Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

กรรมการบริษัทผู้มีอำนาจ เสียชีวิต และผู้ถือหุ้นที่เหลือไม่ต้องการดำเนินกิจการต่อ


เรื่อง กรรมการบริษัทผู้มีอำนาจ เสียชีวิต และผู้ถือหุ้นที่เหลือไม่ต้องการดำเนินกิจการต่อ
แหล่งที่มา Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์
วันที่ วันที่ถาม 07/11/2022 - วันที่ตอบ 04/12/2022
ประเภทภาษี ภาษีเงินได้นิติบุคคล
ข้อกฎหมาย ระเบียบสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ว่าด้วยการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัท พ.ศ. 2549
ปุจฉา

กรณีที่ บจก. มี 3 คน กรรมการผู้มีอำนาจเสียชีวิต ผู้ถือหุ้นอีก 2 คน ไม่ต้องการดำเนินงานต่อ (ไม่มีความรู้อะไรเลย ถือหุ้นคนละ 1 หุ้น) จะปล่อยให้ทิ้งร้างเลยได้หรือไม่คะ ทั้งในส่วนของกรมพัฒน์และกรมสรรพากร จะมีความผิดหรือต้องรับผิดชอบอะไรหรือเปล่าคะ และถ้ากรณีต้องทำให้ถูกต้องต้องทำอย่างไรคะ  

วิสัชนา
1. กรรมการผู้มีอำนาจ เสียชีวิต
    1.1 ให้ยื่นคำขอจดทะเบียนกรรมการออกจากตำแหน่ง หากกรรมการที่ตายเป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ให้จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมอำนาจกรรมการด้วย
    1.2 ตามระเบียบสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ว่าด้วยการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัท พ.ศ. 2549 ข้อ 76 ให้หลักการไว้ว่า "กรณีคำขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการ และหรืออำนาจกรรมการ ที่กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัททั้งหมดหรือ แต่บางส่วน ตามที่จดทะเบียนไว้เดิมได้พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากถึงแก่กรรม โดยกรรมการที่เหลืออยู่ไม่สามารถลงชื่อในคำขอจดทะเบียนได้ครบถ้วนตามอำนาจกรรมการที่จดทะเบียนไว้เดิมได้ และคำขอจดทะเบียนดังกล่าวได้ลงชื่อโดยกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นหรือมติคณะกรรมการแล้วแต่กรณี พร้อมทั้งให้ส่งสำเนาใบมรณะบัตรประกอบคำขอจดทะเบียนด้วย" กรณีนี้  บริษัทต้องจัดประชุมผู้ถือหุ้น กำหนดวาระการประชุมเพื่อพิจารณากรณีกรรมการผู้มีอำนาจเดิมที่เสียชีวิตลง และให้ที่ประชุมแต่งตั้งกรรมการคนใหม่ พร้อมทั้งกำหนดอำนาจกรรมการ จากนั้นจัดทำคำขอจดทะเบียน และให้กรรมการที่ได้รับแต่งตั้งใหม่ลงชื่อในคำขอ และที่สำคัญให้แนบใบมรณบัตรของกรรมการผู้เสียชีวิตด้วยครับ รอให้เจ้าหน้าที่จากสำนักทะเบียนธุรกิจมาให้ข้อมูลเพิ่มอีกครั้งนะครับ
    1.3 ถ้าบริษัทจำกัดนี้ มีกรรมการเพียงคนเดียว และเสียชีวิตลง บริษัทจำกัดนี้จะไม่มีผู้แทนเหลืออยู่เลย บริษัทจำกัด จึงไม่อาจดำเนินการจัดประชุมผู้ถือหุ้นขึ้นได้ และจะอาศัย ป.พ.พ.มาตรา 1173 โดยให้ผู้ถือหุ้น 1 ใน 5 แห่งจำนวนหุ้นของบริษัท เรียกให้กรรมการ จัดประชุมผู้ถือหุ้น น่าจะไม่ได้เช่นกัน เพราะบริษัทจำกัดนี้ไม่มีกรรมการเหลืออยู่แล้ว **สิทธิของผู้ถือหุ้น 1 ใน 5 แห่งจำนวนหุ้นบริษัท จะใช้สิทธิตามหลักกฎหมายมาตรานี้ได้เฉพาะบริษัทจำกัดนั้นมีกรรมการอยู่เท่านั้น 
         เมื่อไม่มีหลักกฎหมายหุ้นส่วนบริษัท ว่าไว้โดยเฉพาะเมื่อเกิดกรณีปัญหานี้บริษัทจำกัดจะต้องดำเนินการตามกฎหมายหลักทั่วไป ตาม ป.พ.พ. มาตรา 73 โดยให้ผู้ถือหุ้นในฐานะผู้มีส่วนได้เสีย ร้องขอต่อศาลให้ศาลแต่งตั้งผู้แทนชั่วคราว เพื่อมาดำเนินการในฐานะของผู้แทนตามกฎหมายต่อไป

2. การเป็นบริษัทร้าง 
    2.1 บริษัทร้าง คือ 
         (1) บริษัทที่จัดตั้งขึ้นมาแล้ว แต่ไม่ได้ประกอบการติดต่อกันหลายปี 
         (2) บริษัทที่ไม่ได้ยื่นงบการเงินประจำปีต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ติดต่อกันเกิน 3 ปี
         (3) บริษัทที่จดทะเบียนเลิกแล้ว แต่ไม่ยื่นรายงานการชำระบัญชีและจดทะเบียนเสร็จสิ้นการชำระบัญชีต่อนายทะเบียนภายใน 3 ปี นับแต่วันรับจดทะเบียนเลิก
    2.2 โดยนายทะเบียนมีอำนาจดำเนินการถอนทะเบียนห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่เข้าข่ายตามข้อสันนิษฐานข้างต้น โดยอาศัยอำนาจตามความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ให้เป็น "บริษัทร้าง"
    2.3 ผลกระทบจากการเป็นบริษัทร้าง ดังนี้
         (1) ห้างหุ้นส่วน หรือบริษัทสิ้นสภาพนิติบุคคล
         (2) ความรับผิดของกรรมการผู้จัดการ ผู้ถือหุ้นทุกๆ คนยังคงมีอยู่ เสมือนว่าบริษัทยังไม่ได้เลิก  
         (3) เจ้าหนี้ (รวมถึงกรมสรรพากร) มีสิทธิเรียกร้องหนี้ได้อยู่ และสามารถยื่นคำร้องต่อศาลให้บริษัทนั้น กลับคืนเข้าสู่ทะเบียน
         (4) ไม่สามารถทำนิติกรรม รวมถึงไม่สามารถจำหน่ายทรัพย์สินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทร้าง หรือรับโอนผลประโยชน์ใดๆ ที่พึงมีได้
         (5) กรรมการผู้จัดการ ที่ละเลยกิจการ ขาดคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ 

ต่อข้อถาม ขอเรียนว่า 
    กรณีบริษัทจำกัด มีผู้ถือหุ้น 3 คน 1 ในผู้ถือหุ้นเป็นกรรมการผู้มีอำนาจได้เสียชีวิต ผู้ถือหุ้นอีก 2 คนถือหุ้นคนละ 1 หุ้น ไม่มีความรู้ใดๆ เกี่ยวกับบริษัทฯ และการดำเนินธุรกิจ เลยไม่ต้องการดำเนินงานต่อ นั้น 
1. กรณีต้องทำให้ถูกต้อง
    (1) ควรติดต่อทายาทของกรรมการ เพื่อรับมรดกหุ้นของกรรมการที่ถึงแก่กรรม 
         หุ้น เป็นทรัพย์สินชนิดหนึ่งของผู้ถือหุ้น เมื่อผู้ถือหุ้นตาย หุ้นนั้นจึงตกทอดแก่ทายาททันทีตามกฎหมายหรือพินัยกรรม
         ผู้จัดการมรดกของผู้ตาย ตามคำสั่งศาลหรือพินัยกรรม อาจเข้ามาถือหุ้นแทนผู้ตายได้ เพื่อจัดการทรัพย์มรดกของผู้ตายเพื่อแบ่งปันทรัพย์มรดกได้ ป.พ.พ.มาตรา 1719 (กองมรดกไม่มีสภาพบุคคล จึงไม่อาจเข้ามาถือหุ้นแทนผู้ตายได้)
    (2) สำรวจทรัพย์สินจากงบการเงิน และบัญชีทรัพย์สิน ว่ามีเหลือหรือไม่อย่างไร หากไม่มีทรัพย์สินใดๆ เหลือก็ยิ่งจัดการง่ายขึ้น โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ 
    (3) ควรหาทางติดต่อสำนักงานบัญชีที่รับจัดทำบัญชีให้แก่บริษัทฯ เพื่อขอความเห็น และให้คำแนะนำปรึกษาที่เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะงบแสดงฐานะการเงินของรอบระยะเวลาบัญชีปีสุดท้าย รวมทั้งสำเนาแบบแสดงรายการ 
    (4) หากมีทายาทของกรรมการ และต้องการดำเนินธุรกิจต่อไป ให้หาทางจัดการประชุมผู้ถือหุ้น 
    (5) กรณีไม่มีทายาท 
         (ก) ผู้ถือหุ้นที่เหลือยื่นคำร้องขอต่อศาลสั่งให้เลิกบริษัทจำกัดด้วยเหตุ มาตรา 1237 (4) จำนวนผู้ถือหุ้นลดน้อยลงจนเหลือไม่ถึงสามคน และ ในคำร้องควรขอให้ศาลตั้งผู้ชำระบัญชีไปพร้อมกันด้วย 
         (ข) จัดประชมผู้ถือห้น  - มีมติให้ถอดถอนกรรมการออกจากตําแหน่ง – แต่งตั้งกรรมการใหม่ – แก้ไขอำนาจกรรมการ
         (ค) จดทะเบียนเลิกบริษัท และ ชำระบัญชี

2. การปล่อยทิ้งให้เป็นบริษัทร้าง ก็ย่อมเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่ง ทั้งในส่วนของกรมพัฒน์และกรมสรรพากร จะมีความผิดหรือต้องรับผิดชอบตกอยู่ที่กรรมการ เมื่อกรรมการถึงแก่ความตายเสียแล้ว ก็ย่อมไม่มีผู้ใดต้องรับผิดแทนบริษัทอีก

เครดิต: ครูแอน แพลนภาษี



บัญชีภาษี กี่ปีก็ไม่เข้าใจ


19 กันยายน 2018

บริษัทร้าง น่ากลัวกว่าที่คิด
---
บริษัทร้าง คือ 
     1. ห้างหุ้นส่วนและบริษัทที่จัดตั้งขึ้นมาแล้ว แต่ไม่ได้ประกอบการติดต่อกันหลายปี
     2. ห้างหุ้นส่วนและบริษัทที่ไม่ได้ยื่นงบการเงินประจำปีต่อกรมพัฒน์ฯ ติดต่อกันเกิน 3 ปี
     3. ห้างหุ้นส่วนและบริษัทที่จดทะเบียนเลิกแล้ว แต่ไม่ยื่นรายงานการชำระบัญชีและจดทะเบียนเสร็จสิ้นการชำระบัญชีต่อนายทะเบียนภายใน 3 ปี นับแต่วันรับจดทะเบียนเลิก
โดยนายทะเบียนมีอำนาจดำเนินการถอนทะเบียนห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่เข้าข่ายตามข้อสันนิษฐานข้างต้น โดยอาศัยอำนาจตามความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ให้เป็น "บริษัทร้าง"
โดยผลกระทบจากการเป็นบริษัทมีมากมาย ดังนี้
     1. ห้างหุ้นส่วน หรือบริษัทสิ้นสภาพนิติบุคคล
     2. ความรับผิดของกรรมการผู้จัดการ หุ้นส่วนผู้จัดการ และผู้ถือหุ้นทุกๆ คนยังคงมีอยู่ เสมือนว่าห้างฯ และบริษัทยังไม่ได้เลิก (ใครที่ไปเป็นกรรมการ หรือถือหุ้นในบริษัทร้างต้องระวังให้ดี)
     3. เจ้าหนี้ (รวมถึงกรมสรรพากร) มีสิทธิเรียกร้องหนี้ได้อยู่ และสามารถยื่นคำร้องต่อศาลให้ห้างฯ หรือบริษัทนั้น กลับคืนเข้าสู่ทะเบียน
     4. ไม่สามารถทำนิติกรรม รวมถึงไม่สามารถจำหน่ายทรัพย์สินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทร้าง หรือรับโอนผลประโยชน์ใดๆ ที่พึงมีได้
     5. กรรมการผู้จัดการ หุ้นส่วนผู้จัดการที่ละเลยกิจการ ขาดคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ
โดยหากจะแก้ไขสถานะร้าง ต้องดำเนินการตามนี้
     1.จ้างทนายไปดำเนินการร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นายทะเบียนจดชื่อบริษัทกลับเข้าสู่ทะเบียน
     2. ศาลมีคำสั่งให้นายทะเบียนจดชื่อบริษัทกลับเข้าสู่ทะเบียน
     3. ผู้ร้องขอคัดสำเนาคำสั่งศาล(ที่เจ้าหน้าที่ศาลได้รับรองความถูกต้องแล้ว) และทำหนังสือแจ้งนายทะเบียน
     4. นายทะเบียนดำเนินการออกคำสั่งกลับคืนเข้าสู่ทะเบียน และแก้ไขข้อมูลรายการทะเบียนในหนังสือรับรอง พร้อมทั้งลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา
หลังจากกลับคืนเข้าสู่ทะเบียนแล้ว หากบริษัทหรือห้างฯไม่ได้ดำเนินการแล้ว ควรดำเนินการจดเลิกบริษัทและชำระบัญชีให้เรียบร้อย โดยมีขั้นตอนดังนี้
     1. ติดต่อผู้ทำบัญชีและผู้สอบบัญชี เพื่อจัดทำงบการเงินย้อนหลัง
     2. นำส่งงบการเงิน พร้อมทั้งเสียค่าปรับแก่กรมพัฒน์ฯ
     3. ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีย้อนหลังกับกรมสรรพากรให้เรียบร้อย
     4. แจ้งเลิกบริษัท และดำเนินการชำระบัญชีให้เสร็จสิ้นตามกำหนด
หากต้องการเช็คปีงบการเงินของตัวเองว่าได้ยื่นครบถ้วนหรือไม่ สามารถดูข้อมูลได้ที่ระบบคลังข้อมูลธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้เลยจ้า 
---
หากไม่อยากพลาดความรู้บัญชีภาษี หรือสาระดีๆ 
สามารถกดติดตามได้ที่เพจ บัญชีภาษี กี่ปีก็ไม่เข้าใจ ได้เลยค่ะ https://www.facebook.com/actaxweknow



ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ 

คลิ๊กที่นี่ เพื่อติดตาม FB เพจ "อาจารย์ สุเทพ พงษ์พิทักษ์"

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การท่องเว็บที่ดีขึ้น ข้อตกลงและนโยบายความเป็นส่วนตัว
ยอมรับ