ตามหนังสือกรมสรรพากรเลขที่ กค 0706/3625 ลงวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2546 เรื่อง ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย กรณีผู้ซื้อเป็นผู้นำเข้าสินค้า กรมสรรพากรได้วางแนวทางปฏิบัติกรณีผู้นำเข้าสินค้าแทนบริษัทอื่น ดังนี้ เลขที่หนังสือ : กค 0706/3625 วันที่ : 18 เมษายน 2546 เรื่อง : ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย กรณีผู้ซื้อเป็นผู้นำเข้าสินค้า ข้อกฎหมาย : มาตรา 77/1 (8), มาตรา 77/2 (1), มาตรา 79 (4), มาตรา 77/1 (11), มาตรา 77/1 (18) (ก), มาตรา 82/5 (3), มาตรา 65 ตรี (13) ข้อหารือ : บริษัท ส. ทำสัญญาซื้อขายพร้อมติดตั้งวัสดุอุปกรณ์ประตูงานรถไฟฟ้ากับ บริษัท พ. ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าดังกล่าว แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โดยบริษัท พ. จะเป็นผู้ออกใบสั่งซื้อสินค้าไปยังผู้ขายในต่างประเทศ และให้บริษัท ส. เป็นผู้นำเข้าสินค้าแทน บริษัท พ. ในการชำระค่าสินค้า บริษัท ส. จะเปิด L/C ไปยังผู้ขายที่อยู่ในต่างประเทศโดยตรงในนามของ บริษัท ส. เป็นจำนวนเงินร้อยละ 60 ของค่าตอบแทนทั้งหมดตามสัญญา ส่วนค่าธรรมเนียมการเปิด L/C ค่าภาษีอากรขาเข้า ค่า SHIPPING ที่ บริษัท ส. ทดรองจ่ายแทน บริษัท พ. จะหักจากค่าตอบแทนตามสัญญาในภายหลัง บริษัท ส. จึงหารือว่า 1. บริษัท ส. จะนำค่าใช้จ่ายในการออก L/C ค่าอากรขาเข้า และค่า SHIPPING มาเป็นรายจ่ายได้หรือไม่ 2. บริษัท ส. จะนำภาษีมูลค่าเพิ่มของสินค้านำเข้ามาถือเป็นภาษีซื้อได้หรือไม่ 3. กรณี บริษัท ส. ต้องจ่ายค่าตอบแทนส่วนต่างภายหลังจากหักมูลค่า ของสินค้า ค่าอากรขาเข้า ค่า SHIPPING และค่าธรรมเนียมการเปิด L/C แล้ว 3.1 ค่าตอบแทนดังกล่าวเป็นรายได้หรือค่าตอบแทนจากการขายสินค้าของบริษัท พ. หรือไม่ 3.2 ค่าตอบแทนดังกล่าวจะมีภาระภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ ถ้ามีจะคิดจากยอดไหน 3.3 บริษัท ส. จะต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายหรือไม่ คิดจากจำนวนใด และอัตราเท่าใด 3.4 บริษัท พ. จะต้องออกใบเสร็จ/ใบกำกับภาษี จำนวนใด และแสดง รายการอย่างไร
แนววินิจฉัย : 1. ภาษีมูลค่าเพิ่ม 1.1 กรณีของผู้ขาย บริษัท ส. ทำสัญญาซื้อขายพร้อมติดตั้งประตูสำหรับงานรถไฟฟ้ากับ บริษัท พ. โดยไม่ได้แยกราคาค่าสินค้าและค่าบริการออกจากกัน เข้าลักษณะเป็นการขายสินค้าตามมาตรา 77/1 (8) แห่งประมวลรัษฎากร อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 77/2 (1) แห่งประมวลรัษฎากร แต่เนื่องจากสินค้าดังกล่าวต้องนำเข้าจากต่างประเทศ และ บริษัท พ. ได้โอนสินค้าให้ บริษัท ส. เป็นผู้นำเข้าและชำระภาษีมูลค่าเพิ่มต่อเจ้าพนักงานศุลกากร บริษัท พ. ไม่ต้องนำมูลค่าของสินค้าส่วนที่นำเข้าจากต่างประเทศที่โอนให้บริษัท ส. เป็นผู้นำเข้า มารวมคำนวณเป็นมูลค่าของฐานภาษีเพื่อเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 79 (4) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ 2 (9) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 40) เรื่อง กำหนดลักษณะ และเงื่อนไขค่าตอบแทนที่ไม่ต้องนำมารวมคำนวณมูลค่าของฐานภาษีตามมาตรา 79 (4) แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 80)ฯ ลงวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2541 ดังนั้น บริษัท พ. จึงต้องคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มจากมูลค่าของค่าตอบแทนตามสัญญาหักด้วยมูลค่าสินค้าส่วนที่นำเข้าจากต่างประเทศซึ่งได้โอนให้บริษัท เสริมมิตรฯเป็นผู้นำเข้าแล้ว 1.2 กรณีของผู้ซื้อ บริษัท ส. เป็นผู้กระทำพิธีการนำเข้าและชำระภาษีมูลค่าเพิ่มต่อเจ้าพนักงานศุลกากร บริษัท ส. จึงมีฐานะเป็นผู้นำเข้า ตามมาตรา 77/1 (11) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัท ส.ย่อมนำภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าสินค้าดังกล่าวมาถือเป็นภาษีซื้อของ บริษัท ส. ได้ตามมาตรา 77/1 (18) (ก) แห่งประมวลรัษฎากร ส่วนการที่ บริษัท ส. ได้ออกเงินทดรองจ่ายแทน บริษัท พ. ในกรณีต่าง ๆ เช่น ค่าธรรมเนียมการเปิด L/C ค่าอากรขาเข้า ค่า SHIPPING และจะเรียกเก็บเงินดังกล่าวคืนในภายหลัง โดยหักจากค่าตอบแทนตามสัญญาที่ต้องจ่ายให้บริษัท พ. เงินจำนวนดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นเงินทดรองจ่าย บริษัท ส. ไม่มีสิทธินำภาษีมูลค่าเพิ่มตามใบกำกับภาษีที่เกิดจากรายจ่ายต่าง ๆ ที่ทดรองจ่ายแทนบริษัท พ. มาถือเป็นภาษีซื้อในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 82/3 แห่งประมวลรัษฎากร เนื่องจากไม่ใช่ภาษีซื้อที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับกิจการ จึงต้องห้ามตามมาตรา 82/5 (3) แห่งประมวลรัษฎากร
2. ภาษีเงินได้นิติบุคคล รายจ่ายค่าธรรมเนียมการเปิด L/C ค่าอากรขาเข้า และค่า SHIPPING ที่ บริษัท ส. ทดรองจ่ายแทน บริษัท พ. บริษัท ส. ไม่มีสิทธินำมาถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล เนื่องจากรายจ่ายดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นรายจ่าย ซึ่งมิใช่รายจ่ายเพื่อหากำไรหรือเพื่อกิจการโดยเฉพาะ ตามมาตรา 65 ตรี (13) แห่งประมวลรัษฎากร
3. ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย บริษัท ส. จ่ายค่าตอบแทนตามสัญญาให้กับ บริษัท พ. โดยหักมูลค่าของสินค้าที่นำเข้าและหักค่าธรรมเนียมการเปิด L/C ค่าอากรขาเข้า และค่า SHIPPING ที่ทดรองจ่ายแทน บริษัท พ. การจ่ายค่าตอบแทนดังกล่าวเป็นการจ่ายเงินเพื่อชำระค่าสินค้าตามสัญญาซื้อขาย บริษัท ส. จึงไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายแต่อย่างใด
เลขตู้ : 66/32365
ต่อข้อถาม ขอเรียนว่า กรณีบริษัท C เป็นผู้กระทำพิธีการนำเข้าและชำระภาษีมูลค่าเพิ่มต่อเจ้าพนักงานศุลกากร บริษัท C จึงมีฐานะเป็นผู้นำเข้า ตามมาตรา 77/1 (11) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัท C ย่อมนำภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าสินค้าดังกล่าวมาถือเป็นภาษีซื้อของ บริษัท C ได้ตามมาตรา 77/1 (18) (ก) แห่งประมวลรัษฎากร ตามตามหนังสือกรมสรรพากรเลขที่ กค 0706/3625 ลงวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2546 ดังกล่าวข้างต้น อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเงินทดรองที่บริษัท C ได้ออกจ่ายแทนบริษัท A ในกรณีต่าง ๆ เช่น ค่าธรรมเนียมการเปิด L/C ค่าอากรขาเข้า ค่า SHIPPING และจะเรียกเก็บเงินดังกล่าวคืนในภายหลัง โดยหักจากค่าตอบแทนตามสัญญาที่ต้องจ่ายให้บริษัท A เงินจำนวนดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นเงินทดรองจ่าย บริษัท C ไม่มีสิทธินำภาษีมูลค่าเพิ่มตามใบกำกับภาษีที่เกิดจากรายจ่ายต่าง ๆ ที่ทดรองจ่ายแทนบริษัท A มาถือเป็นภาษีซื้อในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 82/3 แห่งประมวลรัษฎากร เนื่องจากไม่ใช่ภาษีซื้อที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับกิจการ จึงต้องห้ามตามมาตรา 82/5 (3) แห่งประมวลรัษฎากร
ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ คลิ๊กที่นี่ เพื่อติดตาม FB เพจ "อาจารย์ สุเทพ พงษ์พิทักษ์" |