Case study

เกณฑ์การพิจารณาว่าค่าเลี้ยงรับรองว่าสามารถถือเป็นค่าใช่จ่ายทางภาษีได้หรือไม่


เรื่อง เกณฑ์การพิจารณาว่าค่าเลี้ยงรับรองว่าสามารถถือเป็นค่าใช่จ่ายทางภาษีได้หรือไม่
แหล่งที่มา Case study
วันที่ 05/12/2023
ประเภทภาษี ภาษีเงินได้นิติบุคคล
ข้อกฎหมาย
คำถาม

เกณฑ์การพิจารณาว่าค่าเลี้ยงรับรองว่าสามารถถือเป็นค่าใช่จ่ายทางภาษีได้หรือไม่

คำตอบ

ตอบ    การพิจารณาว่า ค่าเลี้ยงรับรอง ในกรณีต่างๆ ถือเป็นค่าใช่จ่ายได้หรือไม่ นั้น ให้พิจารณา ว่า การรับรองนั้น 

เข้าลักษณะตามมาตรา 65 ตรี(3)    มาตรา 65 ตรี(4)ประกอบกับกฏกระทรวง ฉ.143    และ  มาตรา (13) หรือไม่


มาตรา 65 ตรี

ลงเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้

ไม่สามารถลงเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้

(3)

ไม่ได้ให้เป็นการส่วนตัว การให้โดยเสน่หา


ให้เป็นการส่วนตัว การให้โดยเสน่หา

(4)


เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดโดย

กฎกระทรวง(กฏกระทรวง ฉ.143)


ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดโดยกฎกระทรวง(กฏกระทรวง ฉ.143)

 (13)

เป็นรายจ่ายเพื่อหากำไรหรือเพื่อกิจการโดยเฉพาะ


ไม่เป็นรายจ่ายเพื่อหากำไรหรือเพื่อกิจการโดยเฉพาะ




มาตรา 65 ตรีรายการต่อไปนี้ ไม่ให้ถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ

“(3) รายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการส่วนตัว การให้โดยเสน่หา หรือการกุศล เว้นแต่..


(4) ค่ารับรองหรือค่าบริการส่วนที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดโดยกฎกระทรวง


(13) รายจ่ายซึ่งมิใช่รายจ่ายเพื่อหากำไรหรือเพื่อกิจการโดยเฉพาะ





กฎกระทรวง ฉบับที่ 143 (พ.ศ. 2522)

ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยภาษีเงินได้


ข้อ 1   ค่ารับรองหรือค่าบริการที่จะถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิได้ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในข้อ 2 ข้อ 3 ข้อ 4 และข้อ 5


ข้อ 2   ค่ารับรองหรือค่าบริการนั้น ต้องเป็นค่ารับรองหรือค่าบริการอันจำเป็นตามธรรมเนียมประเพณีทางธุรกิจทั่วไป และบุคคลซึ่งได้รับการรับรองหรือรับบริการต้องมิใช่ลูกจ้างของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเว้นแต่ลูกจ้างดังกล่าวจะมีหน้าที่เข้าร่วมในการรับรองหรือการบริการนั้นด้วย


ข้อ 3ค่ารับรองหรือค่าบริการ ต้อง

                      (1) เป็นค่าใช้จ่ายอันเกี่ยวเนื่องโดยตรงกับการรับรองหรือการบริการที่จะอำนวยประโยชน์แก่กิจการ เช่น ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเครื่องดื่ม ค่าดูมหรสพ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการกีฬา เป็นต้น หรือ

                      (2) เป็นค่าสิ่งของที่ให้แก่บุคคลซึ่งได้รับการรับรองหรือรับบริการไม่เกินคนละ 2,000 บาท ในแต่ละคราวที่มีการรับรองหรือการบริการ”


ข้อ 4จำนวนเงินค่ารับรองและค่าบริการให้นำมาหักเป็นรายจ่ายได้เท่ากับจำนวนที่ต้องจ่าย แต่รวมกันต้องไม่เกินร้อยละ 0.3 ของจำนวนเงินยอดรายได้หรือยอดขายที่ต้องนำมารวมคำนวณกำไรสุทธิก่อนหักรายจ่ายใด ในรอบระยะเวลาบัญชีหรือของจำนวนเงินทุนที่ได้รับชำระแล้วถึงวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี แล้วแต่จำนวนใดจะมากกว่า ทั้งนี้รายจ่ายที่จะนำมาหักได้จะต้องมีจำนวนสูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาท

(แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 222 (พ.ศ. 2542) ใช้บังคับสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2542 เป็นต้นไป)


ข้อ 5 ค่ารับรองหรือค่าบริการนั้น ต้องมีกรรมการหรือผู้เป็นหุ้นส่วนหรือผู้จัดการ หรือผู้ได้รับมอบหมายจากบุคคลดังกล่าวเป็นผู้อนุมัติหรือสั่งจ่ายค่ารับรอง หรือค่าบริการนั้นด้วย และต้องมีใบรับหรือหลักฐานของผู้รับสำหรับเงินที่จ่ายเป็นค่ารับรองหรือเป็นค่าบริการเว้นแต่ในกรณีที่ผู้รับเงินไม่มีหน้าที่ต้องออกใบรับตามประมวลรัษฎากร




เรื่อง

ภาษีซื้อที่เกิดจากการซื้ออาหารเพื่อเลี้ยงกรรมการ / ค่าอาหารเพื่อเลี้ยงช่างที่มาซ่อมประตูของบริษัทฯ

แหล่งที่มา

Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

ประเภทภาษี

ภาษีเงินได้นิติบุคคล,ภาษีมูลค่าเพิ่ม

ข้อกฎหมาย

มาตรา 82/5, มาตรา 65 ตรี (3) แห่งประมวลรัษฎากร

ปุจฉา

บริษัทฯ เป็นบริษัทที่ถือหุ้นในบริษัทอื่น (ไม่มีสัญญาจ้างงานกับพนักงาน) บริษัทฯ มีการประชุมกรรมการบริษัทฯ เป็นครั้งคราว และเมื่อมีการประชุมจะมีการสั่งอาหารหรือของว่างเพื่อแจกให้กับกรรมการของบริษัทฯ ที่มาประชุม

ขอสอบถามว่า

    ภาษีซื้อที่เกิดจากการซื้ออาหารเพื่อเลี้ยงกรรมการที่มาประชุมสามารถนำมาใช้เป็นภาษีซื้อได้ไหมคะ

มีหลายความเห็นมองว่าไม่ใช่ค่ารับรอง เนื่องจากไม่ได้เป็นการเลี้ยงลูกค้า แต่อาจจะถือเป็นรายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการส่วนตัว จึงไม่สามารถใช้เป็นภาษีซื้อได้รวมถึงไม่สามารถเป็นรายจ่ายทางภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ บางความเห็นก็มองว่า ข้อ 5 ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 17) ก็ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าค่ารับรองจะต้องเป็นการเลี้ยงลูกค้า ดังนั้นการเลี้ยงกรรมการก็จะถือเป็นค่ารับรอง ซึ่งเคลมภาษีซื้อไม่ได้ แต่นำภาษีมูลค่าเพิ่มมาเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีเงินได้นิติบุคคลได้หากไม่เกินจำนวนที่กฎหมายกำหนด

    1.จึงขอเรียนถามความเห็นจากอาจารย์สุเทพว่าอาจารย์มีความเห็นอย่างไร และหากต้องการให้ภาษีซื้อจากค่าอาหารที่เลี้ยงกรรมการนี้ใช้เคลมเป็นภาษีซื้อได้ จะต้องจัดเตรียมเอกสารอย่างไร (เช่น ต้องระบุในระเบียบบริษัทว่ากรรมการบริษัทฯมีสิทธิ์ได้รับการเลี้ยงอาหาร เป็นต้น)

    2. หากเป็นการซื้ออาหารจากเซเว่นเพื่อเลี้ยงช่างที่มาซ่อมประตูของบริษัทฯ แบบนี้จะถือเป็นภาษีซื้อต้องห้ามและค่าใช้จ่ายต้องห้ามทุกกรณี เพราะถือว่าให้โดยเสน่หา ถูกต้องหรือไม่คะ

วิสัชนา

1.กรณีบริษัทฯ มีการประชุมกรรมการบริษัทฯ เป็นครั้งคราว และเมื่อมีการประชุมจะมีการสั่งอาหารหรือของว่าง เพื่อใช้ในการประชุมกรรมการของบริษัทฯ ที่มาประชุมดังกล่าว เข้าลักษณะเป็นภาษีซื้อที่เกี่ยวเนื่องโดยตรงกับการประกอบกิจการ บริษัทฯ จึงย่อมนำภาษีซื่อดังกล่าวไปเครดิตหักออจากภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มได้ ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 82/5 แห่งประมวลรัษฎากร แต่อย่างใด

     เนื่องจากเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจการตามปกติ จึงไม่จำเป็นต้องมีเอกสารพิเศษอื่นใด เพียงแต่มีผู้มีอำนาจอนุมัติให้จ่ายได้ประกอบกับอ้างถึงการจัดประชุมกรรมการก็เพียงพอแล้ว ซึ่งทุกบริษัทฯ ก็ดำเนินการในลักษณะทำนองเดียวกันนี้


2. กรณีบริษัทฯ ซื้ออาหารจากร้านสะดวกซื้อ เพื่อเลี้ยงช่างที่มาซ่อมประตูบริษัทฯ นั้น เนื่องจากบริษัทฯ ไม่มีหน้าที่ต้องดำเนินการในลักษณะที่กล่าวข้างต้น จึงถือเป็นการให้โดยเสน่หา เข้าลักษณะเป็นรายจ่ายต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (3) แห่งประมวลรัษฎากร เว้นแต่มีข้อตกลงว่า บริษัทฯ ต้องจัดหาอาหารมาเลี้ยงช่างดังกล่าว ก็ย่อมถือเป็นรายจ่ายได้ และใช้ภาษีซื้อได้ แต่ต้องถือเป็นเงินได้พึงประเมินของช่างเหล่านั้น


  

ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ

คลิ๊กที่นี่ เพื่อติดตาม FB เพจ "อาจารย์ สุเทพ พงษ์พิทักษ์"



หมายเหตุ: TAX CASE STUDY จาก Tax-EZ Website เป็นเพียงเคสตัวอย่างเท่านั้น  กรุณาตรวจสอบข้อมูลก่อนนำไปใช้อ้างอิง


หมายเหตุ : TAX CASE STUDY จาก Tax-EZ Website เป็นเพียงเคสตัวอย่างเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลก่อนนำไปใช้อ้างอิง
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การท่องเว็บที่ดีขึ้น ข้อตกลงและนโยบายความเป็นส่วนตัว
ยอมรับ