Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

การให้บริการรับจ้างขนส่งด้วยรถบรรทุกแบบควบคุมอุณหภูมิ


เรื่อง การให้บริการรับจ้างขนส่งด้วยรถบรรทุกแบบควบคุมอุณหภูมิ
แหล่งที่มา Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์
วันที่ วันที่ถาม 29/04/2025 - วันที่ตอบ 16/05/2025
ประเภทภาษี ภาษีเงินได้นิติบุคคล,ภาษีมูลค่าเพิ่ม
ข้อกฎหมาย มาตรา 81 (1) (ณ) แห่งประมวลรัษฎากร
ปุจฉา

บริษัท ฯ ทำกิจการขนส่ง โดยรถควบคุมอุณหภูมิ เจอเจ้าพนักงานสรรพากรมาตรวจ เขาประเมินภาษีมูลค่าเพิ่ม
อยากรบกวนสอบถามอาจารย์ว่า 
เราจะมีข้อกฎหมายอะไรไปแย้งเขาคะ ว่าเราขนส่งอย่างเดียว จำเป็นต้องมีรถควบคุมอุณหภูมิ เพราะสินค้าที่เรานำส่งเป็นสินค้าแข่แข็ง ซึ่งเคยอ่านความคิดเห็นส่วนตัวอาจารย์ว่า มันเป็น “ขนส่ง”

วิสัชนา
1. ตามหนังสือตอบข้อหารือของกรมสรรพากรเลขที่ กค 0702/88 ลงวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2567 กรมสรรพากรวางแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการรับจ้างขนส่งสินค้าประเภทอาหารแช่เย็นไปยังสถานที่ต่าง ๆ ตามที่ผู้ว่าจ้างกำหนดด้วยรถบรรทุกแบบควบคุมอุณหภูมิ นั้น หากมีการให้บริการอื่น นอกเหนือไปจากรับขนสินค้าแล้ว ย่อมถือว่า งานที่ว่าจ้างดังกล่าวมีวัตถุประสงค์และการกระทำที่มุ่งผลสำเร็จของงานทั้งกระบวนการมากกว่าการรับขนส่งสินค้าจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ดังนั้น การให้บริการตามสัญญาร่วมกิจการขนส่งจึงเป็นสัญญาจ้างทำของตามมาตรา 587 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ อันเป็นการให้บริการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 77/1 (10) และมาตรา 77/2 (1) แห่งประมวลรัษฎากร ดังนี้ 
    เลขที่หนังสือ : กค 0702/88
    วันที่ : 8 มกราคม 2567
    เรื่อง : ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการให้บริการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกแบบควบคุมอุณหภูมิ
    ข้อกฎหมาย : มาตรา 77/1 (10) และมาตรา 77/2 (1) แห่งประมวลรัษฎากร
    ข้อหารือ :   
        1. นาย ก. ทำสัญญาร่วมกิจการขนส่งกับบริษัท A เพื่อขนส่งสินค้าประเภทอาหารแช่เย็น เช่น แฮม ไข่ ไส้กรอก มีกำหนดระยะเวลาตามสัญญา 1 ปี โดยมีข้อกำหนดให้นาย ก. ต้องใช้รถบรรทุกห้องเย็นที่มีการควบคุมอุณหภูมิ และยังมีหน้าที่และความรับผิดอื่นนอกเหนือจากการให้บริการขนส่งสินค้าดังกล่าว นาย ก. จะได้รับค่าบริการขนส่งสินค้าซึ่งประกอบด้วย ค่าแรงในการขึ้นลงสินค้า ค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการ ค่าประกันภัยการขนส่งสินค้าระหว่างต้นทางถึงปลายทาง การฝึกอบรมกระบวนการรับส่งสินค้าแก่พนักงานขับรถและพนักงานจัดเรียงสินค้าตามอัตราและระยะเวลาที่ตกลงกับบริษัทฯ เป็นคราว ๆ ไป 
        2. นาย ก. แจ้งว่าเนื่องจากกรมการขนส่งทางบกได้มีประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง การรับรองมาตรฐานคุณภาพบริการขนส่งด้วยรถบรรทุก พ.ศ. 2562 (มาตรฐาน Q Mark) ประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง การรับรองมาตรฐานคุณภาพการขนส่งสินค้าเกษตรและอาหารด้วยรถบรรทุกแบบควบคุมอุณหภูมิ พ.ศ. 2562 (มาตรฐาน Q Cold Chain) และประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง การกำหนดและติดเครื่องหมายรับรองมาตรฐานคุณภาพการขนส่งสินค้าเกษตรและอาหารด้วยรถบรรทุกแบบควบคุมอุณหภูมิ พ.ศ. 2562 ซึ่งมีข้อกำหนดต่าง ๆ เกี่ยวกับลักษณะและมาตรฐานของรถบรรทุก และกระบวนการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกแบบควบคุมอุณหภูมิ นาย ก. เห็นว่า ประกาศทั้งสามฉบับดังกล่าวส่งผลให้ผู้ขนส่งมีหน้าที่ตามกฎหมายหลายประการ เช่น ขนาดของรถ การทำอุณหภูมิในการขนส่ง การจัดเรียงสินค้า การติดตั้งเครื่องบันทึกอุณหภูมิ และหน้าที่อื่น ๆ ซึ่งแม้ว่าสัญญาจ้างจะไม่มีข้อกำหนดดังกล่าวไว้ นาย ก. ก็ย่อมจะต้องปฏิบัติหน้าที่ที่กำหนดโดยประกาศของกรมการขนส่งทางบก ดังนั้น แม้สัญญากิจการร่วมขนส่ง จะมีข้อกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบเพิ่มเติมก็ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ไม่ใช่การให้บริการนอกเหนือจากหน้าที่ทั่วไปของผู้ขนส่ง นาย ก. จึงเห็นว่า การรับขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกแบบควบคุมอุณหภูมิที่ผู้ขนส่งต้องปฏิบัติตามที่ประกาศกรมการขนส่งทางบกฉบับต่าง ๆ ดังกล่าวกำหนดไว้ ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยปกติของผู้ขนส่งตามมาตรฐานที่กำหนดโดยประกาศกรมการขนส่งทางบก จึงขอหารือว่าการให้บริการขนส่งสินค้าของตนต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่

    แนววินิจฉัย : 
        1. ประกาศกรมการขนส่งทางบกทั้ง 3 ฉบับที่นาย ก. อ้างถึงนั้น เป็นประกาศเกี่ยวกับการขอรับการรับรองมาตรฐาน Q Mark และ Q Cold Chain ภาคสมัครใจ โดยมีข้อกำหนดในการตรวจประเมินสำหรับผู้ประกอบการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกแบบควบคุมอุณหภูมิที่ได้ยื่นคำขอรับการรับรองตามมาตรฐาน Q Cold Chain สรุปได้ดังนี้ 
     1.1 ด้านปฏิบัติการขนส่ง ผู้ประกอบการขนส่งต้องประเมินความสามารถของตนเองก่อนการรับจ้างงานได้ โดยมีการตกลงกับผู้ว่าจ้างถึงขอบเขตการจ้างงาน เช่น ประเภทรถที่ใช้และความสามารถในการขนส่ง ช่วงอุณหภูมิและหรือความชื้นที่ใช้ในการขนส่ง เป็นต้น มีคู่มือการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการขนส่งสินค้าตั้งแต่การรับคำสั่งจนถึงการส่งมอบสินค้า เช่น วิธีการทำความเย็นล่วงหน้าและการควบคุมอุณหภูมิ รวมทั้งการตรวจวัดและบันทึกอุณหภูมิในระหว่างการขนส่ง วิธีการลำเลียงและจัดเรียงสินค้า เป็นต้น ทั้งต้องมีแผนรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น การกำหนดขอบเขตความสามารถในการจัดการปัญหาในเบื้องต้นและระยะเวลาที่ควรจะต้องดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จ 
     1.2 ด้านความสะอาด ผู้ประกอบการขนส่งต้องมีการทำความสะอาดภายในตู้ห้องเย็นและอุปกรณ์ต่าง ๆ ด้วยวิธีการและความถี่ที่เหมาะสม สารทำความสะอาดที่ใช้ต้องมีความปลอดภัยต่อสินค้าและผู้บริโภค และไม่มีกลิ่นตกค้าง ตามที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยากำหนด 
     1.3 ด้านมาตรฐานห้องเย็นและการบำรุงรักษา ผู้ประกอบการขนส่งต้องมีการติดตั้งและตรวจสอบสภาพความพร้อมของอุปกรณ์ตรวจวัดและบันทึกอุณหภูมิที่มีความเหมาะสมในการรักษาอุณหภูมิภายในตู้ห้องเย็น ทั้งต้องมีแผนและผลการบำรุงรักษาสำหรับอุปกรณ์ดังกล่าวและเครื่องทำความเย็น เช่น การสอบเทียบหรือทวนสอบอุปกรณ์ 
     1.4 ด้านการพัฒนาทรัพยากรบุคคล มีการอบรมให้ความรู้แก่พนักงานขับรถและพนักงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการขนส่งสินค้าเกษตรและอาหารด้วยรถบรรทุกแบบควบคุมอุณหภูมิ เช่น ความรู้ด้านรถและตู้ห้องเย็น วิธีการจัดเรียง ลำเลียง และขนถ่ายสินค้าที่เหมาะสม เป็นต้น มีการตรวจสุขภาพพนักงานที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน และมีแนวทางการจัดการในกรณีที่พนักงานซึ่งอาจได้สัมผัสสินค้ามีอาการป่วย 
     ประกาศกรมการขนส่งทางบกทั้ง 3 ฉบับดังกล่าวเป็นเพียงข้อกำหนดให้ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกต้องได้รับการรับรองมาตรฐาน Q Mark หรือ Q Cold Chain แล้วแต่กรณีเท่านั้น มิใช่เป็นการกำหนดให้กิจการที่ผู้ให้บริการได้กระทำขึ้นนั้นเป็นการให้บริการรับจ้างขนส่งแต่ประการใด 
        2. กรณีที่นาย ก. รับจ้างขนส่งสินค้าประเภทอาหารแช่เย็นไปยังร้านสาขาต่าง ๆ ที่บริษัทฯ กำหนดด้วยรถบรรทุกแบบควบคุมอุณหภูมิ นอกจากการให้บริการรับขนสินค้าแล้ว นาย ก. ยังมีหน้าที่อื่น ๆ ดังนี้ 
    2.1 การรับคืนลังพลาสติกเปล่า และนำสินค้าที่เสียหายหรือส่งคืนจากการขนส่งในรอบนั้น ๆ หรือสินค้าที่ยกเลิกการขายจากร้านสาขาต่าง ๆ กลับมายังศูนย์กระจายสินค้าที่บริษัทฯ กำหนด พร้อมนำเอกสารที่มีการลงนามรับสินค้า หรือเอกสารการคืนสินค้าที่ร้านสาขาเป็นผู้ออกมาส่งมอบให้กับบริษัทฯ 
        2.2 ในกรณีที่มีความเสียหายหรือสูญหายของสินค้าหรือพัสดุภัณฑ์ที่เกิดจากการละเมิดหรืออยู่ในความรับผิดชอบของนาย ก. รวมทั้งเหตุอื่นใดอันเกิดจากเหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้นในระหว่างการขนส่ง นาย ก. ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นทั้งสิ้น 
    2.3 หากนาย ก. ไม่สามารถนำส่งเอกสารที่มีการลงนามรับสินค้าหรือเอกสารการคืนสินค้าที่ร้านสาขาเป็นผู้ออกให้กับบริษัทฯ ได้ภายในกำหนดเวลา นาย ก. ต้องรับผิดเสียค่าปรับจำนวน 100 บาทต่อฉบับให้กับบริษัทฯ หรือกรณีที่เอกสารดังกล่าวสูญหาย นาย ก. ต้องรับผิดเสียค่าปรับจำนวน 200 บาทต่อฉบับและต้องดำเนินการแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและนำสำเนาบันทึกการแจ้งความมามอบให้กับบริษัทฯ ภายใน 7 วัน 
กรณีจึงเห็นได้ว่า หน้าที่และความรับผิดต่าง ๆ ตาม 2.1 ถึง 2.3 เข้าลักษณะการให้บริการอื่น ๆ นอกเหนือ จากหน้าที่รับขนส่ง และถือว่างานที่ว่าจ้างดังกล่าวมีวัตถุประสงค์และการกระทำที่มุ่งผลสำเร็จของงานทั้งกระบวนการมากกว่าการรับขนส่งสินค้าจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ดังนั้น การให้บริการตามสัญญาร่วมกิจการขนส่งจึงเป็นสัญญาจ้างทำของตามมาตรา 587 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ อันเป็นการให้บริการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 77/1 (10) และมาตรา 77/2 (1) แห่งประมวลรัษฎากร


2. กรณีผู้ประกอบการประกอบกิจการรับจ้างขนส่งเป็นปกติธุระ ไม่ต้องถือเอาค่าขนส่งเป็นส่วนหนึ่งของราคาสินค้าหรือค่าบริการ โดยผู้ประกอบการได้แยกค่าบริการขนส่งต่างหากจากราคาสินค้าและค่าบริการ นั้น (1) ไม่ว่าผู้ประกอบการจะแสดงรายการค่าขนส่งไว้ในใบกำกับภาษี หรือแยกแสดงไว้ในเอกสารอื่นต่างหาก และ (2) ไม่ว่าผู้ประกอบการจะทำการขนส่งยานพาหนะของตนเอง หรือว่าจ้างให้บุคคลอื่นขนส่งให้ก็ตาม ค่าบริการรับจ้างขนส่งดังกล่าว เป็นรายได้ที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่ต้องถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายในอัตรา 1% ของค่าบริการขนส่ง
    ตัวอย่าง
    กรณีบริษัทฯ ได้ให้บริการคลังสินค้า (รับฝากสินค้า) พร้อมขนส่งสินค้าให้กับลูกค้า โดยบริษัทฯ ประกอบกิจการให้บริการขนส่งเป็นปกติธุระ หากบริษัทฯ สามารถแยกค่าขนส่งและราคาค่าบริการเก็บรักษาสินค้าออกจากกันได้ การให้บริการขนส่งดังกล่าวได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 81 (1) (ณ) แห่งประมวลรัษฎากร ส่วนการให้บริการเก็บรักษาสินค้า เข้าลักษณะเป็นการให้บริการ บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยออกใบกำกับภาษีและเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับค่าบริการดังกล่าวตามมาตรา 77/1 (10) มาตรา 77/2 และมาตรา 82/4 แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้น เมื่อบริษัทฯ เรียกเก็บค่าบริการจากลูกค้า จึงมีสิทธิแยกคำนวณค่าขนส่งต่างหากจากค่าบริการคลังสินค้าได้ (หนังสือกรมสรรพากรที่ กค 0706/พ./4804 ลงวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2549) 
    การประกอบกิจการรับส่งพนักงานนำร่องระหว่างท่าเทียบเรือศูนย์รักษาร่องน้ำกับเรือบรรทุกสินค้าที่จะเข้าเทียบท่า และรับขนส่งสินค้าหรือคนโดยสารระหว่างฝั่งกับเรือบรรทุกสินค้า โดยคิดค่าขนส่งเป็นรายเที่ยว ตามข้อเท็จจริงดังกล่าว เข้าลักษณะเป็นการให้บริการขนส่งในราชอาณาจักร ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 81 (1) (ณ) แห่งประมวลรัษฎากร (หนังสือกรมสรรพากรที่ กค 0811/พ.05399 ลงวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2542) 
    ธนาคารฯ ได้ทำสัญญาจ้างขนส่งกับบริษัทฯ ให้ดำเนินการขนส่งเอกสารจากที่หนึ่งไปยังที่อีกแห่งหนึ่งโดยไม่มีการให้บริการใดเพิ่มเติม ถือเป็นการให้บริการขนส่ง ตามมาตรา 608 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เข้าลักษณะเป็นการให้บริการขนส่งในราชอาณาจักร ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 81 (1) (ณ) แห่งประมวลรัษฎากร (หนังสือกรมสรรพากรที่ กค 0706/พ./6030 ลงวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2550) 
    การให้บริการขนส่งนอกบริเวณท่าเรือโดยให้บริการรถหัวลาก รถพ่วง รถบรรทุกเพื่อบรรทุกสินค้าหรือลากตู้สินค้าจากท่าเรือมาบริษัทฯ หรือโรงงานของลูกค้าหรือในทางกลับกันเป็นการบรรทุกสินค้าหรือลากตู้สินค้าจากบริษัทฯ หรือโรงงานของลูกค้าไปท่าเรือ และการให้บริการลากตู้เปล่าจากสถานที่หนึ่งไปอีกสถานที่หนึ่ง โดยไม่ได้ให้บริการอื่นใดอีก และได้กระทำนอกบริเวณท่าเรือหรือนอกบริเวณที่ต่อเนื่องกับท่าเรือ เข้าลักษณะเป็นการประกอบกิจการขนส่งในราชอาณาจักร จึงได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 81 (1) (ณ) แห่งประมวลรัษฎากร (หนังสือกรมสรรพากรที่ กค 0706/พ./3632 ลงวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2546)

ต่อข้อถาม ขอเรียนว่า 
โดยความเคารพความเห็นของกรมสรรพากร แต่จากการรับฟังเสียงของผู้สันทัดกรณีทั้งหลาย กลับเห็นตรงกันข้ามกับกรมสรรพากรว่า การให้บริการรับจ้างขนส่งด้วยรถบรรทุกแบบควบคุมอุณหภูมิ รวมทั้งหน้าที่ทั้งหลายที่เกี่ยวข้องยังคงเป็นการขนส่งโดยแท้ มิได้มีการให้บริการอื่นใดปนในอันที่จะพิจารณาได้ว่า เป็นการรับจ้างทำของ ดังนั้น อาจแยกพิจารณาได้ดังนี้ 
    ประการที่ 1  สำหรับการให้บริการรับจ้างขนส่งสินค้าแช่แข็งด้วยรถบรรทุกแบบควบคุมอุณหภูมิ ที่ไม่มีการให้บริการอื่นใดปนเปื้อนแม้แต่น้อย ย่อมยังคงเป็นการให้บริการรับขนส่งสินค้าในราชอาณาจักร ที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 81 (1) (ณ) แห่งประมวลรัษฎากร 
    ประการที่ 2  สำหรับการให้บริการรับจ้างขนส่งสินค้าแช่แข็งด้วยรถบรรทุกแบบควบคุมอุณหภูมิ ที่มีการให้บริการอื่นใดปนด้วย นั้น หากผู้ให้บริการมีใบอนุญาตประกอบการรับจ้างขนส่งในการประกอบกิจการเป็นปกติธุระ ค่าบริการรับจ้างขนส่งยังคงเป็นการให้บริการรับขนส่งสินค้าในราชอาณาจักร ที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 81 (1) (ณ) แห่งประมวลรัษฎากร 
         สำหรับค่าบริการอื่น ที่เป็นรายได้ที่อยู่ในบังคับที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และสามารถแยกจำนวนค่าบริการดังกล่าวได้ ซึ่งมีจำนวนเงินไม่มาก และไม่เกินกว่ามูลค่าของฐานภาษี่ของกิจการขนาดย่อม คือ มีจำนวนไม่เกิน 1,800,000 บาท ต่อปี ก็ย่อมได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 81/1 แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 342) พ.ศ. 2542



ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ 

คลิ๊กที่นี่ เพื่อติดตาม FB เพจ "อาจารย์ สุเทพ พงษ์พิทักษ์"

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การท่องเว็บที่ดีขึ้น ข้อตกลงและนโยบายความเป็นส่วนตัว
ยอมรับ