Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

ขาย & Write off สินทรัพย์ถาวร เครื่องใช้สำนักงาน เครื่องจักร เครื่องมือ ที่ใช้งานไม่ได้


เรื่อง ขาย & Write off สินทรัพย์ถาวร เครื่องใช้สำนักงาน เครื่องจักร เครื่องมือ ที่ใช้งานไม่ได้
แหล่งที่มา Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์
วันที่ วันที่ถาม 16/02/2024 - วันที่ตอบ 16/03/2024
ประเภทภาษี ภาษีเงินได้นิติบุคคล,ภาษีมูลค่าเพิ่ม
ข้อกฎหมาย คำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 58/2538ฯ, คำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 79/2541, คำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 86/2542
ปุจฉา
ขอสอบถาม เรื่อง สินทรัพย์ถาวร ค่ะ
    บริษัทฯ มีเครื่องใช้สำนักงาน เครื่องจักร เครื่องมือ ที่ใช้งานไม่ได้
อยากถามว่า 
สินทรัพย์บางอย่าง เช่น เครื่องมือ เครื่องจักร ไม่สามารถขายได้ ทางบริษัทฯ ต้องการทำลายสินทรัพย์ดังกล่าว ต้องแจ้งสรรพากร หรือผู้สอบ เหมือนทำลายสินค้าไหมคะ และต้องทำอย่างไรบ้างคะทางบัญชีและภาษี เนื่องจากปัจจุบันทางบริษัทเคยแต่ทำการขายรวมๆ เปิดใบกำกับภาษี ยื่นภาษีขายปกติค่ะ หรือ write off ออกจากบัญชี ทางบริษัทฯ ก็จะทำการประเมินราคาและบวกกลับทางภาษีค่ะ ไม่แน่ใจว่าทำถูกไหมคะ
วิสัชนา
1. กรณีที่ทรัพย์สินชำรุด ไม่สามารถใช้งานได้ บริษัทฯ ได้ทำการขายในราคาตลาด นำส่งภาษีขาย ออกใบกำกับภาษี นำมูลค่าต้นทุนที่เหลืออยู่ตามบัญชี ตัดเป็นรายจ่าย และนำราคาขายมารวมคำนวณกำไรสุทธิ เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามข้อ 1. ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 58/2538ฯ ลงวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2538 กรณีที่ทรัพย์สินชำรุดจนไม่สามารถใช้งานได้ หากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ได้ขายไปซึ่งทรัพย์สินนั้น ก็มีสิทธิ์ตัดต้นทุนที่เหลืออยู่เป็นรายจ่ายได้ ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร

2. กรณีที่ตรวจนับไม่พบทรัพย์สินสูญหาย บริษัทฯ ได้ตัดจำหน่ายออกจากบัญชี สินทรัพย์ที่หายถือว่าเป็นการขาย โดยใช้ราคาตลาด นำส่งภาษีขาย ไม่ออกใบกำกับภาษี ตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 86/2542 และนำภาษีขายที่นำส่ง และมูลค่าทรัพย์สินที่เหลืออยู่ของทรัพย์สินที่บริษัทฯ ได้ตัดจำหน่าย (write off) บวกกลับไม่ถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล

3. กรณีที่ทรัพย์สินไม่มีตัวตน ประเภทโปรแกรม Software ต่างๆ ที่เลิกใช้งาน และตัดจำหน่ายเต็มมูลค่าคงเหลือ 1 บาท ไม่สามารถขายได้ บริษัทฯ ตัดออกจากบัญชี และนำมูลค่าต้นทุนที่เหลืออยู่ตามบัญชีถือเป็นรายจ่ายปกติ 

4. กรมสรรพากรอนุโลมให้นำหลักเกณฑ์การทำลายสินค้าไปปรับใช้กับการทำลายทรัพย์ ซึ่งตามข้อ 3.2 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 79/2541 กำหนดหลักเกณฑ์การแจ้งการทำลายให้สรรพากรพื้นที่ในท้องที่ที่รับผิดชอบทราบล่วงหน้าเป็นเวลา 30 วันก่อนวันทำลาย ดังนี้
     “(3.2) สำหรับของเสียหรือสินค้าหรือเศษซากที่โดยสภาพสามารถเก็บรักษาและรอการทำลายพร้อมกันได้เมื่อมีปริมาณที่เหมาะสม ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจะต้องแจ้งการทำลายให้สรรพากรพื้นที่... ในท้องที่ที่รับผิดชอบทราบล่วงหน้าเป็นเวลา 30 วันก่อนวันทำลาย ซึ่งสรรพากรพื้นที่... อาจส่งเจ้าหน้าที่ไปดูการทำลายด้วยก็ได้ตามความเหมาะสมแล้วแต่กรณี”
      อนึ่ง กรณีการทำลายทรัพย์สินที่ชำรุดไม่สามารถใช้การได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากบริษัทฯ สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีการทำลายทรัพย์สินดังกล่าวจริง และมีผู้สอบบัญชีของบริษัทฯ รับรองการกระทำดังกล่าว ถือเป็นผลเสียหายจากการประกอบกิจการโดยตรงไม่ต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (13) แห่งประมวลรัษฎากร จึงมีสิทธินำมูลค่าต้นทุนของทรัพย์สินที่เหลืออยู่ดังกล่าวมาถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิได้ ถึงแม้ไม่ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่สรรพากรทราบล่วงหน้าก่อนก็ตาม แต่ในการทำลายครั้งต่อไปเพื่อไม่ให้มีปัญหากับการตรวจของเจ้าหน้าที่จึงขอให้บริษัทฯ ปฏิบัติให้เป็นไปตามคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป. 79/2541 ฯ ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2541 (หนังสือกรมสรรพากรที่ กค 0811/09658 ลงวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2542)

5. สำหรับแบบฟอร์มการทำลายสินค้าหรือทรัพย์สินนั้น กรมสรรพากรมิได้กำหนดไว้แต่อย่างใด ให้กระทำเป็นคำร้องตามแบบฟอร์มหนังสือราชการทั่วไป โดยต้องแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าหรือทรัพย์สินที่จะทำลาย ดังต่อไปนี้เป็นอาทิ
     (1) ชื่อ ชนิด ประเภท ปริมาณ และมูลค่าของสินค้าหรือทรัพย์สินที่ต้องการทำลาย ซึ่งได้รับอนุมัติให้ทำลายของเสียหรือสินค้าหรือเศษซากหรือทรัพย์สินจากผู้มีอำนาจอนุมัติให้ทำลาย
     (2) วิธีการทำลาย
     (3) วัน เวลา สถานที่ที่ใช้ในการทำลาย
     (4) เหตุผลที่ต้องการทำลาย



ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ 

คลิ๊กที่นี่ เพื่อติดตาม FB เพจ "อาจารย์ สุเทพ พงษ์พิทักษ์

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การท่องเว็บที่ดีขึ้น ข้อตกลงและนโยบายความเป็นส่วนตัว
ยอมรับ