Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

กิจการเยี่ยงโรงรับจำนำ


เรื่อง กิจการเยี่ยงโรงรับจำนำ
แหล่งที่มา Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์
วันที่ วันที่ถาม 01/09/2023 - วันที่ตอบ 06/10/2023
ประเภทภาษี ภาษีเงินได้นิติบุคคล,ภาษีมูลค่าเพิ่ม
ข้อกฎหมาย มาตรา 40 (4)(ก), มาตรา 91/12 แห่งประมวลรัษฎากร
ปุจฉา
เรียนถามอาจารย์ค่ะ จะเปิดกิจการเยี่ยงโรงรับจำนำ คือ ทุนไม่พอที่จะเปิดโรงรับจำนำ เพราะโรงรับจำนำตามระเบียบของกรมการปกครองจะต้องมีสำเนาบัญชีเงินฝากธนาคาร หรือสถาบันการเงินที่มีการรับรองสำเนาถูกต้อง รับรองว่ามีเงินสดเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ไม่น้อยกว่า 15 ล้านบาท ก็เลยเป็นเป็นกิจการค้าของเก่าประเภทเพชร พลอย และรับจำนำทองเก่า โดยคิดดอกเบี้ย เยี่ยงโรงรับจำนำ 
คำถามคือ
    1. ดอกเบี้ยที่ได้รับจะต้องยื่น ภ.ธ.40 หรือไม่
    2. เปิดกิจการในนามบุคคลธรรมดาจะต้องไปจด ภ.ธ.40 ต่อกรมสรรพากรหรือไม่
    3. กิจการแบบนี้ต้องจดภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่คะ
วิสัชนา
กรณีผู้ประกอบกิจการที่เป็นบุคคลธรรมดา ไม่มีทุนเพียงพอที่จะเปิดดำเนินกิจการโรงรับจำนำได้ ย่อมไม่สามารถประกอบกิจการโรงรับจำนำได้ กรณีจึงต้องเป็นเลือกประกอบกิจการดังนี้ 
1. ประกอบกิจการให้กู้ยืมเงิน โดยคิดดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืม และจัดให้มีการค้ำประกันด้วยทองคำ หรือทองรูปพรรณ ในกรณีนี้ ผู้ประกอบกิจการย่อมเป็นผู้ประกอบกิจการเยื่ยงธนาคารพาณิชย์ 
     (1) ในกรณีที่ประกอบกิจการเป็นประจำ ย่อมมีหน้าที่ต้องจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา 91/12 แห่งประมวลรัษฎากร 
     (2) ผู้ประกอบกิจการมีหน้าที่ต้องยื่นแบบ ภ.ธ.40 ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป ตามมาตรา 91/10 แห่งประมวลรัษฎากร ไม่ว่าจะมีรายรับดอกเบี้ยเงินกู้ยืมในเดือนภาษีนั้น หรือไม่ก็ตาม 
     (3) ดอกเบี้ยที่ได้รับเข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (4)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร ผู้มีเงินได้มีหน้าที่ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 ภายในเดือนมีนาคมของปีถัดจากปีที่ได้รับเงินได้ 

2. ประกอบการรับซื้อฝากทองคำ เพชรพลอย  
     ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
     “มาตรา 491 อันว่าขายฝากนั้น คือสัญญาซื้อขายซึ่งกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินตกไปยังผู้ซื้อ โดยมี
ข้อตกลงกันว่าผู้ขายอาจไถ่ทรัพย์นั้นคืนได้
      มาตรา 494 ท่านห้ามมิให้ใช้สิทธิไถ่ทรัพย์สินซึ่งขายฝากเมื่อพ้น เวลาดั่งจะกล่าวต่อไปนี้
          (1) ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ กำหนดสิบปีนับแต่เวลาซื้อขาย
          (2) ถ้าเป็นสังหาริมทรัพย์ กำหนดสามปีนับแต่เวลาซื้อขาย
      มาตรา 497 สิทธิในการไถ่ทรัพย์สินนั้น จะพึงใช้ได้แต่บุคคลเหล่านี้คือ
          (1) ผู้ขายเดิม หรือทายาทของผู้ขายเดิม หรือ
          (2) ผู้รับโอนสิทธินั้น หรือ
          (3) บุคคลซึ่งในสัญญายอมไว้โดยเฉพาะว่าให้เป็นผู้ไถ่ได้
      มาตรา 499 สินไถ่นั้น ถ้าไม่ได้กำหนดกันไว้ว่าเท่าใดไซร้ ท่านให้ไถ่ตามราคาที่ขายฝาก
          ถ้าปรากฏในเวลาไถ่ว่าสินไถ่หรือราคาขายฝากที่กำหนดไว้สูงกว่า ราคาขายฝากที่แท้จริง เกินอัตราร้อยละสิบห้าต่อปี ให้ไถ่ได้ตามราคาขาย ฝากที่แท้จริงรวมประโยชน์ตอบแทนร้อยละสิบห้าต่อปี” 
     (1) ลักษณะธุรกิจ 
         โดยทั่วไป กิจการการร้านทอง (ผู้รับซื้อฝาก) จะกำหนดราคารับซื้อฝากหรือที่เรียกว่า “สินไถ่” ตามข้อตกลงระหว่างคู่สัญญา ซึ่งส่วนใหญ่มี 2 วิธี คือ 
         วิธีที่ 1 กำหนดราคาตามคุณภาพทองที่รับซื้อ เช่น กรณีรับซื้อฝากทองรูปพรรณคำนวณจาก
         ราคาทองรูปพรรณที่สมาคมค้าทองคำประกาศประจำวัน (คิดตามน้ำหนัก) 
         หัก ค่าสูญเสีย (เช่น ตำหนิ น้ำหนักทองที่ขาด) 
         บวก ดอกเบี้ยรับที่คำนวณตามระยะเวลาที่กำหนดตามสัญญาขายฝาก
         วิธีที่ 2 กำหนดราคาตามราคาทองที่ผู้ขายฝากได้ตกลงกับผู้ซื้อฝาก (ซึ่งอาจต่ำกว่าราคา
ทองตามท้องตลาด กำหนดขึ้นเพื่อให้ผู้ขายฝากสามารถไถ่คืนได้โดยง่าย) 
         บวกด้วยดอกเบี้ยรับที่คำนวณตามระยะเวลาที่กำหนดตามสัญญาขายฝาก 
     (2) ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 
         การรับซื้อฝาก
         เมื่อรับซื้อฝากจะถือว่า กิจการร้านทองได้การซื้อสินค้าในราคาที่ได้ตกลงกันตามสัญญา กิจการร้านทองต้องรับรู้ทองที่รับซื้อเป็นสินค้าคงเหลือตามเกณฑ์สิทธิการไถ่คืน
         เมื่อผู้ขายฝากมาไถ่คืนจะถือเป็นกิจการร้านทองได้ขายสินค้า ต้องรับรู้การขายและรับรู้เป็นต้นทุนซื้อสินค้าในวันที่มีการขาย (ไถ่คืน) ตามเกณฑ์เงินสด 
     (3) ภาษีมูลค่าเพิ่ม 
         เมื่อผู้ขายฝากมาไถ่ถอนจะถือว่ากิจการร้านทองขายสินค้า หากกิจการร้านทองมีใบอนุญาตค้าของเก่าตามกฎหมายว่าด้วยการค้าของเก่าด้วย ย่อมได้สิทธิไม่ต้องนำค่าตอบแทนที่ได้รับหรือพึงได้รับจากการขายสินค้าทองรูปพรรณ มารวมคำนวณเป็นมูลค่าของฐานภาษี ตามมาตรา 79  แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ 2 (14) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 40) เรื่อง กำหนดลักษณะ และเงื่อนไขค่าตอบแทนที่ไม่ต้องนำมารวมคำนวณมูลค่าของฐานภาษี ตามมาตรา 79 (4) แห่งประมวลรัษฎากร วันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2535 
         กิจการร้านทอง (ผู้รับซื้อฝาก) จึงต้องเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ขายฝากที่มาไถ่คืนรวมทั้ง ต้องจัดทำใบกำกับภาษี และรายงานภาษีมูลค่าเพิ่ม ทั้งนี้ หากกิจการร้านทอง (ผู้รับซื้อฝาก) ได้รับค่าตอบแทนใดๆ จากผู้ขายฝากก่อนกำหนดการไถ่คืน ถือว่า เป็นการได้รับชำระราคาเป็นบางส่วนก่อนการส่งมอบกรรมสิทธิ์ในสินค้า จึงต้องเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ขายฝากด้วย

ที่มา: คู่มือภาษีอากรสำหรับกิจการร้านทอง (ฉบับปรับปรุง) เฉพาะกรณีโอนกิจการทั้งหมด
จากบุคคลธรรมดาเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล จัดทำโดย สำนักมาตรฐานการสอบบัญชีภาษีอากร กรมสรรพากร มกราคม 2560



ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ 

คลิ๊กที่นี่ เพื่อติดตาม FB เพจ "อาจารย์ สุเทพ พงษ์พิทักษ์"

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การท่องเว็บที่ดีขึ้น ข้อตกลงและนโยบายความเป็นส่วนตัว
ยอมรับ