Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

หัก ณ ที่จ่าย กรณียอดไม่ถึง 1,000 บาท


เรื่อง หัก ณ ที่จ่าย กรณียอดไม่ถึง 1,000 บาท
แหล่งที่มา Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์
วันที่ วันที่ถาม 16/07/2024 - วันที่ตอบ 11/08/2024
ประเภทภาษี ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย
ข้อกฎหมาย คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป. 4/2528ฯ
ปุจฉา
กรณีหัก ณ ที่จ่าย ต้องมียอด 1,000 บาท ขึ้นไป แต่กรณีที่ไม่ถึง 1,000 บาท แต่เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดเป็นประจำทุกเดือน แบบนี้ต้องหัก ณ ที่จ่ายไหมค่ะ ไม่มีเป็นระบุเป็นสัญญาค่ะ
วิสัชนา
1. การจ่ายเงินได้พึงประเมินที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายตามคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป. 4/2528ฯ ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2528 และที่แก้ไขเพิ่มเติมตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 101/2544 ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2544 เป็นต้นมา ต้องมีจำนวนตามสัญญารายหนึ่งๆ ตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป แม้การจ่ายนั้นจะได้แบ่งจ่ายครั้งหนึ่งๆ ไม่ถึง 1,000 บาท
    ในกรณีการจ่ายเงินได้พึงประเมินให้แก่ผู้รับตามสัญญารายหนึ่งๆ มีจำนวนทั้งสิ้นไม่ถึง 1,000 บาท ไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 
    คำว่า “สัญญารายหนึ่งๆ” หมายความว่า ในกรณีที่มีการตกลงทำสัญญากันในแต่ละคราวๆ นั้น หากมีจำนวนเงินได้พึงประเมินที่ต้องจ่ายให้แก่ผู้มีเงินได้รายหนึ่งๆ ต้องมีจำนวนทั้งสิ้นถึง 1,000 บาท ให้คำนวณหักภาษีเงินได้ไว้ ณ ที่จ่ายตามมาตรา 3 เตรส แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งหากแม้ในการจ่ายคราวหนึ่งๆ จะมีจำนวนไม่ถึง 1,000 บาท ก็ตามก็ให้คำนวณหักภาษีเงินได้ไว้ ณ ที่จ่ายเช่นกัน 
    ในทางตรงกันข้าม หากในแต่ละสัญญาที่ตกลงกันมีจำนวนเงินได้พึงประเมินที่จ่ายไม่ถึง 1,000 บาท เมื่อมีการจ่ายเงินได้พึงประเมินตามสัญญาดังกล่าว ก็ไม่ต้องคำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย และแม้จะได้จ่ายร่วมกับสัญญาอื่น ซึ่งทำให้จำนวนเงินที่จ่ายในคราวนั้นถึง 1,000 บาท ก็ตาม ผู้จ่ายเงินได้ก็ไม่มีหน้าที่ต้องคำนวณหักภาษีเงินได้ไว้ ณ ที่จ่าย 

2. กรมสรรพากรได้คำชี้แจงกรมสรรพากร เรื่อง การหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 101/2544 เรื่อง สั่งให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ลงวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2544 ชี้แจงการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย เพิ่มเติม ดังนี้ 
    การจ่ายเงินได้พึงประเมินที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 4/2528 ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2528 ต้องมีจำนวนตามสัญญารายหนึ่งๆ ตั้งแต่ 1,000 บาท ขึ้นไป แม้การจ่ายนั้นจะได้แบ่งจ่ายครั้งหนึ่งๆ ไม่ถึง 1,000 บาท กรณีดังกล่าว หมายความว่า 
    (1) กรณีการทำสัญญารายหนึ่งๆ หรือครั้งหนึ่งๆ มีการตกลงจ่ายค่าจ้างหรือสินจ้างไม่ถึง 1,000 บาท ผู้จ่ายเงินไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตัวอย่างเช่น 
         (ก) กรณีการจ่ายค่าบริการที่เข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (8) ให้กับธนาคารตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์ และบริษัทตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ โดยเป็นการจ่ายค่าบริการที่ไม่เข้าลักษณะเป็นสัญญาระยะยาว หากค่าบริการแต่ละรายการที่ให้บริการ (Transaction) ในแต่ละครั้ง มีจำนวนไม่ถึง 1,000 บาท ผู้จ่ายเงินไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย 
         (ข) กรณีเจ้าของสินค้าทำสัญญาว่าจ้างผู้ขนส่งสินค้า โดยที่สัญญาดังกล่าวไม่เข้าลักษณะเป็นสัญญาระยะยาว  หากค่าบริการแต่ละเที่ยวที่ขนส่งสินค้ามีจำนวนไม่ถึง 1,000 บาท ผู้จ่ายเงินไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย 
    (2) กรณีการทำสัญญารายหนึ่งๆ หรือครั้งหนึ่งๆ มีการตกลงจ่ายค่าจ้างหรือสินจ้างตั้งแต่ 1,000บาทขึ้นไป แม้จะแบ่งจ่ายเป็นหลายครั้ง ครั้งละไม่ถึง 1,000 บาท ผู้จ่ายเงินมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตัวอย่างเช่น บริษัท ก จำกัด ทำสัญญาเช่าอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น จำนวน 1 คูหา จากนาง พ. เป็นระยะเวลา 20 ปี โดยชำระค่าเช่าเป็นรายเดือนเดือนละ 950 บาท กรณีดังกล่าว แม้ว่าบริษัท ก จำกัด จะชำระค่าเช่าในเดือนหนึ่งๆ ไม่ถึง 1,000 บาท ก็ตาม แต่โดยที่สัญญาเช่ามีระยะเวลา 20 ปี ซึ่งเมื่อรวมค่าเช่าตลอดอายุสัญญาเช่าแล้วเป็นจำนวนตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป ดังนั้น เมื่อบริษัท ก จำกัด ชำระค่าเช่าให้กับนาง พ. บริษัท ก จำกัด จึงมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย 
    (3) กรณีการให้บริการตามสัญญาระยะยาว ซึ่งไม่สามารถคำนวณค่าบริการที่จะได้รับทั้งสิ้นเป็นจำนวนที่แน่นอน แต่ผู้รับบริการจะต้องชำระค่าบริการภายในระยะเวลาที่กำหนด หากการจ่ายค่าบริการไม่ถึง 1,000 บาท ผู้จ่ายเงินไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย แต่หากการจ่ายค่าบริการครั้งต่อไปซึ่งเมื่อนำไปรวมกับค่าบริการครั้งที่ผ่านมาที่มีการจ่ายไปแล้วเป็นจำนวนตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป ผู้จ่ายเงินมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย โดยจะต้องนำเงินค่าบริการที่จ่ายในครั้งก่อน ๆ มารวมคำนวณเพื่อหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายด้วย ตัวอย่างเช่น 
        (ก) กรณีการชำระค่าบริการการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่และโทรศัพท์ติดตามตัว ซึ่งแม้ว่าการชำระค่าบริการในครั้งหนึ่งๆ จะไม่ถึง 1,000 บาท แต่โดยที่การให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และโทรศัพท์ติดตามตัวเข้าลักษณะเป็นการให้บริการตามสัญญาระยะยาว ผู้จ่ายเงินจึงมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย 
        (ข) กรณีเจ้าของเครดิตการ์ดชำระหนี้ค่าสินค้าหรือค่าบริการด้วยเครดิตการ์ด ธนาคารหรือบริษัทเครดิตการ์ดจะจ่ายเงินให้กับร้านค้าและเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากร้านค้า ซึ่งแม้ว่าการชำระค่าธรรมเนียมในครั้งหนึ่งๆ จะไม่ถึง 1,000 บาท แต่โดยที่การให้บริการชำระค่าสินค้าหรือค่าบริการด้วยเครดิตการ์ดเข้าลักษณะเป็นการให้บริการตามสัญญาระยะยาว ร้านค้าซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินจึงมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย 
        (ค) กรณีการให้บริการของธนาคารแทนผู้จ่ายเงินโดยการโอนเงินเข้าบัญชีของผู้รับเงินหรือจ่ายเช็คให้กับผู้รับเงิน เมื่อธนาคารเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้จ่ายเงิน ซึ่งแม้ว่าการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในครั้งหนึ่งๆ จะไม่ถึง 1,000 บาท แต่โดยที่การให้บริการดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นการให้บริการตามสัญญาระยะยาว ผู้จ่ายเงินจึงมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย 
    (4) กรณีการทำสัญญาที่ผู้จ่ายเงินรายหนึ่งรายใดทำสัญญาในลักษณะทำนองเดียวกันหลายๆ สัญญากับผู้รับเงินรายเดียว ซึ่งแต่ละสัญญามีจำนวนไม่ถึง 1,000 บาท หากการจ่ายเงินหลายๆ สัญญาดังกล่าวรวมกันเป็นจำนวนตั้งแต่ 1,000 บาท ขึ้นไป ผู้จ่ายเงินมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตัวอย่างเช่น บริษัท ข จำกัด ทำสัญญาประกันวินาศภัยทรัพย์สินกับบริษัทรับประกันภัย โดยจำแนกเป็น 3 สัญญา ได้แก่ สัญญาประกันวินาศภัยอาคาร สัญญาประกันวินาศภัยเครื่องจักร และสัญญาประกันวินาศภัยรถยนต์ ซึ่งหากบริษัท ข จำกัด ได้จ่ายชำระค่าเบี้ยประกันวินาศภัยทั้งสามสัญญารวมกันเป็นจำนวนตั้งแต่ 1,000 บาท ขึ้นไป บริษัท ข จำกัด มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย

ต่อข้อถาม ขอเรียนว่า 
1. กรณีการให้บริการตามสัญญาระยะยาว ซึ่งไม่สามารถคำนวณค่าบริการที่จะได้รับทั้งสิ้นเป็นจำนวนที่แน่นอน แต่ผู้รับบริการจะต้องชำระค่าบริการภายในระยะเวลาที่กำหนด หากการจ่ายค่าบริการไม่ถึง 1,000 บาท ผู้จ่ายเงินไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย แต่หากการจ่ายค่าบริการครั้งต่อไปซึ่งเมื่อนำไปรวมกับค่าบริการครั้งที่ผ่านมาที่มีการจ่ายไปแล้วเป็นจำนวนตั้งแต่ 1,000 บาท ขึ้นไป ผู้จ่ายเงินมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย โดยจะต้องนำเงินค่าบริการที่จ่ายในครั้งก่อน ๆ มารวมคำนวณเพื่อหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายด้วย

2. กรณีการทำสัญญาที่ผู้จ่ายเงินรายหนึ่งรายใดทำสัญญาในลักษณะทำนองเดียวกันหลายๆ สัญญากับผู้รับเงินรายเดียว ซึ่งแต่ละสัญญามีจำนวนไม่ถึง 1,000 บาท หากการจ่ายเงินหลายๆ สัญญาดังกล่าวรวมกันเป็นจำนวนตั้งแต่ 1,000 บาท ขึ้นไป ผู้จ่ายเงินมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย



ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ 

คลิ๊กที่นี่ เพื่อติดตาม FB เพจ "อาจารย์ สุเทพ พงษ์พิทักษ์"

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การท่องเว็บที่ดีขึ้น ข้อตกลงและนโยบายความเป็นส่วนตัว
ยอมรับ