Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

ซื้อคอมเพสเซอร์เครื่องทำความเย็นมาเปลี่ยนของเดิม / มูลที่แสดงในใบกับภาษีตามมูลค่าสินค้าที่จดทศนิยมไม่ลงตัว
เรื่อง | ซื้อคอมเพสเซอร์เครื่องทำความเย็นมาเปลี่ยนของเดิม / มูลที่แสดงในใบกับภาษีตามมูลค่าสินค้าที่จดทศนิยมไม่ลงตัว |
แหล่งที่มา | Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ |
วันที่ | วันที่ถาม 13/02/2023 - วันที่ตอบ 17/02/2023 |
ประเภทภาษี | ภาษีเงินได้นิติบุคคล,ภาษีมูลค่าเพิ่ม |
ข้อกฎหมาย | มาตรา 65 ตรี (5) แห่งประมวลรัษฎากร |
ปุจฉา | 1. พอดีบริษัทฯ มีการเปลี่ยนคอมเพสเซอร์เครื่องทำความเย็นที่ใช้ในการผลิต ในราคา 40,500 บาท ไม่แน่ใจว่า เราบันทึกเป็นค่าซ่อมแซมได้ไหมคะ หรือต้องเป็นสินทรัพย์คะ |
วิสัชนา | ตามข้อ 4 (6) ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 86/2542ฯ ได้วางแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับมูลค่าของสินค้าหรือของบริการที่ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่คำนวณจากมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ ดังนี้ “ข้อ 4 ผู้ประกอบการจดทะเบียนซึ่งต้องจัดทำใบกำกับภาษีตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร จะต้องจัดทำใบกำกับภาษีและสำเนาใบกำกับภาษี โดยส่งมอบต้นฉบับใบกำกับภาษีให้แก่ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ และเก็บรักษาสำเนาใบกำกับภาษีเพื่อการลงรายงานภาษีขายตามมาตรา 87 (1) แห่งประมวลรัษฎากร ใบกำกับภาษีตามวรรคหนึ่ง ต้องมีรายการอย่างน้อยดังต่อไปนี้… (6) มูลค่าของสินค้าหรือของบริการที่ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่คำนวณจากมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ โดยให้แยกออกจากมูลค่าของสินค้าหรือของบริการให้ชัดแจ้ง กรณีจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่คำนวณจากมูลค่าของสินค้าหรือของบริการตามวรรคหนึ่ง มีเศษเป็นจุดทศนิยม ให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนถือปฏิบัติดังนี้ (ก) ถ้าเศษของภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งเป็นจำนวนเงินตัวที่สามหลังจุดทศนิยม มีค่าไม่ถึง 5 ให้ปัดเศษนั้นทิ้ง ตัวอย่าง มูลค่าของสินค้าที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มไว้แล้ว คือ 100 บาท คำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มได้เท่ากับ 7/107 x 100 = 6.542 บาท ดังนั้น จำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่แสดงในใบกำกับภาษี คือ 6.54 บาท (ข) ถ้าเศษของภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งเป็นจำนวนเงินตัวที่สามหลังจุดทศนิยม มีค่าตั้งแต่ 5 ขึ้นไป ให้ปัดเศษขึ้น ตัวอย่าง มูลค่าของสินค้าที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มไว้แล้ว คือ 180 บาท คำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มได้เท่ากับ 7/107 x 180 = 11.775 บาท ดังนั้น จำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่แสดงในใบกำกับภาษี คือ11.78 บาท กรณีภาษีมูลค่าเพิ่มตามใบกำกับภาษีมีจำนวนมากกว่าหรือมีจำนวนน้อยกว่าภาษีมูลค่าเพิ่มที่คำนวณจากมูลค่าของสินค้าหรือของบริการคูณด้วยอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มหารด้วยหนึ่งร้อย อันเนื่องมาจากการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มมีเศษเป็นจุดทศนิยม ผู้ประกอบการจดทะเบียนต้องเสียภาษีตามจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่คำนวณจากมูลค่าของสินค้าหรือของบริการคูณด้วยอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มหารด้วยหนึ่งร้อย” ต่อข้อถาม ขอเรียนว่า 1. กรณีบริษัทฯ มีการเปลี่ยนคอมเพสเซอร์เครื่องทำความเย็นที่ใช้ในการผลิต ในราคา 40,500 บาท หากเป็นรายจ่ายที่ไม่ทำให้เครื่องทำความเย็นดีขึ้นกว่าวันที่ได้เครื่องทำความเย็นนั้นมา ย่อมเข้าลักษณะเป็นค่าซ่อมแซมเครื่อง ทำความเย็นให้คงสภาพเดิม บริษัทฯ สามารถบันทึกเป็นค่าซ่อมแซมได้ ไม่ต้องเป็นสินทรัพย์ ตามมาตรา 65 ตรี (5) แห่งประมวลรัษฎากร แต่อย่างใด 2. กรณีที่บริษัทฯ ขายสินค้าในราคาขวดละ 73 บาท (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ลูกค้าซื้อ 3 ขวด ได้รับเงินมา 219 บาท เวลาออกใบกำกับสินค้า จะใช้ 219 มาถอด VAT = 204.6729 บาท และหาร จำนวนขวดคือ 3 = 68.2243 บาท พอนำราคาต่อหน่วยมาคูณกลับ มันจะได้ 204.6729 บาท ค่าภาษีมูลค่าเพิ่มขวดละ 4.7757 บาท รวม 3 ขวดเป็นเงิน 14.3271 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินตัวที่สามหลังจุดทศนิยม มีค่าตั้งแต่ 5 ขึ้นไป ให้ปัดเศษขึ้น เป็น 14.33 บาทดังนี้ ควรแสดงรายการในใบกำกับภาษี - ค่าสินค้า 3 ขวด @ 68.2243 บาท เป็นเงิน 204.67 บาท - ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 14.33 บาท - รวมทั้งสิ้น 219.00 บาท ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆมาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ |