Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

ขั้นตอนการเลิกกิจการห้างหุ้นส่วนจำกัด


เรื่อง ขั้นตอนการเลิกกิจการห้างหุ้นส่วนจำกัด
แหล่งที่มา Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์
วันที่ วันที่ถาม 18/06/2023 - วันที่ตอบ 25/06/2023
ประเภทภาษี ภาษีเงินได้นิติบุคคล
ข้อกฎหมาย -
ปุจฉา
สอบถามเกี่ยวกับการเลิกกิจการห้างหุ้นส่วนจำกัด ว่ามีขั้นตอนที่ต้องดำเนินการทางกฎหมายอย่างไรบ้างคะ และถ้าไม่ดำเนินการเลิกห้างหุ้นส่วนจำกัดตามที่กฎหมายกำหนด ไม่จัดทำงบการเงิน และไม่นำส่งงบการเงิน จะมีโทษทางกฎหมายอย่างไรบ้างคะ
ตอนนี้ห้างฯ ไม่มีการดำเนินกิจการใดๆ และหุ้นส่วน ไม่อยากจ่ายเงินค่าทำบัญชีและค่าสอบบัญชีค่ะ
วิสัชนา
ขั้นตอนการเลิกและการขอจดทะเบียนเลิกห้างหุ้นส่วน
    1. การเลิกห้างหุ้นส่วน แบ่งได้เป็น 3 กรณี คือ
        1.1 เลิกโดยผลของกฎหมาย
             (1) กรณีกำหนดเหตุเลิกไว้และเมื่อมีเหตุนั้นเกิดขึ้น
             (2) ตั้งห้างโดยกำหนดระยะเวลาไว้และเมื่อสิ้นสุดระยะเวลานั้น
             (3) ตั้งห้างเพื่อทำกิจการอย่างหนึ่งอย่างใด และเมื่อทำกิจการนั้นเสร็จแล้ว
             (4) หุ้นส่วนบอกเลิกเมื่อสิ้นรอบปีบัญชี และได้บอกเลิกก่อน 6 เดือน
             (5) หุ้นส่วนตาย ล้มละลาย หรือตกเป็นผู้ไร้ความสามารถ
             (6) ห้างหุ้นส่วนล้มละลาย
             (7) เมื่อวัตถุประสงค์ของห้างกลายเป็นผิดกฎหมาย
             หุ้นส่วนเหลือเพียงคนเดียว
        1.2 โดยความประสงค์ของผู้เป็นหุ้นส่วน
             (1) ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนตกลงให้เลิกห้าง
             (2) หุ้นส่วนฝ่าฝืนกฎหมายเรื่องค้าแข่งกับห้าง และหุ้นส่วนอื่นลงมติให้เลิก
        1.3 เลิกโดยคำสั่งศาล เหตุร้องศาลให้สั่งเลิกมี 3 กรณี คือ
             (1) หุ้นส่วนจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงฝ่าฝืนข้อสัญญาตั้งห้างที่มีนัยสำคัญ
             (2) กิจการห้างมีแต่ขาดทุน ไม่มีหวังฟื้นคืน
             (3) มีเหตุที่เหลือวิสัยที่ห้างจะดำรงอยู่ได้
             เมื่อห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลและห้างหุ้นส่วนจำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคลเลิกกัน ห้างนั้นจะยังคงตั้งอยู่เพื่อการชำระบัญชี การเลิกห้างกรณีอื่นนอกจากล้มละลายต้องมีการแต่งตั้งผู้ชำระบัญชี เพื่อดำเนินการจดทะเบียนเลิกห้างและชำระบัญชีของห้างให้เสร็จสิ้นไป เช่น การรวบรวมทรัพย์สิน ชำระหนี้ ชดใช้เงินทดรองและค่าใช้จ่ายที่หุ้นส่วนผู้จัดการได้ออกไปในการดำเนินกิจการค้าแทนห้าง หากมีทรัพย์สินเหลือให้คืนทุนและเฉลี่ยเป็นกำไรในระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วนและจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี เมื่อได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีแล้ว การฟ้องคดีเรียกหนี้สินที่ห้างหุ้นส่วน ผู้เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ชำระบัญชีเป็นหนี้อยู่นั้นจะต้องทำการฟ้องภายใน 2 ปีนับแต่วันเสร็จสิ้นการชำระบัญชี ผู้ชำระบัญชีของห้างหุ้นส่วน ได้แก่ หุ้นส่วนผู้จัดการตามที่จดทะเบียนไว้ก่อนเลิก หุ้นส่วนผู้จัดการทุกคนต้องเข้าเป็นผู้ชำระบัญชีโดยผลของกฎหมาย ถ้าผู้ชำระบัญชีมีหลายคนผู้ชำระบัญชีทุกคนต้องกระทำการร่วมกัน เว้นแต่ที่ประชุมใหญ่หรือศาลจะได้กำหนดอำนาจไว้เป็นอย่างอื่นในเวลาตั้งผู้ชำระบัญชี
    2. ยื่นขอจดทะเบียนเลิกห้างหุ้นส่วนต่อนายทะเบียน
    3. ประกาศโฆษณาในหนังสือพิมพ์แห่งท้องที่ 1 ครั้ง เป็นอย่างน้อย
    4. ส่งคำบอกกล่าวเป็นจดหมายลงทะเบียนไปรษณีย์ไปยังเจ้าหนี้ (ถ้ามี)
ขั้นตอนตาม 2. - 4. ผู้ชำระบัญชีต้องดำเนินการภายใน 14 วัน นับแต่วันที่เลิกห้างหุ้นส่วน

ข้อมูลที่ต้องใช้
    1. วันที่เลิกห้างหุ้นส่วน
    2. ชื่อ ที่อยู่ อาชีพ และอายุของผู้ชำระบัญชี
    3. อำนาจผู้ชำระบัญชี
    4. ที่ตั้งสำนักงานของผู้ชำระบัญชี
แบบพิมพ์จดทะเบียนสามารถ Download ที่เว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือคลิกที่นี่

เอกสารหลักฐานที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนเลิก
    1. แบบคำขอจดทะเบียนเลิก (แบบ ลช.1)
    2. รายการจดทะเบียนเลิก (แบบ ลช.2) *ผู้ชำระบัญชีต้องลงลายมือชื่อทุกคน*
    3. สำเนาคำสั่งศาลให้เลิกห้างหุ้นส่วน (ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้เลิก)
    4. สำเนาสัญญาของห้างหุ้นส่วนหรือข้อตกลงของผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนที่ตกลงหรือให้ความยินยอมในการตั้งผู้อื่นเป็นผู้ชำระบัญชีหรือตั้งหุ้นส่วนผู้จัดการคนเดียวหรือหุ้นส่วนผู้จัดการบางคนเป็นผู้ชำระบัญชี และกำหนดอำนาจผู้ชำระบัญชี (ใช้เฉพาะกรณีที่ผู้ชำระบัญชีมิใช่หุ้นส่วนผู้จัดการทุกคนตามที่จดทะเบียนไว้ก่อนเลิก)
    5. สำเนาใบมรณบัตร (ใช้เฉพาะกรณีหุ้นส่วนผู้จัดการถึงแก่กรรม)
    6. แผนที่แสดงที่ตั้งสำนักงานของผู้ชำระบัญชีและสถานที่สำคัญบริเวณใกล้เคียงโดยสังเขป(ใช้เฉพาะกรณีสำนักงานของผู้ชำระบัญชีมิใช่ที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ตามที่จดทะเบียนไว้ก่อนเลิก)
    7. สำเนาบัตรประจำตัวของผู้ชำระบัญชีที่ลงลายมือชื่อในคำขอจดทะเบียน
        *ดูหลักเกณฑ์เรื่องบัตรประจำตัว*
    8. สำเนาหลักฐานการเป็นผู้รับรองลายมือชื่อ (ถ้ามี) *ดูหลักเกณฑ์การลงลายมือชื่อผู้ขอจดทะเบียน*
    9. หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี)
    สำเนาเอกสารประกอบคำขอจดทะเบียนทุกฉบับ ต้องให้ผู้ขอจดทะเบียนอย่างน้อยหนึ่งคนรับรองความถูกต้อง ยกเว้นสำเนาบัตรประจำตัวหรือหลักฐานการเป็นผู้รับรองลายมือชื่อผู้ขอจดทะเบียน ให้ผู้เป็นเจ้าของบัตรหรือผู้ขอจดทะเบียนอย่างน้อยหนึ่งคนเป็นผู้ลงลายมือชื่อรับรองความถูกต้องการลงลายมือชื่อในคำขอจดทะเบียนเลิก (แบบ ลช.1) ให้ลงลายมือชื่อโดยผู้ชำระบัญชีซึ่งได้แก่หุ้นส่วนผู้จัดการที่ลงลายมือชื่อผูกพันห้างหุ้นส่วนตามที่จดทะเบียนไว้ก่อนเลิก เว้นแต่ที่ประชุมใหญ่หรือศาลจะได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น การลงลายมือชื่อและการกรอกข้อมูลของผู้ชำระบัญชีในรายการจดทะเบียนเลิก (แบบ ลช.2) ให้ระบุรายละเอียดของผู้ชำระบัญชีทุกคนพร้อมทั้งให้ลงลายมือชื่อ www.dbd.go.th สายด่วน 1570

อัตราค่าธรรมเนียม
    1. การจดทะเบียนเลิกห้างหุ้นส่วน 500 บาท
    2. หนังสือรับรอง รายการละ 40 บาท
    3. รับรองสำเนาเอกสารคำขอจดทะเบียน หน้าละ 50 บาท

สถานที่จดทะเบียน
ยื่นคำขอจดทะเบียน ณ หน่วยงานในสังกัดของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและสำนักงานพาณิชย์
จังหวัดทั่วประเทศ ตามที่สำนักงานแห่งใหญ่ของห้างหุ้นส่วนก่อนเลิกตั้งอยู่ ดังนี้
    1. ห้างหุ้นส่วนที่มีสำนักงานแห่งใหญ่ ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร ให้ยื่นขอจดทะเบียนที่กรม
พัฒนาธุรกิจการค้า (สนามบินน้ำ) สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้า เขต 1-6 (ปิ่นเกล้า พหลโยธิน รัชดาภิเษก สี่พระยา ศรีนครินทร์ (ศูนย์การค้าธัญญาพาร์ค) และแจ้งวัฒนะ (ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา)) 
    2. ห้างหุ้นส่วนที่มีสำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดอื่น ให้ยื่นขอจดทะเบียนที่สำนักงาน
พาณิชย์จังหวัด ในจังหวัดที่ห้างหุ้นส่วนนั้นมีสำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่
       นอกจากนี้สามารถ ยื่นจดทะเบียนทางระบบจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration) ที่เว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค
ถ้าไม่ดำเนินการเลิกห้างหุ้นส่วนจำกัดตามที่กฎหมายกำหนด ไม่จัดทำงบการเงิน และไม่นำส่งงบการเงิน จะมีโทษทางกฎหมายอย่างไรบ้างคะ

สุเทพ พงษ์พิทักษ์ วิสัชนา
1. ผู้ทำบัญชี
    การดำเนินการ บริษัทจะต้องจัดให้มีผู้ทำต่อบัญชีที่มีคุณสมบัติและเงื่อนไขของการเป็นผู้ทำบัญชีตามที่อธิบดีประกาศกำหนด ควบคุมดูแล ผู้ทำบัญชี ให้จัดทำบัญชีให้ถูกต้องตามกฎหมายและตรงต่อความเป็นจริง หากไม่ปฏิบัติตาม
    บทลงโทษ : ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
2. การพัฒนาความรู้ต่อเนื่องทางวิชาชีพบัญชี
    การดำเนินการ ผู้ทำบัญชีที่ขึ้นทะเบียนแล้วจะต้องเข้ารับการอบรมพัฒนาความรู้ต่อเนื่องภายใน 1 ปี ต้องอบรมทั้งสิ้น 12 ชม. โดยจะแบ่งเป็นวิชาบัญชี 6 ชั่วโมง ส่วนที่เหลือจะเป็นชั่วโมงอื่นๆ หรือชั่วโมงบัญชีก็ได้ หากไม่ปฏิบัติตาม
    บทลงโทษ : ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
3. การต่ออายุหรือสมัครสมาชิกกับสภาวิชาชีพบัญชี
    การดำเนินการ ผู้ทำบัญชีที่ขึ้นทะเบียนแล้ว ต้องสมัครเป็นสมาชิกกับสภาวิชาชีพบัญชีด้วย ตาม พ.ร.บ.วิชาชีพบัญชี 2547 โดยจะต้องต่ออายุสมาชิกภาพทุกๆ ปี เพื่อรักษาสิทธิการเป็นผู้ทำบัญชี หากไม่ปฏิบัติตาม
    บทลงโทษ : สิ้นสภาพการเป็นผู้ทำบัญชี
4. การทำบัญชี
    การดำเนินการ จะต้องจัดให้มีการทำบัญชีและการทำบัญชีจะต้องครบถ้วนถูกต้อง ตามที่อธิบดีประกาศกำหนดเกี่ยวกับชนิดของบัญชีที่ต้องจัดทำ ข้อความและรายการที่มีต้องมีในการลงบัญชี ระยะเวลาที่ต้องมีในบัญชี เอกสารที่ต้องใช้ประกอบการลงบัญชี หากไม่ปฏิบัติตาม
    บทลงโทษ :
    โทษปรับไม่เกินสามหมื่นบาทและปรับเป็นรายวันอีกไม่เกินวันละหนึ่งพันบาท จนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง
    ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
5. เอกสารที่ต้องใช้ประกอบการลงบัญชี
    การดำเนินการ
    จัดให้มีเอกสารประกอบการลงบัญชี ได้แก่ บันทึก หนังสือหรือเอกสารใดๆ ที่ใช้เป็นหลักฐานในการลงรายการบัญชี
    ส่งมอบเอกสารที่ต้องใช้ประกอบการลงบัญชี เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบส่งของ ใบสำคัญจ่าย ฯลฯ ให้ครบถ้วน เพื่อให้บัญชีที่จัดทำขึ้นสามารถแสดงผลการดำเนินงาน ฐานะการเงินตามความเป็นจริงและตามมาตรฐานการบัญชี
    บทลงโทษ :
    มีโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทและปรับเป็นรายวันอีกไม่เกินวันละห้าร้อยบาท จนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง
    ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
6. ปิดบัญชีและจัดทำงบการเงิน
    การดำเนินการ
    ปิดบัญชีครั้งแรกภายใน 12 เดือน นับแต่วันที่เริ่มต้นบัญชีและปิดบัญชีทุกรอบ 12 เดือน นับแต่วันปิดบัญชีครั้งก่อน
    จัดทำงบการเงินโดยมีรายการย่อตามที่อธิบดีกำหนด
    จัดทำงบการเงินโดยตรวจสอบและได้รับความเห็นโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
    บทลงโทษ :
    มีโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
    ปรับไม่เกินห้าพันบาท
    ปรับไม่เกินสองเหมื่นบาท
7. ยื่นงบการเงิน
    การดำเนินการ
    ยื่นงบการเงินต่อสำนักงานกลางบัญชีหรือสำนักงานบัญชีประจำท้องที่ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่อธิบดีประกาศกำหนด และภายในระยะเวลาที่กำหนด
    ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ยื่นงบการเกินภายใน 5 เดือนนับแต่ปิดบัญชี
    นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศ
    กิจการร่วมค้าตามประมวลรัษฎากร
    บริษัทจำกัด>
    บริษัทมหาชน ต้องยื่นงบการเงินภายใน 1 เดือน นับแต่วันที่งบการเงินนั้นได้รับอนุมัติในที่ประชุมใหญ่ 
    บทลงโทษ : มีโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท
8. เก็บรักษาบัญชีและเอกสารที่ต้องใช้ประกอบการลงบัญชี
    เก็บรักษาบัญชีและเอกสารที่ต้องใช้ประกอบการลงบัญชีไว้ ณ สถานที่ทำการ หรือสถานที่ที่ใช้เป็นที่ทำการผลิตหรือเก็บสินค้าเป็นประจำ
    เก็บรักษาบัญชีและเอกสารที่ต้องใช้ประกอบการลงบัญชีไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปี นับแต่วันปิดบัญชี
นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศ บุคคลธรรมดาตามประเภทที่กำหนดให้ทำบัญชี เมื่อเลิกประกอบธุรกิจต้องส่งมอบบัญชีและเอกสารที่ต้องใช้ประกอบการลงบัญชีภายใน 90 วัน นับแต่วันเลิกประกอบธุรกิจ
    บทลงโทษ : ปรับไม่เกินห้าพันบาท

ที่มา: 




ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆมาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ 

คลิ๊กที่นี่ เพื่อติดตาม FB เพจ "อาจารย์ สุเทพ พงษ์พิทักษ์"

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การท่องเว็บที่ดีขึ้น ข้อตกลงและนโยบายความเป็นส่วนตัว
ยอมรับ