Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

การออกใบกำกับภาษีสำหรับบุคคลธรรมดามีรายได้ค่าสิทธิจำหน่ายภาพดิจิทัลออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ต่างประเทศ
เรื่อง | การออกใบกำกับภาษีสำหรับบุคคลธรรมดามีรายได้ค่าสิทธิจำหน่ายภาพดิจิทัลออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ต่างประเทศ |
แหล่งที่มา | Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ |
วันที่ | วันที่ถาม 23/03/2024 - วันที่ตอบ 14/04/2024 |
ประเภทภาษี | ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา,ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย,ภาษีมูลค่าเพิ่ม |
ข้อกฎหมาย | มาตรา 40 (3), มาตรา 80/1 (2), มาตรา 85/1 แห่งประมวลรัษฎากร |
ปุจฉา | ขอคำแนะนำเกี่ยวกับการออกใบกำกับภาษีสำหรับบุคคลธรรมดากรณี ดังนี้ค่ะ 1. บุคคลธรรมดามีรายได้ค่าสิทธิจากแหล่งเงินได้ต่างประเทศ รวมรายได้ตลอดปีแล้วเกิน 1.8 ล้านบาท 2. บริษัทผู้จ่ายเงินได้เป็นนิติบุคคลต่างประเทศที่ไม่ได้จดทะเบียนในประเทศไทย และไม่ได้จด VAT ในไทย คำถาม: บุคคลธรรมดาที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ต้องออกใบกำกับภาษีจากรายได้ค่าสิทธิดังกล่าวหรือไม่ หรือออกเฉพาะใบเสร็จรับเงินได้หรือไม่ 3. ค่าสิทธิ ดังกล่าวคือรายได้จากการจำหน่ายภาพดิจิทัลออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ต่างประเทศและเป็นประเทศที่มีอนุสัญญาภาษีซ้อนกับประเทศไทย เป็นเงินได้ตามมาตรา 40 (3) คำถาม: รายได้ค่าสิทธิต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านต่อปี ข้อนี้เข้าใจถูกต้องแล้วใช่ไหมคะ 4. บริษัทผู้จ่ายเงินได้ทำการหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามอัตราภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่ได้กำหนดไว้ในอนุสัญญาภาษีซ้อน จากนั้นจะโอนรายได้ผ่านผู้ให้บริการรับโอนเงินระหว่างประเทศ เช่น PayPal, Payoneer ด้วยสกุลเงิน USD ต่อเมื่อบุคคลธรรมดาผู้ขายภาพต้องการเบิกเงินสกุล USD เข้าบัญชีธนาคารในไทย ณ วันที่เบิกเงินจะได้รับเป็นเงินบาท *(คำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 161/2566 ลงวันที่ 15 กันยายน 2566 ที่กำหนดให้ผู้มีเงินได้บุคคลธรรมดาที่มีเงินได้ในต่างประเทศ ไม่ว่าจากการทำงานหรือทรัพย์สินที่อยู่ต่างประเทศ หากมีการนำเงินได้ดังกล่าวเข้ามาในประเทศไทยในปีภาษีใดก็จะต้องนำมารวมคำนวณภาษีเงินได้ในปีที่นำเข้า โดยจะเริ่มมีผลใช้บังคับตั้งแต่ 1 มกราคม 2567) * ดังนั้น เงินได้ที่บุคคลธรรมดาผู้ขายภาพนำไปยื่นแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คือ จำนวนเงินที่ได้เบิกเข้าบัญชีธนาคารในไทย ในแต่ละปีภาษีนั้น คำถาม: กรณีที่บุคคลธรรมดาเป็นผู้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว การรับรู้รายได้จะต้องรับรู้รายได้จาก "วันที่รายได้เกิดขึ้นจริง" หรือ "วันที่เบิกเงินได้เข้าบัญชีธนาคารในไทย" เช่น ลูกค้าได้ทำการดาวน์โหลดภาพและมีรายได้เกิดขึ้น ณ วันที่ดาวน์โหลด แต่จะยังไม่ได้รับเงิน จนถึงสิ้นเดือนเว็บไซต์จะรวบรวมรายได้ตลอดเดือน และโอนเงินรวมเข้าบัญชี PayPal, Payoneer เป็นประจำทุกเดือน) |
วิสัชนา | เกี่ยวกับการออกใบกำกับภาษีสำหรับบุคคลธรรมดากรณีดังนี้ค่ะ 1. กรณีบุคคลธรรมดามีรายได้ค่าสิทธิ (ขายภาพ) จากแหล่งเงินได้ต่างประเทศ รวมรายได้ตลอดปีแล้วเกิน 1.8 ล้านบาท เข้าลักษณะเป็นรายได้จากการให้บริการในราชอาณาจักร และได้มีการใช้บริการนั้นในต่างประเทศ บุคคลธรรมดาผู้ขายภาพต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรา 0% ตามมาตรา 80/1 (2) แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้น เมื่อผู้ประกอบการบุคคลธรรมดา มีรายได้จากการให้บริการดังกล่าวเกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี จึงมีหน้าที่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 85/1 แห่งประมวลรัษฎากร 2. กรณีผู้ประกอบการจดทะเบียนที่เป็นบุคคลธรรมดา ขายภาพให้แก่บริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ ที่ไม่ได้ประกอบการในประเทศไทย เช่นนี้ ผู้ประกอบการจดทะเบียนดังกล่าว ไม่ต้องออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับรายได้ค่าสิทธิดังกล่าว แต่ให้ออกอินวอยส์ที่พึงต้องออกออกเป็นปกติตามประเพณีทางการค้าระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 21) เรื่อง กำหนดรายการในใบกำกับภาษีของสินค้าหรือบริการบางกรณี ตามมาตรา 86/5 (1) และ (2) แห่งประมวลรัษฎากร วันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2534 ดังต่อไปนี้ “ข้อ 1 กำหนดให้ใบกำกับภาษีของการขายสินค้าหรือให้บริการโดยการส่งออกตามมาตรา 86/5 (1) แห่งประมวลรัษฎากร มีรายการเช่นเดียวกันกับใบกำกับสินค้าซึ่งผู้ส่งออกได้ออกเป็นปกติตามประเพณีทางการค้าระหว่างประเทศ” 3. เงินได้จากการจำหน่ายภาพดิจิทัลออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ต่างประเทศและเป็นประเทศที่มีอนุสัญญาภาษีซ้อนกับประเทศไทย เป็นเงินได้ค่าสิทธิ ตามมาตรา 40 (3) แห่งประมวลรัษฎากร เงินได้ค่าสิทธิดังกล่าว เข้าลักษณะเป็นรายได้จากการให้บริการในราชอาณาจักร และได้มีการใช้บริการนั้นในต่างประเทศ ที่ผู้ประกอบการมีหน้าที่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านต่อปี ข้อนี้เข้าใจถูกต้องแล้วครับ 4. บริษัทผู้จ่ายเงินได้ทำการหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามอัตราภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่ได้กำหนดไว้ในอนุสัญญาภาษีซ้อน จากนั้นจะโอนรายได้ผ่านผู้ให้บริการรับโอนเงินระหว่างประเทศ เช่น PayPal, Payoneer ด้วยสกุลเงิน USD ต่อเมื่อบุคคลธรรมดาผู้ขายภาพต้องการเบิกเงินสกุล USD เข้าบัญชีธนาคารในไทย ณ วันที่เบิกเงินจะได้รับเป็นเงินบาท กรณีดังกล่าว เข้าลักษณะเป็นผู้มีเงินได้เนื่องจากทรัพย์สินในประเทศไทย ไม่ใช่กรณีมีเงินได้จากแหล่งเงินได้ในต่างประเทศ ตามมาตรา 41 วรรคสอง และวรรคสาม แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 161/2566 ฯ ลงวันที่ 15 กันยายน 2566 ที่กำหนดให้ผู้มีเงินได้บุคคลธรรมดาที่มีเงินได้ในต่างประเทศ ไม่ว่าจากการทำงานหรือทรัพย์สินที่อยู่ต่างประเทศ หากมีการนำเงินได้ดังกล่าวเข้ามาในประเทศไทยในปีภาษีใดก็จะต้องนำมารวมคำนวณภาษีเงินได้ในปีที่นำเข้า โดยจะเริ่มมีผลใช้บังคับตั้งแต่ 1 มกราคม 2567 แต่อย่างใด ดังนั้น เงินได้ที่บุคคลธรรมดาผู้ขายภาพนำไปยื่นแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คือ จำนวนเงินที่ได้เบิกเข้าบัญชีธนาคารในไทย ก่อนหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ในแต่ละปีภาษีนั้น ไม่ว่าจะได้นำเข้ามาในประเทศไทยหรือไม่ กรณีที่บุคคลธรรมดาเป็นผู้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว การรับรู้รายได้จะต้องรับรู้รายได้จาก "วันที่เบิกเงินได้เข้าบัญชีธนาคารในไทย" ซึ่งเว็บไซต์รวบรวมรายได้ตลอดเดือน และโอนเงินรวมเข้าบัญชี PayPal, Payoneer เป็นประจำทุกเดือน ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ |