Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

เงินได้จากการเช่าที่ดิน ของห้างหุ้นส่วนสามัญ สามี ภรรยา และบุตร


เรื่อง เงินได้จากการเช่าที่ดิน ของห้างหุ้นส่วนสามัญ สามี ภรรยา และบุตร
แหล่งที่มา Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์
วันที่ วันที่ถาม 23/03/2023 - วันที่ตอบ 10/04/2023
ประเภทภาษี ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ข้อกฎหมาย มาตรา 56 แห่งประมวลรัษฎากร
ปุจฉา
ในกรณีที่สามีภรรยาจดทะเบียนสมรสแล้ว หลังจากนั้นได้ทำการซื้อที่ดิน โดยที่หลังโฉนดถือกรรมสิทธิ์ร่วมกันแบบไม่ระบุสัดส่วน ต่อมาได้ทำการหย่าลง แต่หลังโฉนดยังคงเป็นชื่อร่วมกันอยู่ ต่อมาทั้งคู่จะทำการปล่อยเช่า รายได้จากการเช่านั้นจะถือเป็นรายได้ของห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือว่าเป็นรายได้ของบุคคลตามสัดส่วนกรรมสิทธิ์ครับ
เพิ่มเติมข้อมูลครับอาจารย์ กรณีข้างบน สามีภรรยา ได้ใส่ชื่อลูกชายเพิ่ม เกิดขึ้นก่อนหย่ากันเป็นการถือกรรมสิทธิ์รวม 3 คนจาก 2 คนด้วยครับ
เลขที่หนังสือ : กค 0702/2993
วันที่ : 9 มีนาคม 2558
เรื่อง : ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย กรณีผู้ถือกรรมสิทธิ์รวมขายที่ดินเฉพาะส่วนของตน
ข้อกฎหมาย : มาตรา 56 แห่งประมวลรัษฎากร
ข้อหารือ:
     1. นายธ. (นาย ธ.) และนางสาว ณ. (นางสาว ณ.) ได้ร่วมกันซื้อที่ดินเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2527 และมีชื่อถือกรรมสิทธิ์ร่วมกันมาโดยตลอด
     2. เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2555 นาย ธ. และนางสาว ณ. ได้ขายที่ดินที่ถือกรรมสิทธิ์ร่วมกันตาม 1. โดยทำสัญญาขายเฉพาะส่วนและจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเฉพาะส่วนของตน ดังนี้
         (1)นาย ธ. ขายที่ดินเฉพาะส่วนของตนให้แก่บริษัท ท. จำกัด
         (2)นางสาว ณ. ขายที่ดินเฉพาะส่วนของตนให้แก่บริษัท ต. จำกัด
     3.พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับจดทะเบียนได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์เฉพาะส่วนตามคำขอของนาย ธ. และนางสาว ณ. พร้อมทั้งเรียกเก็บภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย จากนาย ธ. และนางสาว ณ. คนละ 900,400 บาท โดยคำนวณตามส่วนจากราคาประเมินทุนทรัพย์เพื่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งเป็นราคาที่ใช้อยู่ในวันที่มีการโอนนั้น (ราคาประเมินทุนทรัพย์ฯ ตามส่วนๆ ละ 14,504,000 บาท)
     4. กรมที่ดินขอหารือดังนี้
         4.1พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับจดทะเบียนได้เรียกเก็บภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายจากนาย ธ. และนางสาว ณ. ตามข้อเท็จจริงข้างต้นนั้น ถูกต้องหรือไม่
         4.2 หากปรากฏข้อเท็จจริงดังต่อไปนี้ พนักงานเจ้าหน้าที่จะต้องเรียกเก็บภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายอย่างไร
              (1) ผู้ถือกรรมสิทธิ์รวม ได้แยกกันขายที่ดินให้แก่ผู้ซื้อต่างรายกันในวันเดียวกัน
              (2) ผู้ถือกรรมสิทธิ์รวม ได้แยกกันขายที่ดินให้แก่ผู้ซื้อรายเดียวกันแต่ต่างวันกัน
แนววินิจฉัย: 
     1. กรณีนาย ธ. และนางสาว ณ. ได้ร่วมกันซื้อที่ดิน เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2527 และเข้าถือกรรมสิทธ์ที่ดินแปลงดังกล่าวพร้อมกัน ไม่ได้มีการแบ่งแยกที่ดินหรือบรรยายส่วนกันไว้อย่างชัดเจน ต่อมา นาย ธ. และนางสาว ณ. ต่างได้ขายที่ดินเฉพาะส่วนของตนให้แก่บุคคลอื่นตามข้อเท็จจริงข้างต้น แม้นาย ธ. และนางสาว ณ. จะได้ทำสัญญาซื้อขายแยกกัน และพนักงานเจ้าหน้าที่ได้จดทะเบียนขายเฉพาะส่วนตามคำขอของผู้ขอแต่ละคนก็ตาม แต่เมื่อการถือกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินโฉนดดังกล่าว เกิดขึ้นเนื่องจากการทำนิติกรรมซื้อขายและได้เข้าถือกรรมสิทธิ์รวมพร้อมกัน ดังนั้น นาย ธ. และนางสาว ณ. จึงต้องเสียภาษีเงินได้ในฐานะห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ซึ่งเป็นหน่วยภาษีแยกต่างหากจากบุคคลธรรมดาตามมาตรา 56 แห่งประมวลรัษฎากร
     2. กรณีที่กรมที่ดินขอทราบแนวปฏิบัติเพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่เรียกเก็บภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายตาม 4.2 นั้น ขอเรียนว่า ในการขายอสังหาริมทรัพย์ กรณีที่มีการถือกรรมสิทธ์รวมนั้น ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามีหน้าที่ต้องเสียภาษี ดังนี้
         (1) กรณีการถือกรรมสิทธิ์รวมเกิดขึ้นเนื่องจากการได้รับมรดก การให้โดยเสน่หา การครอบครองปรปักษ์ หรือจากการที่เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ให้บุคคลอื่นเข้าถือกรรมสิทธิ์รวมในภายหลัง ให้บุคคลแต่ละคนที่ถือกรรมสิทธิ์รวมเสียภาษีเงินได้ในฐานะบุคคลธรรมดา โดยแยกเงินได้ตามส่วนของแต่ละคนที่มีส่วนอยู่ในอสังหาริมทรัพย์ที่ถือกรรมสิทธิ์รวม
         (2) กรณีการถือกรรมสิทธิ์รวมเกิดขึ้นเนื่องจากการทำนิติกรรมซื้อขาย ขายฝาก หรือแลกเปลี่ยน โดยเข้าถือกรรมสิทธ์รวมพร้อมกัน ให้เสียภาษีเงินได้ในฐานะห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล แต่หากไม่ได้มีการเข้าถือกรรมสิทธิ์รวมพร้อมกัน ให้บุคคลแต่ละคนที่ถือกรรมสิทธิ์ รวมเสียภาษีเงินได้ในฐานะบุคคลธรรมดา โดยแยกเงินได้ตามส่วนของแต่ละคนที่มีส่วนอยู่ในอสังหาริมทรัพย์ที่ถือกรรมสิทธิ์รวม ดังนั้น ขอให้กรมที่ดินพิจารณาข้อเท็จจริงในการเข้าถือกรรมสิทธิ์รวมของผู้ขายอสังหาริมทรัพย์นั้นว่า เข้าลักษณะตามเหตุใดในข้อ (1) และ (2) ในการเรียกเก็บภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย

เลขตู้ : 78/39558 
วิสัชนา
กรณีตามข้อเท็จจริงข้างต้น กรณีที่สามีภรรยาจดทะเบียนสมรสแล้ว หลังจากนั้นได้ทำการซื้อที่ดินโดยที่หลังโฉนดถือกรรมสิทธิ์ร่วมกันแบบไม่ระบุสัดส่วน อีกทั้ง สามีภรรยา ได้ใส่ชื่อลูกชายเพิ่ม ก่อนหย่ากัน เป็นการถือกรรมสิทธิ์รวม 3 คน ต่อมาได้ทำการหย่าร้าง แต่หลังโฉนดยังคงเป็นชื่อร่วมกันอยู่เช่นเดิม 
ต่อมาทั้งคู่จะทำการปล่อยเช่า เงินได้จากการเช่านั้น ให้ถือเป็นเงินได้ของห้างหุ้นส่วนสามัญ สามี ภรรยา และบุตร ซึ่งต้องขอมีและใช้เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของห้างหุ้นส่วนสามัญกันใหม่



ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆมาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ 

คลิ๊กที่นี่ เพื่อติดตาม FB เพจ "อาจารย์ สุเทพ พงษ์พิทักษ์ "


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การท่องเว็บที่ดีขึ้น ข้อตกลงและนโยบายความเป็นส่วนตัว
ยอมรับ