Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

บริษัทบริการขนส่ง Freight Forwarder
| เรื่อง | บริษัทบริการขนส่ง Freight Forwarder |
| แหล่งที่มา | Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ |
| วันที่ | วันที่ถาม 05/02/2023 - วันที่ตอบ 09/02/2023 |
| ประเภทภาษี | ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย,ภาษีเงินได้นิติบุคคล,ภาษีมูลค่าเพิ่ม |
| ข้อกฎหมาย | มาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร, คำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 54/2537 ฯ, คำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 110/2545ฯ |
| ปุจฉา | กรณีบริษัทในประเทศไทยเป็นบริษัทบริการขนส่ง ได้รับคำสั่งซื้อสินค้าจากบริษัทที่อยู่ต่างประเทศ และเมื่อบริษัทในไทยซื้อสินค้าซื้อ ทางร้านค้าออกอินวอยซ์บริษัทต่างประเทศ เมื่อทำการนำส่งสินค้าจะได้รับเงินค้าสินค้า ค่าบริการในการทำการจัดส่งต่างบริษัท อยากสอบถามว่า บริษัทในไทยต้องรับรู้ vat ส่วนไหนบ้างค่ะ ส่วนเงินค่าสินค้าและค่าบริการขนส่งทั้งสองเลยมั้ยค่ะ |
| วิสัชนา | ต่อข้อถาม ขอเรียนว่า 1. ภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับค่าบริการขนส่ง กรณีบริษัทฯ ประกอบกิจการให้บริการขนส่งตามข้อเท็จจริงข้างต้น ถือเป็นการให้บริการขนส่งระหว่างประเทศโดยเรือเดินทะเล ในลักษณะ Freight Forwarder หรือกิจการให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยเรือเดินทะเล โดยทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการรับขนส่งให้แก่ลูกค้าในต่างประเทศ 1.1 กรณีบริษัทฯ เรียกเก็บเฉพาะค่าบริการในการจัดการขนส่ง (ไม่รวมค่าระวางขนส่งโดยเรือเดินทะเล) ตามข้อ 4 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 54/2537 ฯ ลงวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2537 กรมสรรพากรได้กำหนดแนวทางปฏิบัติในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ไว้ดังนี้ “ข้อ 4 ในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มของผู้ประกอบการจดทะเบียน ซึ่งประกอบกิจการให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยเรือเดินทะเล ค่าบริการที่ต้องนำมารวมคำนวณเป็นมูลค่าของฐานภาษีตามมาตรา 79 แห่งประมวลรัษฎากร หมายถึง มูลค่าของค่าบริการ โดยให้คำนวณจากค่าระวาง ค่าธรรมเนียม และประโยชน์อื่นใดที่ได้มีการเรียกเก็บจากผู้รับบริการ หักด้วยค่าระวาง ค่าธรรมเนียม และประโยชน์อื่นได้ที่ได้ถูกบริษัทสายการเดินเรือเรียกเก็บ โดยให้ผู้ประกอบกิจการให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยเรือเดินทะเลใช้ใบตราส่งสินค้า (เฮ้าส์บิลออฟเลดิง) ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 58) เรื่อง กำหนดรายการในใบกำกับภาษีของสินค้าหรือบริการบางกรณีตามมาตรา 86/5 (1) และ (2) แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2537 เป็นใบกำกับภาษีตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร โดยให้แยกค่าบริการ และจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่คำนวณจากมูลค่าของค่าบริการ ออกจากค่าระวาง ค่าธรรมเนียม และประโยชน์อื่นใด ที่ถูกบริษัทสายการเดินเรือเรียกเก็บ และให้ถือเป็นใบกำกับภาษีทั้งในส่วนของค่าระวาง ค่าธรรมเนียม และประโยชน์อื่นใดที่ถูกบริษัทสายการเดินเรือเรียกเก็บ และเป็นใบกำกับภาษีทั้งในส่วนของค่าบริการที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนซึ่งประกอบกิจการให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยเรือเดินทะเลเรียกเก็บ 1.2 กรณีบริษัทฯ เรียกเก็บค่าระวางขนส่ง รวมกับค่าบริการขนส่งเป็นก้อนเดียวกัน