Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

การรับรู้รายได้จากการให้บริการสถานพยายาล คลีนิกทันตกรรม / รายได้จากการให้บริการซ่อมเช่น รถบดถนน รถเครน
เรื่อง | การรับรู้รายได้จากการให้บริการสถานพยายาล คลีนิกทันตกรรม / รายได้จากการให้บริการซ่อมเช่น รถบดถนน รถเครน |
แหล่งที่มา | Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ |
วันที่ | วันที่ถาม 18/01/2023 - วันที่ตอบ 26/01/2023 |
ประเภทภาษี | ภาษีเงินได้นิติบุคคล,ภาษีมูลค่าเพิ่ม |
ข้อกฎหมาย | มาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ 2 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 1/2528 ฯ |
ปุจฉา | 1. เรื่องการรับรู้รายได้จากการให้บริการสถานพยายาล คลีนิกทันตกรรม คลีนิกให้บริการลูกค้าคิดค่าบริการจัดฟัน 1 ปี 24,000 บาท (รวมค่าจ้างแพทย์ ตลอดปี 6,000 บาท) โดยให้ลูกค้าจ่ายเป็นรายเดือนๆ ละ 2,000 บาท ในทุกครั้งที่ใช้บริการจนครบ 1 ปี อยากสอบถามท่านอาจารย์ ดังนี้ครับ (2) การรับรู้รายได้จะรับรู้ในส่วนที่ทางคลีนิกให้บริการลูกค้าแค่ 1,500 บาท อีก 500 ถือเป็นรายได้ของแพทย์ (ค่าจ้างแพทย์คิดครั้งละ 500 ในกรณีที่จัดฟันครับ) (3) การหักภาษี ณ ที่จ่าย ค่าจ้างแพทย์มาตรา 40 (6) หักที่ อัตรา 3% ถูกต้องหรือเปล่าครับ รบกวนขอคำปรึกษาท่านอาจารย์ด้วยครับ 2. บริษัทฯ ประกอบกิจการให้บริการซ่อมเครื่องจักรหนัก เช่น รถบดถนน รถเครน มีรายได้จากการให้บริการซ่อม และขายอะไหล่เป็นรายได้หลักของกิจการ และมีรายได้จากการซ่อมและขายอะไหล่เกิน 1.8 ล้านบาท ต่อมาได้มีการนำเครื่องจักรให้บริษัทลูกค้าเช่าเป็นระยะเวลา 3 เดือน อยากสอบถามอาจารย์ ค่าเช่าเครื่องจักรในส่วนนี้จะออกบิลเรียกเก็บค่าเช่า และภาษีมูลค่าเพิ่มด้วยหรือไม่ครับ |
วิสัชนา | 1. การรับรู้รายได้จากการให้บริการสถานพยายาล คลีนิกทันตกรรม คลีนิกให้บริการลูกค้าคิดค่าบริการจัดฟัน 1 ปี 24,000 บาท (รวมค่าจ้างแพทย์ ตลอดปี 6,000 บาท) โดยให้ลูกค้าจ่ายเป็นรายเดือนๆ ละ 2,000 บาท ในทุกครั้งที่ใช้บริการจนครบ 1 ปี นั้น (1) การรับรู้รายได้จากการให้บริการจะต้องรับรู้ รายได้ในเดือนที่ลูกค้ามารับบริการถูกต้องแล้วครับ ทั้งนี้ ตามเกณฑ์สิทธิ ตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ 2 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 1/2528 ฯ ลงวันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2528 (2) บริษัทฯ ที่ประกอบการคลีนิกทันตกรรม ต้องรับรู้รายได้จะรับรู้เต็มจำนวน 2,000 บาท ที่ทางคลีนิกให้บริการลูกค้าแค่ 1,500 บาท ส่วนอีก 500 บาท ที่จ่ายให้ทันตแพทย์เป็นค่าจ้างครั้งละ 500 บาท ถือเป็นรายจ่ายในการประกอบกิจการของบริษัทฯ (3) การที่ทันตแพทย์มาให้บริการด้านทันตกรรมในคลินิก นั้น (ก) หากทันตแพทย์ผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบโรคศิลปะได้รับค่าตอบแทนที่เป็นเงินได้พึงประเมิน เนื่องจากหน้าที่หรือตำแหน่งงานที่ทำหรือจากการรับทำงานให้ตามมาตรา 40 (2) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ คลินิก ในฐานะผู้จ่ายเงินได้ดังกล่าวมีหน้าที่ต้องคำนวณภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายไว้ทุกคราวที่จ่ายเงิน ตามมาตรา 50 (1) แห่งประมวลรัษฎากร (ข) หากทันตแพทย์ผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบโรคศิลปะได้รับค่าตอบแทนที่เป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (6) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแยกเป็น 2 กรณี ดังนี้ 1) กรณีทันตแพทย์ทำสัญญาหรือข้อตกลงกับบริษัทฯ คลินิก หรือสถานพยาบาลเพื่อขอใช้สถานที่ เครื่องมือ และอุปกรณ์เพื่อประกอบโรคศิลปะในนามของทันตแทพย์เพื่อตรวจและรักษาผู้ป่วย โดยทันตแพทย์เป็นผู้เรียกเก็บเงินค่าตรวจรักษาเอง และมีข้อตกลงแบ่งเงิน ค่าตรวจรักษาที่ได้รับจากผู้ป่วยให้แก่สถานพยาบาลเป็นลายลักษณ์อักษร 2) กรณีทันตแพทย์ทำสัญญาหรือข้อตกลงกับสถานพยาบาล เพื่อขอใช้สถานที่ เครื่องมือ และอุปกรณ์เพื่อประกอบโรคศิลปะในนามของผู้ได้รับอนุญาตเพื่อตรวจและรักษาผู้ป่วย และมีข้อตกลงแบ่งเงินค่าตรวจรักษาที่ได้รับจากผู้ป่วยโดยสถานพยาบาลเป็นผู้เรียกเก็บเงินค่าตรวจรักษาแทนทันตแพทย์ แล้วนำมาจ่ายให้กับทันตแพทย์เพื่อแบ่งรายได้ให้แก่สถานพยาบาลต่อไป ทั้งกรณี 1) และ 2) ให้ถือว่าเงินที่ทันตแพทย์เรียกเก็บจากผู้ป่วยทั้งจำนวนเป็นเงินได้ พึงประเมินตามมาตรา 40 (6) แห่งประมวลรัษฎากร ของทันตแพทย์ มิใช่เฉพาะเงิน ส่วนแบ่งที่เหลือหลังจากหักส่วนแบ่งของสถานพยาบาลออกแล้ว บริษัทฯ ไม่มีหน้าที่ต้องคำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย สำหรับเงินได้ของทันตแพทย์ แต่อย่างใด 2. บริษัทฯ ประกอบกิจการให้บริการซ่อมเครื่องจักรหนัก เช่น รถบดถนน รถเครน มีรายได้จากการให้บริการซ่อม และขายอะไหล่เป็นรายได้หลักของกิจการ และมีรายได้จากการซ่อมและขายอะไหล่เกิน 1.8 ล้านบาท ต่อมาได้มีการนำเครื่องจักรให้บริษัทลูกค้าเช่าเป็นระยะเวลา 3 เดือน เช่นนี้ ค่าเช่าเครื่องจักรเป็นรายได้จากการประกอบกิจการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม บริษัทฯ จึงมีหน้าที่ต้องเรียกเก็บค่าเช่าและภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ |