Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

บุคคลธรรมดารประกอบกิจการ สถาบันสอนศิลปะการแสดงประเภทแจ็ซ บัลเล่ย์ฯ”


เรื่อง บุคคลธรรมดารประกอบกิจการ สถาบันสอนศิลปะการแสดงประเภทแจ็ซ บัลเล่ย์ฯ”
แหล่งที่มา Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์
วันที่ วันที่ถาม 04/07/2024 - วันที่ตอบ 20/07/2024
ประเภทภาษี ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา,ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย,ภาษีมูลค่าเพิ่ม
ข้อกฎหมาย มาตรา 42 (17), มาตรา 81 (1) (ช) แห่งประมวลรัษฎากร
ปุจฉา
สถาบันสอนศิลปะการแสดงประเภทแจ็ซ บัลเล่ย์ฯ 
1. สถาบันจำเป็นต้องจดทะเบียนกับกรมพัฒน์ หรือไม่

2. รายได้ค่าเรียนของสถาบันในรูปบุคคลธรรมดา เป็นเงินได้ 40 หรือไม่ และหักค่าใช้จ่ายเหมาได้หรือไม่ ในอัตราเท่าไหร่

3. หากรายได้เกิน 1.8 ล้านต่อปี ต้องจด VAT หรือไม่ (อยู่ในประเภทกิจการประเภทศิลปะวัฒนธรรมตามประกาศอธิบดีสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 11) ลงวันที่ 27 ธ.ค 2534 ที่ได้รับยกเว้น หรือไม่)

4. หากมีห้องให้บริการสำหรับบุคคลภายนอกด้วย รายได้ที่ได้รับจะเข้าเกณฑ์แบบเดียวกับ ข้อ 2, 3 หรือไม่ และต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายด้วยหรือไม่

5. สถาบันควรจดในรูปแบบบุคคล/หสม. หรือบริษัท และควรวางแผนภาษีอย่างไรจึงจะได้ประโยชน์สูงสุด
วิสัชนา
คำว่า “สถาบันสอนศิลปะการแสดงประเภทแจ็ซ บัลเล่ย์ฯ” นั้น 
1. หากการจัดการเรียนการสอนของ “สถาบันสอนศิลปะการแสดงประเภทแจ็ซ บัลเล่ย์ฯ” ดังกล่าวเป็นการจัดการเรียนการสอนตามประเภทและลักษณะของโรงเรียนนอกระบบตามการจัดการเรียนการสอนและหลักสูตรของโรงเรียนนอกระบบตามมาตรา 120 แห่งพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2550 ประกอบกับประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เรื่อง การกำหนดประเภทและลักษณะของโรงเรียน การจัดการเรียนการสอนและหลักสูตรของโรงเรียนนอกระบบ ลงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 การจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนทั้งสองแห่งจึงจะเข้าลักษณะเป็นการประกอบกิจการของโรงเรียนเอกชนซึ่งได้ตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน ประกอบกับประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนฯ ลงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552เป็นการประกอบกิจการโรงเรียนเอกชนนอกระบบ ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน 
    1.1 กรณีภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 
         “สถาบันสอนศิลปะการแสดงประเภทแจ็ซ บัลเล่ย์ฯ” ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนนอกระบบได้รับอนุญาตให้ทำการสอนประเภทวิชาชีพ (ศิลปะการแสดงประเภทแจ็ซ บัลเล่ย์ฯ) ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน มีสถานภาพเป็นบุคคลธรรมดา นั้น ย่อมได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ตามมาตรา 42 (17) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ 2 (1) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยข้อ 1 (1) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 307 (พ.ศ. 2558) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร “สถาบันสอนศิลปะการแสดงประเภทแจ็ซ บัลเล่ย์ฯ” จึงไม่มีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการเงินได้สำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับจากกิจการโรงเรียนประเภทวิชาชีพ (ศิลปะการแสดงประเภทแจ็ซ บัลเล่ย์ฯ) ดังกล่าว 
    1.2 กรณีภาษีมูลค่าเพิ่ม
         การประกอบกิจการโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน ให้ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 81 (1) (ช) แห่งประมวลรัษฎากรดังนี้
         "มาตรา 81 ให้ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการประกอบกิจการประเภทต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
               (1) การขายสินค้าที่มิใช่การส่งออก หรือการให้บริการ ดังต่อไปนี้ 
                    (ช) การให้บริการการศึกษาของสถานศึกษาของทางราชการ สถานศึกษาตามกฎหมายว่าด้วย สถาบันอุดมศึกษาเอกชน หรือโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน"
         ทั้งนี้ ไม่ว่าจะมีรายได้จากการประกอบกิจการดังกล่าว เป็นจำนวนเท่าใดก็ตาม  

2. แต่ถ้า “สถาบันสอนศิลปะการแสดงประเภทแจ็ซ บัลเล่ย์ฯ” ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนนอกระบบยังไม่ได้รับอนุญาตให้ทำการสอนประเภทวิชาชีพ (ศิลปะการแสดงประเภทแจ็ซ บัลเล่ย์ฯ) ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน ก็ย่อมมีหน้าที่ต้องเสียทั้งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับค่าเล่าเรียน  

ต่อข้อถาม ขอเรียนว่า 
1. “สถาบันสอนศิลปะการแสดงประเภทแจ็ซ บัลเล่ย์ฯ” เป็นโรงเรียนเอกชนนอกระบบได้รับอนุญาตให้ทำการสอนประเภทวิชาชีพ (ศิลปะการแสดงประเภทแจ็ซ บัลเล่ย์ฯ) ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน มีสถานภาพเป็นบุคคลธรรมดา นั้น ย่อมได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ตามมาตรา 42 (17) แห่งประมวลรัษฎากร จึงไม่มีความจำเป็นต้องจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแต่อย่างใด 

2. รายได้ค่าเรียนของสถาบันในรูปบุคคลธรรมดา หากเป็นโรงเรียนเอกชนนอกระบบได้รับอนุญาตให้ทำการสอนประเภทวิชาชีพ (ศิลปะการแสดงประเภทแจ็ซ บัลเล่ย์ฯ) ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน มีสถานภาพเป็นบุคคลธรรมดา นั้น ย่อมได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ตามมาตรา 42 (17) แห่งประมวลรัษฎากร จึงไม่ต้องนำเงินได้ค่าเล่าเรียนมารวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแต่อย่างใด 

3. การประกอบกิจการโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน ให้ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 81 (1) (ช) แห่งประมวลรัษฎากร

4. หากมีห้องให้บริการสำหรับบุคคลภายนอกด้วย รายได้ที่ได้รับไม่เข้าเกณฑ์แบบเดียวกับ ข้อ 2, และข้อ 3 อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และหากผู้เช่าเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น ต้องถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายในอัตรา 3% ของเงินได้ ที่มีจำนวนตั้งแต่ 1,000 บาท ขึ้นไป 

5. สถาบันควรจดในรูปแบบบุคคลธรรมดา เจ้าของคนเดียว และพึงได้รับอนุญาตให้ทำการสอนประเภทวิชาชีพ (ศิลปะการแสดงประเภทแจ็ซ บัลเล่ย์ฯ) ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน ย่อมได้ประโยชน์สูงสุด



ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ 

คลิ๊กที่นี่ เพื่อติดตาม FB เพจ "อาจารย์ สุเทพ พงษ์พิทักษ์"

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การท่องเว็บที่ดีขึ้น ข้อตกลงและนโยบายความเป็นส่วนตัว
ยอมรับ