Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

การติดอากรแสตมป์จากยอดประมาณการ


เรื่อง การติดอากรแสตมป์จากยอดประมาณการ
แหล่งที่มา Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์
วันที่ วันที่ถาม 23/11/2022 - วันที่ตอบ 30/11/2022
ประเภทภาษี อากรแสตมป์
ข้อกฎหมาย มาตรา 113 อนุมาตรา 1 แห่งประมวลรัษฎากร
ปุจฉา
สอบถามเกี่ยวกับ อากรแสตมป์ 
     กรณีที่มีการติดอากรแสตมป์จากยอดประมาณการ แล้วตอนสิ้นสุดสัญญา พบว่าอากรที่ติดขาดไป เราได้ไปยื่นเพิ่มเติม เมื่อมีการรับชำระเงิน (ตามบัญชีอากร ข้อ 4 (2) คือการเรียกเก็บค่าจ้างเป็นคราวๆ ไป เมื่อยอดเรียกเก็บเกินกว่าที่เคยยื่นอากรไว้ให้ยื่นเสียเพิ่มเติม ทันทีที่ได้รับชำระเงิน  
คำถาม 
ทางสรรพากรจะคิดค่าปรับ โดยยึดจากคำว่า ต้องชำระทันทีที่ได้รับเงิน เช่น บริษัทรับเงินก้อนสุดท้ายที่เกินจากยอดที่ประมาณการไว้ในวันที่ 15 พ.ย. ต้องยื่นเพิ่มอากรทันทีใน วันที่ 15 พ.ย. โดยยึดคำว่า ต้องชำระทันที กรณีเช่นนี้ มาตรา 113 หากยื่นภายใน 15 วัน ไม่ต้องเสียค่าปรับแต่สรรพากรบอกว่าใช้ในกรณีนี้ไม่ได้ครับ
วิสัชนา
1. ตามลักษณะตราสาร 4 จ้างทำของ แห่งบัญชีอัตราอากรแสตมป์ ท้ายหมวด 6 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร บัญญัติว่า
    “4. จ้างทำของ 
         ผู้รับจ้างมีหน้าที่ต้องปิดอากรแสตมป์ในอัตรา 1 บาท ต่อทุกจำนวนเงิน 1,000 บาท หรือเศษของ 1,000 บาท แห่งสินจ้างที่กำหนดไว้
         หมายเหตุ
         (1) ถ้าในเวลากระทำสัญญาจ้างทำของไม่ทราบจำนวนสินจ้างว่าเป็นราคาใด ให้ประมาณจำนวนสินจ้างตามสมควรแล้วเสียอากรตามจำนวนสินจ้างที่ประมาณนั้น
         (2) ถ้ามีการรับเงินสินจ้างเป็นคราว ๆ และอากรที่เสียไว้เดิมยังไม่ครบ ให้เสียอากรเพิ่มเติมให้ครบตามจำนวนที่ต้องเสียทุกครั้งในทันทีที่มีการรับเงิน
         (3) เมื่อการรับจ้างทำของได้สิ้นสุดลงแล้ว และปรากฏว่าได้เสียอากรเกินไป ให้ขอคืนตามมาตรา 122 ได้
         ยกเว้นไม่ต้องเสียอากร
         สัญญาที่ทำขึ้นนอกประเทศไทยและการปฏิบัติตามข้อสัญญานั้นมิได้ทำในประเทศไทย”

2. ตามมาตรา 113 อนุมาตรา 1 แห่งประมวลรัษฎากร 
    “มาตรา 113 ตราสารใดมิได้ปิดแสตมป์บริบูรณ์ ผู้มีหน้าที่เสียอากรหรือผู้ทรงตราสารหรือผู้ถือเอาประโยชน์ชอบที่จะยื่นตราสารนั้นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อขอเสียอากรได้ เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้รับตราสารแล้ว ให้อนุมัติให้เสียอากรภายในบังคับแห่งบทบัญญัติต่อไปนี้
         1 ถ้าตราสารที่มิได้ปิดแสตมป์บริบูรณ์นั้นเป็นตราสารที่กระทำขึ้นในประเทศไทย เมื่อผู้ขอเสียอากรได้ยื่นตราสารนั้นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อเสียอากรภายใน 15 วันนับแต่วันต้องปิดแสตมป์บริบูรณ์ ก็ให้อนุมัติให้เสียเพียงอากรตามอัตราในบัญชีท้ายหมวดนี้
         2 ถ้ากรณีเป็นอย่างอื่น ก็ให้อนุมัติให้เสียอากรและให้เรียกเก็บเงินเพิ่มอากร ดังต่อไปนี้อีกด้วย
            (ก) ถ้าปรากฏต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ว่า ตราสารมิได้ปิดแสตมป์บริบูรณ์เป็นเวลาไม่พ้นกำหนด 90 วัน นับแต่วันต้องปิดแสตมป์บริบูรณ์ให้เรียกเก็บเงินเพิ่มอากรเป็น 2 เท่าจำนวนอากร หรือเป็นเงิน 4 บาท แล้วแต่อย่างใดจะมากกว่า
            (ข) ถ้าปรากฏต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ว่า ตราสารมิได้ปิดแสตมป์บริบูรณ์ เป็นเวลาพ้นกำหนด 90 วัน นับแต่วันต้องปิดแสตมป์บริบูรณ์แล้ว ให้เรียกเก็บเงินเพิ่มอากรเป็น 5 เท่าจำนวนอากร หรือเป็นเงิน 10 บาท แล้วแต่อย่างใดจะมากกว่า” 

ต่อข้อถาม ขอเรียนว่า
กรณีตามข้อเท็จจริง บริษัทฯ ได้ทำสัญญาจ้างทำของ โดยในเวลากระทำสัญญาจ้างทำของบริษัทฯ ไม่ทราบจำนวนสินจ้างว่าเป็นราคาใด จึงได้ประมาณจำนวนสินจ้างตามสมควรแล้วเสียอากรตามจำนวนสินจ้างที่ประมาณนั้น และต่อมาเมื่อมีการรับเงินสินจ้างเป็นคราว ๆ และอากรที่เสียไว้เดิมยังไม่ครบ ให้บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องเสียอากรแสตมป์เพิ่มเติมให้ครบตามจำนวนที่ต้องเสียทุกครั้งในทันทีที่มีการรับเงิน
    เช่นนี้ ตามมาตรา 113 อนุมาตรา 1 แห่งประมวลรัษฎากร ได้กำหนดข้อผ่อนปรนสำหรับตราสารที่กระทำขึ้นในประเทศไทย ซึ่งมิได้ปิดแสตมป์บริบูรณ์ บริษัทฯ ในฐานะผู้มีหน้าที่เสียอากรหรือผู้ทรงตราสารหรือผู้ถือเอาประโยชน์ชอบที่จะยื่นตราสารนั้นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อขอเสียอากรได้ เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้รับตราสารแล้ว ให้อนุมัติให้เสียอากรตามอัตราในบัญชีอัตราอากรแสตมป์ โดยไม่ต้องรับผิดเงินเพิ่มตามมาตรา 113 แห่งประมวลรัษฎากร หากบริษัทฯ ได้ยื่นตราสารนั้นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อขอเสียอากรแสตมป์ภายใน 15 วัน นับแต่วันต้องปิดแสตมป์บริบูรณ์ พนักงานเจ้าหน้าที่อากรแสตมป์ 
    คำกล่าวอ้างของเจ้าพนักงานสรรพากรจึงไม่ถูกต้อง



ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ 

คลิ๊กที่นี่ เพื่อติดตาม FB เพจ "อาจารย์ สุเทพ พงษ์พิทักษ์"

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การท่องเว็บที่ดีขึ้น ข้อตกลงและนโยบายความเป็นส่วนตัว
ยอมรับ