Case study

ค่าประกันสุขภาพพนักงานต่างชาติ และครอบครัวที่ติดตามมา


เรื่อง ค่าประกันสุขภาพพนักงานต่างชาติ และครอบครัวที่ติดตามมา
แหล่งที่มา Case study
วันที่ 23/10/2024
ประเภทภาษี ภาษีมูลค่าเพิ่ม
ข้อกฎหมาย
คำถาม

บริษัทจ่ายค่าประกันสุขภาพพนักงานและ ครอบครัว ให้บริษัทประกันชีวิตที่อยู่ต่างประเทศ และนำส่งภพ 36  

ต่อมา บริษัทได้นำมาขอคืนภาษีซื้อจากมูลค่าเบี้ยประกันชีวิต ขอเรียนสอบถามว่า ภาษีซื้อจากการจ่ายค่าเบี้ยประกันชีวิตในส่วนของครอบครัว สามารถนำมาขอคืน และ บันทึกเป็นค่าใช้จ่ายได้หรือไม่ หากไม่ได้ รบกวนขอ ข้อหารือประกอบด้วยค่ะ บริษัทได้กำหนดสัญญาว่าจ้างพนักงาน โดยระบุสวัสดิการค่าประกันสุขภาพ ทั้งพนักงาน รวมครอบครัวที่ติดตามไว้แล้ว

คำตอบ

ตอบ

  • ก่อนอื่น บริษัทต้องตรวจสอบก่อนว่า ภ.พ.36 ที่บริษัทนำส่งนั้น เป็นการนำส่งที่ถูกต้องหรือไม่ ซึ่งจากข้อเท็จจริงที่ให้มาแจ้งว่าเป็นการจ่ายค่าประกันสุขภาพ (ซึ่งถือเป็นบริการ ที่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม) ดังนั้น เมื่อบริษัทจ่ายให้กับบริษัทประกันชีวิตที่อยู่ต่างประเทศ และนำผลของบริการ (การคุ้มครอง) มาคุ้มครองในไทยด้วย การที่บริษัทนำส่ง ภ.พ.36 จึงถูกต้องแล้ว
  • เมื่อบริษัท นำส่ง ภ.พ.36 ถูกต้อง บริษัทก็ย่อมมีสิทธิ์ที่จะขอคืนภาษีซื้อจากการนำส่ง ภ.พ.36 ตามมาตรา 83/6(2)(ข) และ โดยใบเสร็จรับเงินของกรมสรรพากร ถือเป็นใบกำกับภาษีตามมาตรา 77/1(22)
  • อย่างไรก็ตาม ถ้าจะมีประเด็นความเสี่ยง ที่ต้องอาศัยดุลพินิจของเจ้าหน้าที่อยู่บ้างคือ การที่บริษัทจ่ายค่าประกันสุขภาพพนักงานและ ครอบครัว เป็นกรจ่ายที่เลือกปฏิบัติหรือไม่ ได้ให้โดยเสน่หากับบางคนหรือไม่ สำหรับครอบครัวที่ติดตาม ก็ได้ให้ทุกครอบครัวใช่หรือไม่ และการให้นี้ พนักงานได้นำค่าเบี้ยประกันสุขภาพ ทั้งในส่วนของตนและครอบครัวไปรวมคำนวณเป็นเงินได้ของตนแล้วใช่หรือไม่ เป็นต้น 


ค่าใช้จ่าย

ภาษีซื้อ

ไม่ได้เลือกฏิบัติ และ/หรือ

นำไปคำนวณรวมเป็นเงินได้พนักงาน

บันทึกเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้

ขอคืนภาษีซื้อได้

เลือกฏิบัติ และ/หรือ 

ไม่ได้คำนวณรวมเป็นเงินได้พนักงาน

ค่าใช้จ่ายต้องห้าม 

ตามมาตรา 65 ตรี(3)(13)

ขอคืนภาษีซื้อไม่ได้  

ตามมาตรา 82/5(3)


มาตรา 83/6   เมื่อมีการชำระราคาสินค้าหรือ ราคาค่าบริการให้กับผู้ประกอบการดังต่อไปนี้ ให้ผู้จ่ายเงินค่าซื้อสินค้า หรือค่าบริการมีหน้าที่นำส่งเงินภาษีมูลเพิ่มที่ผู้ประกอบการมีหน้าที่เสียภาษี
 
    (1) ผู้ประกอบการที่อยู่นอกราชอาณาจักรซึ่งได้เข้ามาประกอบกิจการขายสินค้า หรือให้บริการในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว และไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นการชั่วคราวตามมาตรา 85/3
     “(2) ผู้ประกอบการที่ได้ให้บริการจากต่างประเทศและได้มีการใช้บริการนั้นในราชอาณาจักรทั้งนี้ เฉพาะ
(ก) ผู้ประกอบการที่ได้ให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์แก่ผู้ใช้ซึ่งเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียน
        (ข) ผู้ประกอบการที่ได้ให้บริการอื่นนอกจากบริการทางอิเล็กทรอนิกส์แก่ผู้ใช้ทุกราย”



มาตรา 77/1 ในหมวดนี้ เว้นแต่ข้อความจะแสดงให้เห็นเป็นอย่างอื่น

(22) “ใบกำกับภาษี” หมายความรวมถึง ใบกำกับภาษีอย่างย่อ ใบเพิ่มหนี้ ใบลดหนี้ ใบเสร็จรับเงินที่ส่วนราชการออกให้ในการขายทอดตลาดหรือขายโดยวิธีอื่นตามมาตรา 83/5 และใบเสร็จรับเงินของกรมสรรพากร ของกรมศุลกากร หรือของกรมสรรพสามิต ทั้งนี้ เฉพาะส่วนที่เป็นภาษีมูลค่าเพิ่ม


มาตรา 65 ตรีรายการต่อไปนี้ ไม่ให้ถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ

“(3) รายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการส่วนตัว การให้โดยเสน่หา หรือการกุศล เว้นแต่..

 (13) รายจ่ายซึ่งมิใช่รายจ่ายเพื่อหากำไรหรือเพื่อกิจการโดยเฉพาะ


มาตรา 82/5 ภาษีซื้อในกรณีดังต่อไปนี้ไม่ให้นำมาหักในการคำนวณภาษีตามมาตรา 82/3

  (3) ภาษีซื้อที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการประกอบกิจการของผู้ประกอบการตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่อธิบดีกำหนด



เรื่อง

ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีธุรกิจเฉพาะ กรณีการประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลและการประกันสุขภาพ

แหล่งที่มา

ข้อหารือ กรมสรรพากร

วันที่

19/02/1999

เลขที่หนังสือ

กค 0811/พ.01569

ประเภทภาษี

ภาษีมูลค่าเพิ่ม,ภาษีธุรกิจเฉพาะ

ข้อกฎหมาย

มาตรา 77/2, มาตรา 91/2

ข้อหารือ

     ตามที่พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 33) พ.ศ. 2541 ได้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2542 เป็นต้นมา ทำให้ธุรกิจประกันวินาศภัยเข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งรวมถึงการประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลและการประกันสุขภาพด้วย

     กรมการประกันภัยได้กำหนดให้บริษัทประกันชีวิตสามารถขายกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล และกรมธรรม์ประกันสุขภาพได้เช่นกัน ซึ่งจะยังผลให้ฐานภาษีของธุรกิจประกันวินาศภัยและประกันชีวิตไม่เท่ากัน ทั้ง ๆ ที่เป็นกรมธรรม์ชนิดเดียวกัน

     ขอหารือว่า บริษัทประกันวินาศภัยที่ขายกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลและกรมธรรม์ประกันสุขภาพ จะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือภาษีธุรกิจเฉพาะ

แนววินิจฉัย

     กรณีบริษัทประกันวินาศภัยประกอบธุรกิจประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล และประกันสุขภาพ โดยแยกเป็นกรมธรรม์เดี่ยว จะต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะหรือภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังนี้

     1. กรณีกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ตามมาตรา 91/2 (3) แห่งประมวลรัษฎากร

     2. กรณีกรมธรรม์ประกันสุขภาพ อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 77/2 แห่งประมวลรัษฎากร

     3. กรณีกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลและประกันสุขภาพ ซึ่งอยู่ในกรมธรรม์ฉบับเดียวกัน อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ตามมาตรา 91/2 (3) แห่งประมวลรัษฎากร

เลขตู้

62/27546



เรื่อง

ประกอบกิจการรับประกันชีวิต ได้รับค่าคอมมิชชั่นจากการนำส่งเบี้ยประกันภัยต่อ

แหล่งที่มา

Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

วันที่

วันที่ถาม 24/09/2023 - วันที่ตอบ 30/09/2023

ประเภทภาษี

ภาษีเงินได้นิติบุคคล,ภาษีมูลค่าเพิ่ม

ข้อกฎหมาย

ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 40)

ปุจฉา

เนื่องด้วยบริษัทฯ ประกอบกิจการรับประกันชีวิต ตามกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิตที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ บริษัทฯ ได้นำเบี้ยประกันชีวิตส่วนเกินกว่าวงเงินที่สามารถรับได้ไปทำสัญญาประกันภัยต่อกับบริษัทรับประกันภัยในต่างประเทศทั้งนี้ เพื่อกระจายความเสี่ยงภัย โดยการนำส่งเบี้ยประกันชีวิตจะเป็นการนำส่งเบี้ยสุทธิ (เบี้ยประกันเต็ม-ค่าคอมมิชชั่น-ส่วนลดเบี้ย)

คำถาม :

เงินค่าคอมมิชชั่น ที่บริษัทฯ ได้รับจากการนำส่งเบี้ยประกันภัยต่อ บริษัทฯ บันทึกเป็นรายได้ค่าคอมมิชชั่น แต่เนื่องด้วยบริษัทฯ อยู่ภายใต้การเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ เงินค่าคอมมิชชั่นดังกล่าว จะถือเป็นฐานเงินได้ที่ต้องนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ หรือได้รับยกเว้นตามกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิตที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ

วิสัชนา

กรณีตามข้อเท็จจริงข้างต้น แท้จริงเงินค่าคอมมิชชั่น ที่บริษัทฯ ได้รับจากการนำส่งเบี้ยประกันภัยต่อ ซึ่งบริษัทฯ บันทึกเป็นรายได้ค่าคอมมิชชั่น นั้น เป็น “ส่วนลด” ที่ไม่นับรวมเป็นมูลค่าของฐานภาษีเช่นเดียวกับการรับประกันวินาศภัยต่อ ตามข้อ 2 (21) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 40) ลงวันที่ แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 207) ใช้บังคับ 30 เมษายน 2558 เป็นต้นไป ดังนี้

    "ข้อ 2 ค่าตอบแทนที่ได้รับหรือพึงได้รับจากการขายสินค้าหรือการให้บริการดังต่อไปนี้ ไม่ต้องนำมารวมคำนวณเป็นมูลค่าของฐานภาษี

         (21) มูลค่าของการให้บริการรับประกันวินาศภัยต่อตามกฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัย ทั้งนี้ เฉพาะส่วนลดประกันภัยต่อที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ประกอบกิจการประกันภัยต่อได้หักออกจากค่าเบี้ยประกันภัยต่อ"

ดังนั้น บริษัทฯ จึงไม่ต้องนำส่วนลด หรือค่าคอมมิชชั่นดังกล่าว มารวมคำนวณเป็นมูลค่าของฐานภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่อย่างใด



ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ

คลิ๊กที่นี่ เพื่อติดตาม FB เพจ "อาจารย์ สุเทพ พงษ์พิทักษ์"



หมายเหตุ : TAX CASE STUDY จาก Tax-EZ Website เป็นเพียงเคสตัวอย่างเท่านั้น  กรุณาตรวจสอบข้อมูลก่อนนำไปใช้อ้างอิง

หมายเหตุ : TAX CASE STUDY จาก Tax-EZ Website เป็นเพียงเคสตัวอย่างเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลก่อนนำไปใช้อ้างอิง
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การท่องเว็บที่ดีขึ้น ข้อตกลงและนโยบายความเป็นส่วนตัว
ยอมรับ