ไม่ได้แยกรายการดังเช่นกรณีตามข้อ 1.1 ดังกล่าว จากลูกค้าต่างประเทศ ถือว่า บริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการรับจ้างขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยเรือเดินทะเล ที่อยู่ในบังคับที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ในอัตรา 7% ของค่าระวาง ค่าธรรมเนียม และประโยชน์อื่นใดที่เรียกเก็บ ไม่ว่าในหรือนอกราชอาณาจักรก่อนหักรายจ่ายใดๆ เนื่องในการรับขนสินค้านั้นออกนอกราชอาณาจักร ทั้งจำนวน 2. ภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับค่าบริการขนส่ง 2.1 กรณีบริษัทฯ ให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยเรือเดินทะเล ซึ่งเรียกว่า Forwarder ให้บริการที่เป็นค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศแก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น ซึ่งเป็นผู้ใช้บริการ เข้าลักษณะเป็นเเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ ต้องรับรู้รายได้และถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามข้อ 3 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 110/2545ฯ ดังนี้ (1) กรณี Forwarder ได้ออกใบตราส่งสินค้า (เฮ้าส์บิลออฟเลดิง) และออกใบเสร็จรับเงินให้แก่ผู้ใช้บริการ (Shipper หรือ Forwarder รายอื่น) ผู้ใช้บริการซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย จาก Forwarder โดยคำนวณหักไว้ในอัตราร้อยละ 1.0 ของค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศตามที่ระบุไว้ในใบตราส่งสินค้า (เฮาส์บิลออฟเลดิง) และผู้ใช้บริการมีหน้าที่ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ให้แก่ Forwarder (2) กรณีบริษัทสายการเดินเรือได้ออกใบตราส่งสินค้า (บิลออฟเลดิง) ให้แก่ Forwarder ในนามของผู้ใช้บริการ (Shipper) แต่ออกใบเสร็จรับเงินในนามของ Forwarder ถือว่า Forwarder จ่ายค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยให้แก่บริษัทสายการเดินเรือ Forwarder จึงมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย จากบริษัทสายการเดินเรือตามหลักเกณฑ์ตามข้อ 2 โดยคำนวณหักไว้ในอัตราร้อยละ 1.0 ของค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศตามที่ระบุไว้ในใบตราส่งสินค้า (บิลออฟเลดิง) และ Forwarder มีหน้าที่ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายให้แก่บริษัทสายการเดินเรือในนามของตนเอง กรณี Forwarder ตามวรรคหนึ่ง เรียกเก็บค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยจากผู้ใช้บริการ (Shipper) โดยใช้ใบตราส่งสินค้า (บิลออฟเลดิง) ของบริษัทสายการเดินเรือ และ Forwarder ได้ออกใบเสร็จรับเงินในนามของผู้ใช้บริการ (Shipper) ถือว่าผู้ใช้บริการ (Shipper) จ่ายค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยให้แก่ Forwarder ดังนั้น ผู้ใช้บริการ (Shipper) จึงมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย จาก Forwarder โดยคำนวณหักไว้ในอัตราร้อยละ 1.0 ของค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศตามที่ระบุไว้ในใบตราส่งสินค้า (บิลออฟเลดิง) และผู้ใช้บริการ (Shipper) มีหน้าที่ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายให้แก่ Forwarder 2.2 กรณีบริษัทสายการเดินเรือ และ Forwarder ออกเอกสารเรียกเก็บค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยให้แก่ผู้ใช้บริการ โดยไม่สามารถระบุค่าธรรมเนียมและประโยชน์อื่นใดที่เกี่ยวกับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยไว้ในบิลออฟเลดิง หรือในเฮาส์บิลออฟเลดิง บริษัทสายการเดินเรือ และ Forwarder สามารถออกเอกสารโดยระบุเฉพาะค่าระวาง (Freight) ไว้ในบิลออฟเลดิงหรือเฮาส์บิลออฟเลดิง และระบุค่าธรรมเนียม หรือประโยชน์อื่นใดที่เกี่ยวกับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของออกนอกประเทศไทยไว้ในเอกสารใบเรียกเก็บเงิน(อินวอยซ์) หรือเอกสารอื่นที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน เช่น Freight Invoice ก็ได้ แต่ทั้งนี้ ค่าธรรมเนียม และประโยชน์อื่นใดดังกล่าวต้องเป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยระบบคอนเทนเนอร์เท่านั้น เมื่อผู้ใช้บริการซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินตามบิลออฟเลดิงหรือเฮาส์บิลออฟเลดิงและเอกสารใบเรียกเก็บเงิน (อินวอยซ์) หรือเอกสารอื่นที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน ดังกล่าว ถือเป็นการจ่ายเงินค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ จึงมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย จากบริษัทสายการเดินเรือ หรือ Forwarder แล้วแต่กรณี โดยคำนวณหักไว้ในอัตราร้อยละ 1.0 ของค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศตามที่ระบุไว้ในบิลออฟเลดิงหรือเฮาส์บิลออฟเลดิงและเอกสารใบเรียกเก็บเงิน (อินวอยซ์) หรือเอกสารอื่นที่มีลักษณะทำนองเดียวกันนั้น (ข้อ 4 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 110/2545ฯ) ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยระบบคอนเทนเนอร์ ตามวรรคหนึ่ง ได้แก่ (1) ค่าบรรจุตู้คอนเทนเนอร์หรือค่าแกะสินค้าออกจากตู้คอนเทนเนอร์ (Container Freight Station หรือ CFS) (2) ค่าธรรมเนียมใบสั่งปล่อยสินค้า (Delivery Order Fee หรือ D/O) (3) ค่าธรรมเนียมใบตราส่งสำหรับการขนส่งสินค้าขาออก (B/L Fee) (4) ค่าธรรมเนียมเปลี่ยนสถานะตู้คอนเทนเนอร์ (Status Fee) (5) ค่าภาระท่าเรือ คือ ค่าใช้จ่ายในการนำตู้คอนเทนเนอร์ลงจากเรือหรือค่าย้ายตู้คอนเทนเนอร์หน้าท่าเรือไปยังลาน (Terminal Handling Charge หรือ THC) (6) ค่าลากตู้ไปเปิดที่โรงงานกรณีการขนส่งสินค้าขาเข้า หรือค่าลากตู้ไปบรรจุสินค้าที่โรงงานและลากตู้กลับมาที่ท่าเรือกรณีการขนส่งสินค้าขาออก (Container Yard หรือ C/Y) กรณีบริษัทสายการเดินเรือ หรือ Forwarder ตามวรรคหนึ่ง ระบุค่าบริการ หรือเรียกว่า Handling Charge (H/D) ไว้ในเอกสารใบเรียกเก็บเงิน (อินวอยซ์) หรือเอกสารอื่นที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน เช่น Freight Invoice ด้วย นอกเหนือจากรายการค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยระบบคอนเทนเนอร์โดยแยกรายการอย่างชัดเจน เฉพาะค่าบริการ (Handling Charge) ถือเป็นค่าตอบแทนที่ผู้ใช้บริการจ่ายให้แก่บริษัทสายการเดินเรือ หรือ Forwarder ผู้ใช้บริการซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย โดยคำนวณหักไว้ในอัตราร้อยละ 3.0 ของค่าบริการ (Handling Charge) นั้น ตามข้อ 12/1 ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.4/2528 เรื่อง สั่งให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2528 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.104/2544 เรื่อง สั่งให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ลงวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2544 สำหรับรายการค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยระบบคอนเทนเนอร์ที่ระบุไว้ในเอกสารใบเรียกเก็บเงิน (อินวอยซ์) หรือเอกสารอื่นที่มีลักษณะทำนองเดียวกันนั้น ถือเป็นค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ซึ่งอยู่ในบังคับต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 1.0 ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ |