Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

ก่อสร้างอาคาร 5 ชั้น กำหนดให้ชั้น 1 – 3 เป็นสำนักงาน ชั้นที่ 4 - 5 เป็นที่อยู่อาศัยครอบครัวของกรรมการผู้บริหาร
เรื่อง | ก่อสร้างอาคาร 5 ชั้น กำหนดให้ชั้น 1 – 3 เป็นสำนักงาน ชั้นที่ 4 - 5 เป็นที่อยู่อาศัยครอบครัวของกรรมการผู้บริหาร |
แหล่งที่มา | Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ |
วันที่ | วันที่ถาม 20/01/2023 - วันที่ตอบ 21/01/2023 |
ประเภทภาษี | ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา,ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย,ภาษีมูลค่าเพิ่ม |
ข้อกฎหมาย | มาตรา 50 (1), มาตรา 77/1 (10) แห่งประมวลรัษฎากร, คำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 23/2533 |
ปุจฉา | บริษัทฯ กำลังก่อสร้างอาคาร 5 ชั้น ทางเจ้าของกำหนดให้ชั้น 1 – 3 เป็นสำนักงาน ชั้นที่ 4 - 5 เป็นที่อยู่อาศัยครอบครัวของกรรมการผู้บริหารซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น กรณีนี้ทางบริษัทฯ จะมีแนวทางดำเนินการอย่างไรบ้าง เพื่อกำหนดเป็นสวัสดิการผู้บริหารพักอาศัยได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ส่วนอาคาร ค่าตกแต่งอาคารเป็นทรัพย์สินบริษัทฯ |
วิสัชนา | ตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 23/2533 เรื่อง การกำหนดมูลค่าของการได้อยู่บ้านที่นายจ้างให้อยู่โดยไม่เสียค่าเช่าเป็นเงินได้ พึงประเมิน ลงวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2533 กรมสรรพากรได้วางแนวทางปฏิบัติสำหรับการกำหนดมูลค่าของการได้อยู่บ้านที่นายจ้างให้อยู่โดยไม่เสียค่าเช่าเป็นเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร ดังต่อไปนี้ “ข้อ 1 กรณีลูกจ้างได้อยู่บ้านของนายจ้างโดยไม่เสียค่าเช่า ให้กำหนดมูลค่าจากการนี้เป็นเงินได้พึงประเมินที่ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ของลูกจ้าง ดังต่อไปนี้ (1) กรณีลูกจ้างได้อยู่บ้านของนายจ้างโดยไม่เสียค่าเช่า ให้คำนวณประโยชน์เพิ่มจากการนี้เป็นเงินได้พึงประเมินในอัตราร้อยละ 20 ของเงินเดือนหรือค่าจ้างรวมทั้งเงินเพิ่มตลอดปี (ถ้ามี) โดยไม่รวมเงินโบนัสที่จ่ายเป็นรายปี (2) กรณีลูกจ้างหลายคนได้บ้านของนายจ้างหลังเดียวอยู่รวมกันโดยไม่เสียค่าเช่า ให้คำนวณประโยชน์เพิ่มตามเกณฑ์ใน (1) เป็นเงินได้พึงประเมินของลูกจ้างแต่ละคน (3) กรณีลูกจ้างหลายคนได้บ้านของนายจ้างหลังเดียวอยู่รวมกันโดยไม่เสียค่าเช่าตาม (1) ไม่ว่าจะเป็นการโต้แย้งในชั้นการตรวจสอบไต่สวนหรือในชั้นอุทธรณ์ก็ตาม ให้เจ้าพนักงานประเมินทำการประเมินค่าเช่าของบ้านนั้น ๆ ว่าสมควรให้เช่าได้ตามปกติปีละเท่าใด และให้ทำบันทึกการประเมินไว้เป็นหลักฐานแล้วรายงานขอความเห็นชอบจากอธิบดีกรมสรรพากร และใหถือว่าค่าเช่าบ้านที่ได้ทำการประเมินนี้เป็นเงินได้ของลูกจ้างที่จะนำมาทำการประเมินหรือพิจารณาชี้ขาดของเจ้าหน้าที่ผุ้พิจารณาอุทธรณ์ แล้วแต่กรณี และให้ถือเป็นเกณฑ์ในการคำนวณเงินได้ในปีภาษีต่อไปด้วย เว้นแต่มีข้อเท็จจริงหรือสภาพของบ้านเปลี่ยนแปลงไป (4) กรณีลูกจ้างหลายคนได้บ้านของนายจ้างตาม (3) หลังเดียวอยู่รวมกัน ให้เฉลี่ยค่าเช่าบ้านที่ประเมินได้ตาม (3) เป็นเงินได้ของลูกจ้างแต่ละคนตามส่วนของเงินเดือนหรือค่าจ้างรวมทั้งเงินเพิ่มตลอดปี (ถ้ามี) โดยไม่รวมเงินโบนัสที่จ่ายเป็นรายปี และให้ถือว่าค่าเช่าบ้านที่ได้ทำการประเมินนี้เป็นเงินได้ของลูกจ้างที่จะนำมาทำการประเมินหรือพิจารณาชี้ขาดของเจ้าหน้าที่ผู้พิจารณาอุทธรณ์ แล้วแต่กรณี และให้ถือเป็นเกณฑ์ในการคำนวณเงินได้ในปีภาษีต่อไปด้วย เว้นแต่มีข้อเท็จจริงหรือสภาพของบ้านเปลี่ยนแปลงไป (5) กรณีลูกจ้างได้อยู่บ้านของนายจ้างโดยไม่เสียค่าเช่าและเป็นบ้านที่นายจ้างได้ไปเช่าจากบุคคลอื่นมาอีกต่อหนึ่ง ให้คำนวณประโยชน์เพิ่มจากการนี้เป็นเงินได้พึงประเมินตามค่าเช่าที่นายจ้างได้จ่ายไปจริง (6) กรณีลูกจ้างหลายคนได้บ้านของนายจ้างตาม (5) อยู่รวมกัน ให้เฉลี่ยค่าเช่าบ้านที่นายจ้างได้จ่ายไปจริงตาม (5) เป็นเงินได้ของลูกจ้างแต่ละคนตามส่วนของเงินเดือนหรือค่าจ้าง รวมทั้งเงินเพิ่มตลอดปี (ถ้ามี) โดยไม่รวมเงินโบนัสที่จ่ายเป็นรายปี ข้อ 2 ในกรณีนายจ้างได้เช่าบ้านให้เป็นที่พักอาศัยของพนักงาน ซึ่งดำรงตำแหน่งระดับบริหาร โดยนายจ้างเป็นผู้ออกค่าเช่าและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าคนสวน และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ภายในบ้าน แม้ต่อมาพนักงานผู้นั้นหรือนายจ้างจะได้ใช้บ้านดังกล่าวส่วนหนึ่งเป็นสถานที่ประชุมและปรึกษาหารือกิจการของนายจ้างตลอดจนการจัดงานเลี้ยงรับรองลูกค้าสำคัญ ๆ ของนายจ้างเป็นครั้งคราว ถือได้ว่าค่าเช่าบ้านและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่นายจ้างจ่ายไปเป็นประโยชน์ที่พนักงานผู้นั้นได้รับทั้งสิ้น พนักงานผู้นั้นจะต้องนำประโยชน์ที่ได้รับทั้งหมดมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาด้วย” ต่อข้อถาม ขอเรียนว่า กรณีตามข้อเท็จจริง กรณีบริษัทฯ กำลังก่อสร้างอาคาร 5 ชั้น ผู้ถือหุ้น (เจ้าของ) กำหนด ให้ชั้น 1 – 3 เป็นสำนักงาน ชั้นที่ 4 – 5 เป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัวของกรรมการผู้บริหารซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น กรณีนี้ทางบริษัทฯ พึงมีแนวทางดำเนินการต่อไปดังนี้ เพื่อกำหนดเป็นสวัสดิการผู้บริหารพักอาศัยได้ “โดยไม่เรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากกรรมการ” 1. การกำหนดสวัสดิการแก่กรรมการ บริษัทฯ ต้องมีรายงานการประชุมผู้ถือหุ้นเกี่ยวกับสวัสดิการสำหรับผู้บริหาร ให้พักอาศัยชั้นที่ 4 – 5 ของอาคารได้ “โดยไม่เรียกเก็บค่าใช้จ่ายใดจากกรรมการ” 2. กรณีภาษีมูลค่าเพิ่ม การให้ใช้พื้นที่อาคารโดยไม่เรียกเก็บค่าใช้จ่ายใดๆ รวมทั้งค่าสาธารณูปโภคทั้งหลาย เข้าลักษณะเป็นการให้บริการใช้พื้นที่ โดยไม่มีค่าตอบแทน ตามมาตรา 77/1 (10) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ จึงพึงต้องนำมูลค่าการให้พักอาศัยฯ ดังกล่าว ตามราคาตลาดมาถือรวมเป็นมูลค่าของฐานภาษีในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มที่ต้องเสียในแต่ละเดือนภาษี (เฉพาะกรณีบริษัทฯ ประกอบกิจการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยไม่ต้องออกใบกำกับภาษีตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 86/2542 เรื่อง หลักเกณฑ์การจัดทำใบกำกับภาษีตามมาตรา 86/4 และมาตรา 86/5 แห่งประมวลรัษฎากร เฉพาะที่มีลักษณะเป็นแบบเต็มรูป ลงวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2542 3. กรณีภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหัก ณ ที่จ่าย บริษัทฯ ต้องถือปฏิบัติตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 23/2533 เรื่อง การกำหนดมูลค่าของการได้อยู่บ้านที่นายจ้างให้อยู่โดยไม่เสียค่าเช่าเป็นเงินได้ พึงประเมิน ลงวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2533 เพื่อนำมาถือเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร ของกรรมการ รวมทั้งค่าภาษีมูลค่าเพิ่มที่ไม่ได้เรียกเก็บจากกรรมการตามข้อ 2 ดังกล่าว ในการคำนวณภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายตามมาตรา 50 (1) แห่งประมวลรัษฎากร ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ |