กรมสรรพากรได้วางแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการคำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย กรณีการผลิตสินค้าเพื่อขาย และการผลิตสินค้าตามคำสั่งลูกค้า ตามหนังสือตอบข้อหารือเลขที่ กค 0702/5546 ลงวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ดังนี้ เลขที่หนังสือ : กค 0702/5546 วันที่ : 22 กรกฎาคม 2553 เรื่อง : ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย กรณีการผลิตสินค้าเพื่อขาย และการผลิตสินค้าตามคำสั่งลูกค้า ข้อกฎหมาย : มาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร ข้อหารือ: ห้างฯ ประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายเสื้อผ้าสำเร็จรูป เช่น เสื้อโปโล เสื้อแจ๊คเก็ต เสื้อเชิ้ต และกางเกง โดยใช้วัสดุในการผลิตแตกต่างกัน รวมทั้งมีการผลิตและจำหน่ายให้แก่ลูกค้าตามคำสั่งมีลักษณะดังนี้ 1. ลูกค้าสั่งซื้อตามรูปแบบตามที่ห้างฯ รับผลิต หรือตามตัวอย่างที่ห้างฯ จัดเตรียมไว้และลูกค้าขอเลือกวัสดุ เช่น สีผ้า ชนิดผ้า กระดุม และแบบกระดุม ที่ห้างฯ จัดเตรียมและมีไว้ให้เลือก ซึ่งบางครั้งคำสั่งซื้อจะมีการติดเครื่องหมายของ บริษัทลูกค้า โลโก้ หรือเครื่องหมายอื่นที่ลูกค้าต้องการบนเสื้อตามจุดที่ลูกค้าต้องการ 2. ลูกค้าสั่งผลิตสินค้าโดยลูกค้าเป็นผู้ออกแบบเอง แต่ใช้วัตถุดิบในการผลิตตามตัวอย่างที่ห้างฯ จัดเตรียมและมีไว้ให้เลือก และอาจมีการติดเครื่องหมายของบริษัทลูกค้า โลโก้ หรือเครื่องหมายอื่นที่ลูกค้าต้องการบนเสื้อตามจุดที่ลูกค้าต้องการ ห้างฯ จึงขอทราบว่า การกระทำลักษณะดังกล่าวของห้างฯ เป็นการขายสินค้า มิใช่เป็นการรับจ้างผลิต ห้างฯ จึงไม่อยู่ในบังคับต้องถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ความเข้าใจของห้างฯ ถูกต้องหรือไม่
แนววินิจฉัย: กรณีห้างฯ ได้ผลิตสินค้าเพื่อจำหน่ายเป็นปกติอยู่แล้ว ไม่ว่าลูกค้าจะสั่งซื้อสินค้าตามรูปแบบที่ห้างฯ จัดเตรียมไว้หรือลูกค้าเป็นผู้ออกแบบเอง แต่ใช้วัตถุดิบในการผลิตของห้างฯ ที่จัดเตรียมและมีไว้ให้เลือก การรับทำสินค้าดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นการขายสินค้า ไม่อยู่ในบังคับต้องถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป.4/2528 เรื่อง สั่งให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2528
เลขตู้ : 73/37422
ต่อข้อถามขอเรียนว่า กรณีตามข้อเท็จจริง หากบริษัทผู้ขายได้ผลิตสินค้านั้นๆ เพื่อจำหน่ายเป็นปกติอยู่แล้ว ไม่ว่าลูกค้าจะสั่งซื้อสินค้าดังกล่าวตามรูปแบบที่บริษัทฯ จัดเตรียมไว้หรือลูกค้าเป็นผู้ออกแบบเอง แต่ใช้วัตถุดิบในการผลิตของบริษัทฯ ที่จัดเตรียม และมีไว้ให้เลือก การรับทำสินค้าดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นการขายสินค้า ไม่อยู่ในบังคับต้องถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป.4/2528 เรื่อง สั่งให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2528 ทั้งนี้ ตามแนวทางปฏิบัติของกรมสรรพากรดังกล่าวข้างต้น อย่างไรก็ตาม กรณีใช้วัสดุหรือวัตถุดิบของลูกค้าในการผลิดเข้าลักษณะเป็นการรับจ้างทำของตามมาตรา 587 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่อยู่ในบังคับต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 3.0 เฉพาะค่าจ้างหรือค่าบริการ ตามข้อ 8 ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.4/2528 ฯ ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2528 ดังนี้ “1. กรณีบริษัทฯ ผลิตเครื่องประดับที่ทำด้วยเงินเพื่อจำหน่ายโดยทั่วไปเป็นปกติธุระ ต่อมาบริษัทฯ ได้รับคำสั่งจากลูกค้าซึ่งเป็นนิติบุคคลให้ผลิตเครื่องประดับตามแบบ ขนาดและจำนวน ที่ลูกค้ากำหนด โดยในการผลิตได้ใช้วัตถุดิบที่ลูกค้าจัดหามาให้ กรณีดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นการรับจ้างทำของตามมาตรา 587 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เมื่อลูกค้าจ่ายค่าจ้างให้บริษัทฯ ลูกค้ามีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 3.0 เฉพาะค่าจ้างหรือค่าบริการ ตามข้อ 8 ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป. 4/2528 ฯ ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2528 2. กรณีบริษัทฯ ผลิตเครื่องประดับที่ทำด้วยเงินเพื่อจำหน่ายโดยทั่วไปเป็นปกติธุระ ต่อมาบริษัทฯ ได้รับคำสั่งจากลูกค้าซึ่งเป็นนิติบุคคลให้ผลิตเครื่องประดับตามแบบ ขนาดและจำนวนที่ลูกค้ากำหนด โดยในการผลิตบริษัทฯ ได้ใช้วัตถุดิบของบริษัทฯ ผลิตก่อน เมื่อผลิตเสร็จแล้วลูกค้าจะชำระค่าบริการพร้อมคืนวัตถุดิบให้ตามปริมาณที่ใช้ผลิตสินค้า กรณีดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นการขายสินค้า ไม่อยู่ในบังคับต้องถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป. 4/2528 ฯ ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2528”
หนังสือเลขที่ กค 0706/3854 ลงวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2547
ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ คลิ๊กที่นี่ เพื่อติดตาม FB เพจ "อาจารย์ สุเทพ พงษ์พิทักษ์ |