาณการกำไรสุทธิและยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีครึ่งปีไว้ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ได้ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในรอบระยะเวลาบัญชีที่แล้ว (2) กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ได้จัดทำประมาณการกำไรสุทธิซึ่งได้จากกิจการหรือเนื่องจากกิจการที่ได้กระทำหรือจะได้กระทำในรอบระยะเวลาบัญชีนั้น ไม่น้อยกว่ากำไรสุทธิที่ได้ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในรอบระยะเวลาบัญชีที่แล้ว แต่ได้ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีครึ่งปีไว้น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ได้ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในรอบระยะเวลาบัญชีที่แล้ว เนื่องจากได้รับยกเว้นหรือลดอัตราภาษี” ต่อข้อถาม ขอเรียนว่า กรณีตามข้อเท็จจริง ในรอบระยะเวลาบัญชีปี 2565 บริษัทฯ ประมาณกำไรสุทธิตามแบบ ภ.ง.ด.51 เป็นจำนวน 640,000 บาท ซึ่งไม่น้อยกว่ากำไรสุทธิที่ได้ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในรอบระยะเวลาบัญชีที่แล้ว คือ ปี 2564 แต่บริษัทฯ ได้ประมาณการกำไรสุทธิสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีปี 2565 ขาดไปเป็นเงิน 374,361.70 บาท คิดเป็น 36.89% ของกำไรสุทธิตามแบบ ภ.ง.ด.50 ของรอบระยะเวลาบัญชีปี 2565 ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีครึ่งปี (ภ.ง.ด.51) ไว้น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ได้ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในรอบระยะเวลาบัญชีที่แล้ว เนื่องจากได้รับยกเว้นหรือลดอัตราภาษี ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 530) พ.ศ. 2554 เช่นนี้ ตามข้อ 1 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 50/2537ฯ ลงวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2537 แก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 152/2558ฯ ถือว่า บริษัทฯ แสดงประมาณการกำไรสุทธิ สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีปี 2565 ขาดไปเกินกว่า 25% โดยมีเหตุอันสมควร แล้ว ไม่ต้องรับผิดเสียเงินเพิ่มตามมาตรา 67 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร แต่อย่างใด ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ |