Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

Freight forwarder รายได้ค่าขนส่งทางอากาศขาเข้าและขาออก ต้องเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่


เรื่อง Freight forwarder รายได้ค่าขนส่งทางอากาศขาเข้าและขาออก ต้องเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่
แหล่งที่มา Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์
วันที่ วันที่ถาม 20/06/2023 - วันที่ตอบ 25/06/2023
ประเภทภาษี ภาษีเงินได้นิติบุคคล,ภาษีมูลค่าเพิ่ม
ข้อกฎหมาย คำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 126/2546ฯ
ปุจฉา

สอบถามค่าขนส่งทางอากาศขาเข้าและขาออก ต้องเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มกับลูกค้าหรือไม่คะ ถามในฐานะ Freight forwarder ค่ะ

วิสัชนา
1. กรมสรรพากรได้วางแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับกิจการให้บริการเป็นตัวแทนรับขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยอากาศยาน ตามข้อ 3 และข้อ 4 คำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 49/2537 เรื่อง ลงวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2537 ดังนี้ 
    “ข้อ 3 ในการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ซึ่งประกอบกิจการให้บริการเป็นตัวแทนรับขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยอากาศยาน
         (1) ในกรณีที่เป็นตัวแทนที่ได้รับแต่งตั้ง รายได้ที่ต้องนำมารวมคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากรหมายถึง รายได้ที่ได้รับหรือพึงได้รับจากการให้บริการ โดยให้คำนวณจากค่าระวาง ค่าธรรมเนียมและประโยชน์อื่นใดที่ได้มีการเรียกเก็บจากผู้รับบริการไว้แทนบริษัทสายการบินหักด้วยค่าระวาง ค่าธรรมเนียมและประโยชน์อื่นใดที่ได้ถูกบริษัทสายการบินเรียกเก็บ
         (2) ในกรณีที่เป็นตัวแทนช่วง ถือว่าตัวแทนช่วงเป็นผู้ให้บริการตามมาตรา 77/1 (10) แห่งประมวลรัษฎากรแก่ตัวแทนที่ได้รับแต่งตั้ง รายได้ที่ต้องนำมารวมคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร หมายถึงรายได้ที่ได้รับหรือพึงได้รับจากการให้บริการให้แก่ตัวแทนที่ได้รับแต่งตั้ง โดยให้คำนวณจากค่าระวาง ค่าธรรมเนียมและประโยชน์อื่นใดที่ได้มีการเรียกเก็บจากผู้รับบริการ หักด้วยค่าระวาง ค่าธรรมเนียมและประโยชน์อื่นใดที่ได้ถูกตัวแทนที่ได้รับแต่งตั้งเรียกเก็บ
     ข้อ 4 ในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มของผู้ประกอบการจดทะเบียน ซึ่งประกอบกิจการให้บริการเป็นตัวแทนขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยอากาศยาน
         (1) ในกรณีที่เป็นตัวแทนที่ได้รับแต่งตั้ง ค่าบริการที่ต้องนำมารวมคำนวณเป็นมูลค่าของฐานภาษีตามมาตรา 79 แห่งประมวลรัษฎากรหมายถึง มูลค่าของค่าบริการ โดยให้คำนวณจากค่าระวาง ค่าธรรมเนียมและประโยชน์อื่นใดที่ได้มีการเรียกเก็บจากผู้รับบริการไว้แทนบริษัทสายการบินหักด้วยค่าระวางค่าธรรมเนียมและประโยชน์อื่นใดที่ได้ถูกบริษัทสายการบินเรียกเก็บโดยตัวแทนที่ได้รับแต่งตั้งมีหน้าที่ต้องออกใบกำกับภาษี ตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร ให้บริษัทสายการบิน
         (2) ในกรณีที่เป็นตัวแทนช่วง ถือว่าตัวแทนช่วงเป็นผู้ให้บริการตามมาตรา 77/1 (10) แห่งประมวลรัษฎากรแก่ตัวแทนที่ได้รับแต่งตั้ง ค่าบริการที่ต้องนำมารวมคำนวณเป็นมูลค่าของฐานภาษีตามมาตรา 79 แห่งประมวลรัษฎากรหมายถึง มูลค่าของค่าบริการ โดยให้คำนวณจากค่าระวาง ค่าธรรมเนียมและประโยชน์อื่นใดที่ได้มีการเรียกเก็บจากผู้รับบริการ หักด้วยค่าระวาง ค่าธรรมเนียมและประโยชน์อื่นใดที่ได้ถูกตัวแทนที่ได้รับแต่งตั้งเรียกเก็บ โดยตัวแทนช่วงมีหน้าที่ต้องออกใบกำกับภาษีตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร ให้ตัวแทนที่ได้รับแต่งตั้ง” 

2. อย่างไรก็ตาม เนื่องจากภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษเงินได้หัก ณ ที่จ่าย สำหรับกิจการให้บริการเป็นตัวแทนรับขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยอากาศยาน จึงต้องพิจารณาแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย กรณีการจ่ายเงินค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ให้แก่ผู้ประกอบกิจการให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยอากาศยานและ ผู้ประกอบกิจการให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยอากาศยาน ในฐานะ Freight forwarder ตามข้อ 4 ข้อ 6 ข้อ 7 ข้อ 8 ข้อ 9 และข้อ 10 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 126/2546ฯ ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2546 ดังนี้ 
    “ข้อ 4 กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น ซึ่งเป็นผู้ใช้บริการ จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร ที่เป็นค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยให้แก่ผู้ประกอบกิจการให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยอากาศยาน ซึ่งเรียกว่า Forwarder ผู้ใช้บริการซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ดังนี้
         (1) กรณี Forwarder ได้ออกใบตราส่งสินค้า (เฮ้าส์แอร์เวย์บิล) ให้แก่ ผู้ใช้บริการแต่ละราย (Shipper หรือ Forwarder รายอื่น) ไปก่อน และ Forwarder ได้จ่ายเงินค่า ขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยให้แก่บริษัทสายการบินในนามของ Forwarder เอง โดยไม่สามารถแยกจ่ายค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยเป็นแต่ละรายผู้ใช้บริการได้ Forwarder ซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย จากบริษัทสายการบินตามหลักเกณฑ์ตามข้อ 2 โดยคำนวณหักไว้ในอัตราร้อยละ 1.0 ของค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศตามที่ระบุไว้ในใบตราส่งสินค้า (แอร์เวย์บิล) โดยออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ให้แก่บริษัทสายการบินในนามของ Forwarder และยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ในนามของ Forwarder โดยระบุชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัว ผู้เสียภาษีอากรของ Forwarder ในช่อง “ผู้จ่ายเงิน” ซึ่งกรมสรรพากรจะออกใบเสร็จรับเงินในนามของ Forwarder
              กรณี Forwarder ตามวรรคหนึ่งเรียกเก็บเงินค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยจากผู้ใช้บริการ ผู้ใช้บริการซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 1.0 จาก Forwarder โดยออกหนังสือรับรอง การหักภาษี ณ ที่จ่าย ให้แก่ Forwarder ในนามของผู้ใช้บริการ เว้นแต่ค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยที่ผู้ใช้บริการจ่ายให้แก่ Forwarder นั้นสามารถสอบยันได้กับจำนวนค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยที่ Forwarder จ่ายให้แก่บริษัทสายการบิน ซึ่ง Forwarder ได้หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายแล้ว ผู้ใช้บริการไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย สำหรับค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยที่จ่ายให้แก่ Forwarder
              การสอบยันค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยตามวรรคสอง ให้ Forwarder ออกใบเสร็จรับเงินให้แก่ผู้ใช้บริการ โดยระบุข้อความเพิ่มเติมว่า “ค่าขนส่งสินค้าขาออกตามใบเสร็จรับเงินฉบับนี้ Forwarder ได้ดำเนินการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย จากบริษัทสายการบินแล้ว” หรือข้อความอื่นในลักษณะทำนองเดียวกัน
         (2) กรณี Forwarder จ่ายค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยให้แก่บริษัทสายการบิน โดยบริษัทสายการบินออกใบตราส่ง สินค้า (แอร์เวย์บิล) ให้แก่ Forwarder ในนามของผู้ใช้บริการ (Shipper) และบริษัทสายการบิน ได้ออกใบเสร็จรับเงินในนามของผู้ใช้บริการ (Shipper) ด้วย ถือว่า Forwarder กระทำการเป็น ตัวแทนของผู้ใช้บริการ (Shipper) ดังนั้น เมื่อ Forwarder ได้จ่ายค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยให้แก่บริษัทสายการบินในนามของผู้ใช้บริการ(Shipper) Forwarder จึงมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย จากบริษัทสายการบินตาม หลักเกณฑ์ตามข้อ 2 โดยคำนวณหักไว้ในอัตราร้อยละ 1.0 ของค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศตามที่ระบุไว้ในใบตราส่งสินค้า (แอร์เวย์บิล) และ Forwarder มีหน้าที่ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ให้แก่บริษัทสายการบิน โดยออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายของตนเอง และระบุชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ใช้บริการ (Shipper) ด้วย ต่อมาเมื่อผู้ใช้บริการ (Shipper) จ่ายเงินค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศจำนวนดังกล่าวคืนให้แก่ Forwarder ในภายหลัง ผู้ใช้บริการ (Shipper) ไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย
         Forwarder ตามวรรคหนึ่ง มีหน้าที่ต้องยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย เป็นรายฉบับแต่ละรายของผู้ใช้บริการ (Shipper) โดยจะต้องระบุชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ใช้บริการ (Shipper) ในช่อง “ผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย” และระบุชื่อ Forwarder ในช่อง “ผู้จ่ายเงิน” ซึ่งกรมสรรพากรจะออกใบเสร็จรับเงินในนามของผู้ใช้บริการ (Shipper) และ Forwarder มีหน้าที่ต้องส่งสำเนาหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ใบเสร็จรับเงินจากการยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย และสำเนาแบบแสดงรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ให้แก่ผู้ใช้บริการ (Shipper) ด้วย
     ข้อ 6 กรณีบริษัทสายการบินตามข้อ 2 ตัวแทนสายการบิน (GSA) ตามข้อ 3 หรือ Forwarder ตามข้อ 4 ออกเอกสารเรียกเก็บค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยให้แก่ผู้ใช้บริการ โดยไม่สามารถระบุค่าธรรมเนียมและประโยชน์อื่นใด ที่เกี่ยวกับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยไว้ใน แอร์เวย์บิลหรือเฮาส์แอร์เวย์บิล บริษัทสายการบิน ตัวแทนสายการบิน และ Forwarder สามารถออกเอกสารโดยระบุเฉพาะค่าระวาง (Freight) ไว้ในแอร์เวย์บิลหรือเฮาส์แอร์เวย์บิล และระบุค่าธรรมเนียมและประโยชน์อื่นใดที่เกี่ยวกับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยไว้ในเอกสารใบเรียกเก็บเงิน (อินวอยซ์) หรือเอกสารอื่นที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน เช่น Freight Invoice ก็ได้ เมื่อผู้ใช้บริการซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินตามแอร์เวย์บิลหรือ เฮาส์แอร์เวย์บิลและเอกสารใบเรียกเก็บเงิน (อินวอยซ์) หรือเอกสารอื่นที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน ดังกล่าว ถือเป็นการจ่ายเงินค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศจึงมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย จากบริษัทสายการบิน ตัวแทนสายการบิน หรือ Forwarder แล้วแต่กรณี โดยคำนวณหักไว้ใน อัตราร้อยละ 1.0 ของค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศตามที่ระบุไว้ในแอร์เวย์บิลหรือเฮาส์แอร์เวย์บิลและเอกสารใบเรียกเก็บเงิน (อินวอยซ์) หรือเอกสารอื่นที่มีลักษณะทำนองเดียวกันนั้น
     ข้อ 7 กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น ซึ่งเป็นผู้ใช้บริการ จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร ที่เป็นค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ เนื่องจากการรับขนของเข้ามาในประเทศไทยให้แก่ผู้ประกอบกิจการให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยอากาศยาน ผู้ใช้บริการซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ดังนี้
         (1) กรณีผู้ใช้บริการ (Consignee หรือ Forwarder) จ่ายค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของเข้ามาในประเทศไทยให้แก่บริษัทสายการบินไทย โดยบริษัทสายการบินไทยออกใบตราส่งสินค้า (แอร์เวย์บิล) และออกใบเสร็จรับเงินในนามของผู้ใช้บริการ ผู้ใช้บริการซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย โดยคำนวณหักไว้ในอัตราร้อยละ 1.0 ของค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศตามที่ระบุไว้ในใบตราส่งสินค้า (แอร์เวย์บิล) และ ผู้ใช้บริการมีหน้าที่ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายให้แก่บริษัทสายการบินไทย
         (2) กรณีผู้ใช้บริการ (Consignee หรือ Forwarder) จ่ายค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของเข้ามาในประเทศไทยให้แก่บริษัทสายการบินต่างประเทศ โดยบริษัทสายการบินต่างประเทศออกใบตราส่งสินค้า (แอร์เวย์บิล) และออกใบเสร็จรับเงินในนามของผู้ใช้บริการ โดยเหตุที่ค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของเข้ามาในประเทศไทย ไม่เป็นฐานในการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 67 แห่งประมวลรัษฎากร ผู้ใช้บริการซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย
     ข้อ 8 กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น ซึ่งเป็นผู้ใช้บริการ จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร ที่เป็นค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของเข้ามาในประเทศไทยให้แก่ผู้ประกอบกิจการให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยอากาศยาน (Forwarder) โดย Forwarder กระทำการในฐานะเป็นตัวแทนของ Forwarder ในต่างประเทศ และ Forwarder ในประเทศไทย ได้ออกใบเสร็จรับเงินในนามของผู้ใช้บริการ ถือว่าผู้ใช้บริการจ่ายค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งไม่เป็นฐานในการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 67 แห่งประมวลรัษฎากร ผู้ใช้บริการซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย
         กรณี Forwarder ในประเทศไทยได้กระทำการในฐานะเป็นตัวแทน เรียกเก็บค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของเข้ามาในประเทศไทยของForwarder ในต่างประเทศ Forwarder ในประเทศไทยจะต้องมีหลักฐานหรือเอกสารอื่นใดที่มี เนื้อหาแสดงว่ากระทำการในฐานะเป็นตัวแทนของ Forwarder ในต่างประเทศ
     ข้อ 9 กรณีบริษัทสายการบินตามข้อ 2 ตัวแทนสายการบิน (GSA) ตามข้อ 3 หรือ Forwarder ตามข้อ 4 เรียกเก็บค่าบริการหรือเรียกว่า Handling Charge (H/D) นอกเหนือจากค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศจากผู้ใช้บริการ ซึ่งค่าบริการดังกล่าวอาจระบุไว้ในแอร์เวย์บิล เฮาส์แอร์เวย์บิล เอกสารใบเรียกเก็บเงิน (อินวอยซ์) หรือเอกสารอื่นที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน เช่น Freight Invoice ก็ได้ ค่าบริการ (Handling Charge) ถือเป็นค่าตอบแทนที่ผู้ใช้บริการจ่าย ให้แก่บริษัทสายการบิน ตัวแทนสายการบิน (GSA) หรือ Forwarder ผู้ใช้บริการซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย โดยคำนวณหักไว้ในอัตราร้อยละ 3.0 ของค่าบริการ (Handling Charge) นั้น ตามข้อ 12/1 ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป. 4/2528 เรื่อง สั่งให้ผู้จ่ายเงินได้ พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2528 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป. 104/2544 เรื่อง สั่งให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ลงวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2544
     ข้อ 10 ให้นำความในข้อ 6 มาใช้บังคับสำหรับการจ่ายเงินค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของเข้ามาในประเทศไทยให้แก่ผู้ประกอบกิจการให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยอากาศยานและผู้ประกอบกิจการให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยอากาศยาน (Forwarder) ด้วย”  

ต่อข้อถาม ขอเรียนว่า
ในฐานะ Freight forwarder หรือประกอบกิจการให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยอากาศยาน (Forwarder) เฉพาะค่าขนส่งทางอากาศขาออกเท่านั้นที่บริษัท Freight forwarder อาจต้องเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มกับลูกค้าในกรณีดังนี้ 
    1. กรณีตามข้อ 4 (1) วรรคสอง ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 126/2546ฯ ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2546 ซึ่งเป็นกรณีที่ Forwarder สามารถสอบยันค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทย ให้ Forwarder ออกใบเสร็จรับเงินให้แก่ผู้ใช้บริการ โดยระบุข้อความเพิ่มเติมว่า “ค่าขนส่งสินค้าขาออกตามใบเสร็จรับเงินฉบับนี้ Forwarder ได้ดำเนินการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย จากบริษัทสายการบินแล้ว” หรือข้อความอื่นในลักษณะทำนองเดียวกัน เช่นนี้ ในการเรียกเก็บเงินค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยจากผู้ใช้บริการ Forwarder ไม่ต้องเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับค่าขนส่งขาออกดังกล่าว 
        แต่ถ้า Forwarder ไม่สามารถสอบยันดังกล่าวได้ Forwarder มีหน้าที่ต้องเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ใช้บริการในอัตรา 7% ของค่าขนส่งขาออก ซึ่งผู้ใช้บริการที่เป็นผู้จ่ายเงินมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 1.0 จาก Forwarder โดยออกหนังสือรับรอง การหักภาษี ณ ที่จ่าย ให้แก่ Forwarder ในนามของผู้ใช้บริการ     

    2. ตามข้อ 6 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 126/2546ฯ ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2546 กรณีบริษัท Forwarder กรณีตามข้อ 4 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 126/2546ฯ ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2546 Forwarder ออกเอกสารเรียกเก็บค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยให้แก่ผู้ใช้บริการ โดยไม่สามารถระบุค่าธรรมเนียมและประโยชน์อื่นใด ที่เกี่ยวกับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยไว้ใน แอร์เวย์บิลหรือเฮาส์แอร์เวย์บิล บริษัทสายการบิน ตัวแทนสายการบิน และ Forwarder สามารถออกเอกสารโดยระบุเฉพาะค่าระวาง (Freight) ไว้ในแอร์เวย์บิลหรือเฮาส์แอร์เวย์บิล และระบุค่าธรรมเนียมและประโยชน์อื่นใดที่เกี่ยวกับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยไว้ในเอกสารใบเรียกเก็บเงิน (อินวอยซ์) หรือเอกสารอื่นที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน เช่น Freight Invoice ก็ได้ เมื่อผู้ใช้บริการซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินตามแอร์เวย์บิลหรือ เฮาส์แอร์เวย์บิลและเอกสารใบเรียกเก็บเงิน (อินวอยซ์) หรือเอกสารอื่นที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน ดังกล่าว ถือเป็นการจ่ายเงินค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ Forwarder จึงมีหน้าที่ต้องเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรา 7% ของค่าขนส่งขาออก โดยผู้ใช้บริการมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย จาก Forwarder แล้วแต่กรณี โดยคำนวณหักไว้ใน อัตราร้อยละ 1.0 ของค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศตามที่ระบุไว้ในแอร์เวย์บิลหรือเฮาส์แอร์เวย์บิลและเอกสารใบเรียกเก็บเงิน (อินวอยซ์) หรือเอกสารอื่นที่มีลักษณะทำนองเดียวกันนั้น



ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆมาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ 

คลิ๊กที่นี่ เพื่อติดตาม FB เพจ "อาจารย์ สุเทพ พงษ์พิทักษ์"

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การท่องเว็บที่ดีขึ้น ข้อตกลงและนโยบายความเป็นส่วนตัว
ยอมรับ