Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

การออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย 50ทวิ รวมยอดเดือนละ 1 ครั้ง
| เรื่อง | การออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย 50ทวิ รวมยอดเดือนละ 1 ครั้ง |
| แหล่งที่มา | Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ |
| วันที่ | วันที่ถาม 06/02/2023 - วันที่ตอบ 06/04/2023 |
| ประเภทภาษี | ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย |
| ข้อกฎหมาย | มาตรา 50 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร, ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 62) |
| ปุจฉา | เรื่อง การออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย กรณีจ่ายเงินได้ให้แก่นิติบุคคลเดียวประมาณ 15 - 20 ครั้งใน 1 เดือน ทางบริษัทฯ สามารถรวมรวมข้อมูลการโอนตัดบัญชีแต่ละครั้ง และออกหนังสือรับรองฯ (50 ทวิ) รวมยอดการจ่ายในเดือนนั้น ๆ และออกเอกสารรวม 1 ใบ ณ วันที่สิ้นเดือน (ที่พวกเราคิดกัน น่าจะทำได้) แต่เกรงว่าจะมีข้อกำหนดกฎหมายที่ทำให้เข้าใจผิด ขอความกรุณาแนะนำด้วยค่ะ |
| วิสัชนา | 1. การออกหนังสือรับรองการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 50 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร นั้น โดยทั่วไป ให้ใช้บังคับกับเฉพาะผู้มีเงินได้ที่เป็นบุคคลธรรมดาเท่านั้น โดยมีหลักเกณฑ์ ดังนี้ “มาตรา 50 ทวิ ให้ผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย ออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายที่ได้หักไว้แล้วในปีภาษีให้แก่ผู้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายสองฉบับ มีข้อความตรงกันในกรณีและตามกำหนดเวลาดังต่อไปนี้ (1) ในกรณีตามมาตรา 3 เตรส ให้ออกในทันทีทุกครั้งที่มีการหักภาษี ณ ที่จ่าย (2) ในกรณีตามมาตรา 50 (1) ให้ออกภายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ของปีถัดจากปีภาษี หรือภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ผู้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายออกจากงานในระหว่างปีภาษี (3) ในกรณีตามมาตรา 50 (2) (3) หรือ (4) ให้ออกในทันทีทุกครั้งที่มีการหักภาษี ณ ที่จ่าย หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายให้ใช้ตามแบบที่อธิบดีกำหนด อธิบดีมีอำนาจยกเว้นการออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายได้ในกรณีที่เห็นสมควร” 2. อธิบดีกรมสรรพากรอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 50 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ออกประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 62) ลงวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2539 กำหนดแบบหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ดังนี้ “ข้อ 2 หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ที่ผู้จ่ายมีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย ต้องออกให้แก่ผู้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย สองฉบับมีข้อความตรงกันนั้น อย่างน้อยต้องมีข้อความตามแบบท้ายประกาศนี้ หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามวรรคหนึ่งต้องมีข้อความด้านบนแต่ละฉบับดังนี้ (1) ฉบับที่ 1 มีข้อความว่า สำหรับผู้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ใช้แนบพร้อมกับแบบแสดงรายการ (2) ฉบับที่ 2 มีข้อความว่า สำหรับผู้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย เก็บไว้เป็นหลักฐาน ผู้มีหน้าที่ออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ต้องจัดทำสำเนาคู่ฉบับไว้เพื่อใช้เป็นหลักฐานสำหรับออกใบแทนในกรณีที่หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ที่ออกให้แก่ผู้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายแล้วแต่ชำรุด สูญหาย โดยการออกใบแทนให้ใช้วิธีถ่ายเอกสารหรือพิมพ์เอกสารจากเครื่องคอมพิวเตอร์ในกรณีจัดทำหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายด้วยระบบคอมพิวเตอร์ และมีข้อความว่า “ใบแทน” ไว้ที่ด้านบนของเอกสารซึ่งผู้มีหน้าที่ออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ต้องลงลายมือชื่อรับรองด้วย หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย จะต้องมีหมายเลขลำดับของหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และหมายเลขลำดับของเล่ม เว้นแต่ในกรณีที่ไม่ได้จัดทำหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายเป็นเล่ม จะไม่มีหมายเลขลำดับของเล่มก็ได้ การลงชื่อของผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย ในหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย จะใช้วิธีประทับลายมือชื่อผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่ายด้วยตรายาง หรือจะพิมพ์ลายมือชื่อผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่ายโดยเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ได้มีการเก็บลายมือชื่อไว้ (SCAN) ก็ได้ รายการของหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายตามวรรคหนึ่ง สำหรับรายการประเภทเงินได้พึงประเมินที่จ่าย ผู้มีหน้าที่ออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย จะระบุเฉพาะประเภทเงินได้พึงประเมินที่จ่ายซึ่งได้หักภาษี ณ ที่จ่าย โดยจะไม่ระบุประเภทเงินได้พึงประเมินอื่นก็ได้ ผู้มีหน้าที่ออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ซึ่งได้มีการหักภาษี ณ ที่จ่าย สำหรับการจ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) แห่งประมวลรัษฎากร และได้มีการหักเงินได้ดังกล่าวเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนประกันสังคมตามกฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ และกองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน จะระบุจำนวนเงินที่ได้หักจากเงินได้ของผู้มีเงินได้เข้ากองทุนดังกล่าวในแต่ละปีภาษีในหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายตามวรรคหนึ่งก็ได้ ข้อ 3 หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายตามข้อ 2 ต้องทำเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ แต่ถ้าทำเป็นภาษาต่างประเทศอื่น ต้องมีคำแปลภาษาไทยกำกับ ส่วนตัวเลขให้ใช้เลขไทยหรืออารบิค ข้อ 4 ผู้ใดประสงค์จะทำหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายเป็นอย่างอื่น นอกจากที่กล่าวในข้อ 2 และข้อ 3 ต้องยื่นคำขออนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากรก่อน และเมื่อได้รับอนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากรแล้ว ให้ปฏิบัติตามนั้นได้” (ดู แบบหนังสือรับรองฯ 3. กรณีภาษีเงินได้นิติบุคคล ไม่มีข้อกำหนดเกี่ยวกับการออกหนังสือรับรองการหักภาษ๊เงินได้ ณ ที่จ่าย ดังเช่นบทบัญญัติตามมาตรา 50 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร แต่มีหน้าที่ต้องออกใบรับตามมาตรา 105 และมาตรา 105 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร แต่ในทางปฏิบัติมักนิยมนำแบบหนังสือรับรองการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 50 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร มาประยุกต์ใช้โดยอนุโลม ซึ่งกรมสรรพากรก็ไม่เคยทักท้วง จนกลายเป็นประเพณีปฏิบัติทางภาษีอากร โดยเฉพาะการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย โดยถือเป็นหน้าที่ของผู้จ่ายเงินได้ที่ต้องปฏิบัติ แต่ไม่มีบทลงโทษตามมาตรา 35 แห่งประมวลรัษฎากร ดังเช่นกรณีภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ต่อข้อถาม ขอเรียนว่า กรณีจ่ายเงินได้ให้แก่นิติบุคคลเดียว ประมาณ 15 - 20 ครั้งใน 1 เดือน นั้น โดยส่วนตัวบริษัทฯ ไม่สามารถรวมรวมข้อมูลการโอนตัดบัญชีแต่ละครั้ง และออกหนังสือรับรองฯ (50 ทวิ) รวมยอดการจ่ายในเดือนนั้น ๆ และออกเอกสารรวม 1 ใบ ณ วันที่สิ้นเดือนได้ เพราะตามมาตรา 105 แห่งประมวลรัษฎากร ก็ดี หรือตามมาตรา 50 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ก็ดี กำหนดให้ ให้ออกในทันทีทุกครั้งที่มีการหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 3 เตรส แห่งประมวลรัษฎากร อย่างไรก็ตาม เป็นอำนาจอธิบดีกรมสรรพากรที่จะอนุมัติให้บริษัทฯ ออกหนังสือรับรองการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามที่บริษัทฯ ต้องการได้ จึงควรทำหนังสือขออนุมัติต่ออธิบดีดกรมสรรพากรต่อไป ครับ ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆมาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ |