Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์
ประกอบกิจการอาคารสำนักงานให้เช่า เรียกเก็บค่าบริการตามส่วนแบ่งยอดขาย เป็น GP
| เรื่อง | ประกอบกิจการอาคารสำนักงานให้เช่า เรียกเก็บค่าบริการตามส่วนแบ่งยอดขาย เป็น GP |
| แหล่งที่มา | Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ |
| วันที่ | วันที่ถาม 27/12/2024 - วันที่ตอบ 26/01/2025 |
| ประเภทภาษี | ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย,ภาษีเงินได้นิติบุคคล,ภาษีมูลค่าเพิ่ม,อากรแสตมป์ |
| ข้อกฎหมาย | มาตรา 81 (1) (ต) แห่งประมวลรัษฎากร |
| ปุจฉา | หนูมีเรื่องขอเรียนปรึกษาอาจารย์ประเด็นการให้เช่าพื้นที่ ธุรกิจประกอบกิจการอาคารสำนักงานให้เช่า โดยทำเป็นสัญญาเช่าพื้นที่และสัญญาให้บริการพื้นที่อำนวยความสะดวก พื้นที่ส่วนบนตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไป เป็นสำนักงานให้เช่า ส่วนพื้นที่ด้านล่างจัดสรรให้ผู้เช่าที่เป็นร้านค้าพาณิชย์เช่าพื้นที่ เช่น ร้านค้าปลีก ร้านอาหาร ฟิตเนท โดยมีการจัดสรรพื้นที่ให้เช่าเป็น ตรม. และมีสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง เช่น ห้องน้า พื้นที่จอดรถ รปภ. รักษาความปลอดภัย โดยมีการส่งมอบการครอบครองพื้นที่ในการเช่าให้กับผู้เช่าได้ครอบครอง โดยมีข้อตกลงในสัญญา ดังนี้ 1. ผู้ให้เช่าจะได้รับผลตอบแทนจากการให้เช่า จากกำไรสุทธิ 50:50 2. ต้นทุนค่าใช้จ่ายในการนำมาคำนวณกำไร มีระบุในสัญญาอย่างชัดเจนว่าสามารถนำค่าใช้จ่ายอะไรมาหักต้นทุนได้บ้าง 3. ผลตอบแทนจากการให้เช่าที่ได้รับ จะแบ่งออกเป็น ค่าเช่าและค่าบริการพื้นที่ 60:40 ของส่วนแบ่งกำไรที่ได้รับในแต่ละเดือน 4. มีการกำหนดผลตอบแทนจากการให้เช่าขั้นต่ำ เดือนละ 100,000 บาท โดยจะเฉลี่ยเป็น 60:40 5. กำหนดระยะเวลาในสัญญาเช่า 1 ปี หนูขอเรียนปรึกษาอาจารย์สุเทพ ดังนี้ค่ะ 1. ผลตอบแทนจากการให้เช่าที่ได้รับ (อ้างอิงข้อ 3) ถือเป็นค่าเช่า (ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม) ตามข้อตกลงในสัญญาเช่าหรือไม่ 2. ต้องติดอากรแสตมป์สัญญาเช่าดังกล่าว คำนวณจากค่าเช่าขั้นต่ำ ถูกต้องหรือไม่ 3. ถ้ากรณีที่เราจะเรียกเก็บ โดยแบ่งจากยอดขาย เป็น GP เฉลี่ยร้อยละ 30 ของยอดขาย จะถือเป็นอะไร - ค่าเช่า และ ค่าบริการ ตามที่ได้ระบุในสัญญา หรือ - ค่าเช่าอย่างเดียว หรือ - ค่าบริการอย่างเดียว |
| วิสัชนา | กรณีตามข้อเท็จจริง 1. ผลตอบแทนที่บริษัทฯ ได้รับจากการให้เช่าพื้นที่ (อ้างอิงตามข้อ 3) ถือเป็นรายได้ค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ตามข้อตกลงในสัญญาเช่า ซึ่งเป็นรายได้ที่รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 81 (1) (ต) แห่งประมวลรัษฎากร 2. บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องติดอากรแสตมป์สัญญาเช่าดังกล่าว โดยประมาณการค่าเช่า เนื่องจาก (1) ถ้าในเวลากระทำสัญญาเช่าพื้นที่ บริษัทฯ ไม่ทราบจำนวนค่าเช่าว่าเป็นราคาเท่าใด ให้ประมาณจำนวนสินจ้างตามสมควร แล้วเสียอากรตามจำนวนค่าเช่าที่ประมาณนั้น (2) ถ้ามีการรับเงินค่าเช่าพื้นที่เป็นคราว ๆ และอากรที่เสียไว้เดิมยังไม่ครบให้เสียอากรเพิ่มเติมให้ครบตามจำนวนที่ต้องเสียทุกครั้งในทันทีที่มีการรับเงิน (3) เมื่อการรับค่าเช่าได้สิ้นสุดลงแล้ว และปรากฏว่าได้เสียอากรเกินไปให้ขอคืน ตามมาตรา 122 แห่งประมวลรัษฎากร ได้ 3. ถ้ากรณีที่เราจะเรียกเก็บ โดยแบ่งจากยอดขาย เป็น GP เฉลี่ยร้อยละ 30 ของยอดขาย ก็ย่อมถือเป็นค่าเช่า และ ค่าบริการ ตามที่ได้ระบุในสัญญา ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ |
