Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

สัญญาเช่า สัญญาจ้างทำของ สรุปอากรแสตมป์ (คำสั่ง ป. 153/2559)


เรื่อง สัญญาเช่า สัญญาจ้างทำของ สรุปอากรแสตมป์ (คำสั่ง ป. 153/2559)
แหล่งที่มา Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์
วันที่ วันที่ถาม 23/04/2023 - วันที่ตอบ 24/04/2023
ประเภทภาษี อากรแสตมป์
ข้อกฎหมาย คำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 153/2559
ปุจฉา
อากรแสตมป์ (คำสั่ง ป. 153/2559)
ตราสารที่้้ต้องเสียอากรเป็นตัวเงิน (ห้ามปิดอากรแสตมป์) 
ถ้าไม่เข้าลักษณะนี้จึงใช้วิธีปิดอากรแสตมป์ได้หรือจะชำระด้วยตัวเงินก็ได้
----
ป.พ.พ. มาตรา 537 อันว่าเช่าทรัพย์สินนั้น คือ สัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่าผู้ให้เช่า ตกลงให้บุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่าผู้เช่า ได้ใช้หรือได้รับประโยชน์ในทรัพย์สินอย่างใดอย่างหนึ่งชั่วระยะเวลาอันมีจำกัด และผู้เช่าตกลงจะให้ค่าเช่าเพื่อการนั้น
----
ป.พ.พ. มาตรา 587 อันว่าจ้างทำของนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่ง เรียกว่าผู้รับจ้าง ตกลงจะทำการงานสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนสำเร็จให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่าผู้ว่าจ้าง และผู้ว่าจ้างตกลงจะให้สินจ้างเพื่อผลสำเร็จแห่งการที่ทำนั้น 
----
“ตราสาร” เช่า “อสังหาริมทรัพย์” เท่านั้น ที่ต้องเสียอากรแสตมป์   
    1. กรณีทั่วไป มูลค่า ≥ 1 ล้านบาท 
    2. กรณี ผู้เช่าเป็นภาครัฐ / กรณีต้องจดทะเบียนที่กรมที่ดิน (ไม่มีจำนวนเงินขั้นต่ำ)
จ้างทำของ
    1. กรณีทั่วไป มูลค่า ≥ 1 ล้านบาท
    2. กรณี ผู้เช่าเป็นภาครัฐ ≥ 2 แสนบาท
นิยาม
    "ตราสารเช่า" ที่ต้องเสียอากร หมายถึง เอกสารการเช่าที่ดิน โรงเรือน สิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น หรือแพ ซึ่งผู้ให้เช่าได้ส่งมอบการครอบครองทรัพย์สินอย่างใดอย่างหนึ่งให้แก่ผู้เช่า เพื่อให้ได้ใช้หรือได้รับประโยชน์จากทรัพย์สินนั้นภายในกำหนดระยะเวลาที่ตกลงกัน และผู้เช่าได้ตกลงที่จะชำระ ค่าเช่าเป็นการตอบแทน โดยคู่สัญญาได้ลงลายมือชื่อทั้งสองฝ่าย
    "ตราสารจ้างทำของ" ที่ต้องเสียอากร หมายถึง เอกสารการจ้างทำของซึ่งผู้รับจ้างตกลงทำการงานสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนสำเร็จให้แก่ผู้ว่าจ้าง และผู้ว่าจ้างตกลงจะให้สินจ้างเป็นการตอบแทน โดยคู่สัญญาได้ลงลายมือชื่อทั้งสองฝ่าย
กรณีจ้างทำของ -- ผู้รับจ้างมีหน้าที่ต้องเสียอากรแห่งสินจ้างซึ่งไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
กรณีเช่า ที่ต้องเสียอากร จะเป็นการเช่าอสังหาริมทรัพย์เท่านั้น 
การเช่าอสังหาฯ ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม จึงไม่ได้ระบุฐานภาษีที่ต้องเสียอากรไว้ในคำสั่งนี้ (ในบัญชีอัตราอากรแสตมป์ ไม่ได้กำหนดว่า การให้เช่าทรัพย์สินอื่นที่เป็นสังหาริมทรัพย์ เช่น ให้เช่ารถยนต์ ต้องเสียอากร จึงไม่ต้องเสียอากร)
----
ตย. การกระทำที่ก่อให้เกิดตราสารจ้างทำของ ได้แก่
    1. การทำสัญญาจ้างทำของ (ผู้ว่าจ้าง และผู้รับจ้าง ลงลายมือชื่อทั้ง 2 ฝ่าย) เสียอากรวันที่ลงนามครบทั้งสองฝ่าย 
    2. การจัดทำใบเสนอราคา (ผู้ว่าจ้าง และผู้รับจ้าง ลงลายมือชื่อทั้ง 2 ฝ่าย) เสียอากรวันที่ลงนามครบทั้งสองฝ่าย (ตามปกติผู้ว่าจ้าง ก็จะลงนามทีหลังอยู่แล้ว ก็จะเป็นวันที่ผู้ว่าจ้างลงนาม)
    3. การจัดทำใบเสนอราคา(ผู้รับจ้างลงชื่อฝ่ายเดียว) ---> ต่อมาผู้ว่าจ้าง ออกใบสั่งจ้าง/ใบสั่งซื้อ (P/O)(ผู้ว่าจ้างลงนามในใบสั่งจ้างฝ่ายเดียว) 
    ถือเป็นหนังสือโต้ตอบระหว่างกันก่อให้เกิดตราสารจ้างทำของ  *(มีฝ่ายเสนอ และ ฝ่ายสนอง) เสียอากรวันที่ผู้ว่าจ้างออกใบสั่งจ้างและแจ้งให้ผู้รับจ้างทราบ (ถ้ากรณีคนละวันต้องถือตามวันที่ผู้รับจ้างได้ทราบ)
    ตราสาร 3 ข้อนี้ เป็นอันชัดเจนแล้ว ไม่มีข้อสงสัยใดๆ ในการก่อให้เกิดตราสารจ้างทำของ
----
    *4. ทำงานจ้างทำของเสร็จสิ้นแล้ว ต่อมาผู้ว่าจ้างออกใบสั่งจ้าง/ใบสั่งซื้อ (P/O) และผู้รับจ้างออกใบแจ้งหนี้ + แนบใบสั่งจ้าง + เรียกเก็บเงิน ใบแจ้งหนี้ตามใบสั่งจ้างเป็นหนังสือโต้ตอบระหว่างกันและก่อให้เกิดตราสารจ้างทำของ (ข้อนี้ ตามที่มีผู้สอบถามมายัง อ.สุเทพแล้ว เป็นกรณีที่ผู้เสียภาษีถูกประเมิน แต่ไม่ทราบรายละเอียดว่า ลำดับขั้นตอนเหมือนตาม ตย.ข้อ 4. ทุกขั้นตอนในคำสั่ง 153/2559 หรือไม่ และผลลัพธ์สุดท้ายว่าเป็นอย่างไร) 
    ขั้นตอนตามปกติทางธุรกิจจะแตกต่างกับ ตย. ตรงที่ มีการออกใบสั่งจ้างก่อน แล้วค่อยทำงานจ้างทำของ เมื่อเสร็จสิ้นแล้วจึงออกใบแจ้งหนี้, ใบวางบิลเพื่อเรียกเก็บเงิน ซึ่งปัจจุบันยังไม่ชัดเจนเพราะยังไม่มีตัวอย่างสำหรับกรณีนี้ หรือกรณีอื่นที่ไม่ถือเป็นการก่อให้เกิดตราสารจ้างทำของที่ต้องเสียอากร
----
หมายเหตุ
    (1) ถ้าในเวลากระทำสัญญาจ้างทำของไม่ทราบจำนวนสินจ้างว่าเป็นราคาใด ให้ประมาณจำนวนสินจ้างตามสมควรแล้วเสียอากรตามจำนวนสินจ้างที่ประมาณนั้น
         **ถ้าค่าสินจ้างส่วนเพิ่มเป็นกรณีที่มูลค่าสินจ้างจะเกินเกณฑ์ที่ปิดอากรได้ จะต้องเสียอากรเป็นตัวเงิน
    (2) ถ้ามีการรับเงินสินจ้างเป็นคราว ๆ และอากรที่เสียไว้เดิมยังไม่ครบ ให้เสียอากรเพิ่มเติมให้ครบตามจำนวนที่ต้องเสียทุกครั้งในทันทีที่มีการรับเงิน 
         **ถ้าค่าสินจ้างส่วนเพิ่มเป็นกรณีที่มูลค่าสินจ้างจะเกินเกณฑ์ที่ปิดอากรได้ จะต้องเสียอากรเป็นตัวเงิน
    (3) เมื่อการรับจ้างทำของได้สิ้นสุดลงแล้ว และปรากฏว่าได้เสียอากรเกินไป ให้ขอคืนตามมาตรา 122 ได้
----
อ้างอิงที่อ่านทำความเข้าใจ
ปพพ.มาตรา 537, 587
คำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.153/2559
มาตรา 103-129 (โดยเฉพาะมาตรา 113 ค่าปรับ สูงถึง 5 เท่า)
บัญชีอัตราอากรแสตมป์
อ่านที่ อาจารย์ตอบวิสัชนา คุณ Patcharanun Thienwuttiwong เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 เม.ย. 2562 เวลา 20.01 น. 
         (ปัจจุบันไม่ทราบว่า มีความคืบหน้าเป็นอย่างไร หากได้คำตอบจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง)
อ่านที่ อาจารย์ตอบวิสัชนา คุณ Som-o Ja เมื่อวันพฤหัสบดี 20 มิ.ย.2562 เวลา 18.04 น.
อ่านที่ อาจารย์ตอบวิสัชนา คุณ Taddy Pat (ตัวผมเอง) เมื่อวันพฤหัสบดี 24 มิ.ย.2564 เวลา 01.39 น.
อ่านที่ อาจารย์ตอบ www.taxguruthai.com หัวข้อ "ติดอากรแสตมป์ในใบเสนอราคา" ถามโดย joy.nalin1981 เมื่อ 14 ก.ย. 2559  กรณีที่ติดอากรแสตมป์แต่ไม่ได้บันทึกบัญชีค่าอากรแสตมป์ไว้
วิสัชนา
ได้รีวิว
อากรแสตมป์ (คำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 153/2559)
ตราสารที่้้ต้องเสียอากรเป็นตัวเงิน (ห้ามใช้วิธีแสตมป์ปิดทับ – จะถือว่าไม่ได้ปิดอากรแสตมป์) 
----
ป.พ.พ. มาตรา 537 อันว่าเช่าทรัพย์สินนั้น คือ สัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่าผู้ให้เช่า ตกลงให้บุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่าผู้เช่า ได้ใช้หรือได้รับประโยชน์ในทรัพย์สินอย่างใดอย่างหนึ่งชั่วระยะเวลาอันมีจำกัด และผู้เช่าตกลงจะให้ค่าเช่าเพื่อการนั้น 
    สาระสำคัญ คือ มีการส่งมอบ “การครอบครองทรัพย์” เพื่อให้ผู้เช่าได้ใช้หรือได้รับประโยชน์
----
ป.พ.พ. มาตรา 587 อันว่าจ้างทำของนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่ง เรียกว่าผู้รับจ้าง ตกลงจะทำการงานสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนสำเร็จให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่าผู้ว่าจ้าง และผู้ว่าจ้างตกลงจะให้สินจ้างเพื่อผลสำเร็จแห่งการที่ทำนั้น 
    สาระสำคัญ คือ มุ่งผลสำเร็จของงาน 
----
ตราสาร “เช่าอสังหาริมทรัพย์”     
    ตราสาร “เช่าอสังหาริมทรัพย์" หมายถึง เอกสารการเช่าที่ดิน โรงเรือน สิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น ซึ่งผู้ให้เช่าได้ส่งมอบการครอบครองทรัพย์สินอย่างใดอย่างหนึ่งให้แก่ผู้เช่า เพื่อให้ได้ใช้หรือได้รับประโยชน์จากทรัพย์สินนั้นภายในกำหนดระยะเวลาที่ตกลงกัน และผู้เช่าได้ตกลงที่จะชำระ ค่าเช่าเป็นการตอบแทน โดยคู่สัญญาได้ลงลายมือชื่อครบทั้งสองฝ่าย จึงจะถือเป็นการ “กระทำ” ตราสารที่ต้องเสียอากรแสตมป์ 
    กรณีเช่าอสังหาริมทรัพย์ – “ผู้ให้เช่า” มีหน้าที่ต้องเสียอากรแสตมป์จากมูลค่าทั้งหมดตามสัญญาเช่า โดยให้เสียเป็น “ตัวเงิน” ในอัตรา 1,000 ละ 1 บาท ในกรณีดังต่อไปนี้ 
    1. กรณีทั่วไป มูลค่า ≥ 1 ล้านบาท 
    2. กรณี ผู้เช่าเป็นภาครัฐ (ไม่มีจำนวนเงินขั้นต่ำ)
    3. กรณีต้องจดทะเบียนที่กรมที่ดิน (สัญญาเช่าเกิน 3 ปี) 
    อนึ่ง ตราสารเช่าสังหาทรัพย์ เช่น ให้เช่ารถยนต์ เครื่องจักร เป็นต้น ไม่อยู่ในบังคับที่ต้องสียอากรแสตมป์ ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม จึงไม่ได้ระบุฐานภาษีที่ต้องเสียอากรไว้ในคำสั่งนี้  
ตราสาร “จ้างทำของ”
    ตราสาร “จ้างทำของ" หมายถึง เอกสารการจ้างทำของซึ่งผู้รับจ้างตกลงทำการงานสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนสำเร็จให้แก่ผู้ว่าจ้าง และผู้ว่าจ้างตกลงจะให้สินจ้างเป็นการตอบแทน โดยคู่สัญญาได้ลงลายมือชื่อครบทั้งสองฝ่าย จึงจะถือเป็นการ “กระทำ” ตราสารที่ต้องเสียอากรแสตมป์
    กรณีจ้างทำของ – “ผู้รับจ้าง” มีหน้าที่ต้องเสียอากรแห่งสินจ้างซึ่งไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยให้เสียเป็น “ตัวเงิน” ในอัตรา 1,000 ละ 1 บาท ในกรณีดังต่อไปนี้
    1. กรณีทั่วไป มูลค่า ≥ 1 ล้านบาท
    2. กรณี ผู้เช่าเป็นภาครัฐ ≥ 2 แสนบาท
    สำหรับตราสาร “จ้างทำของ” 
    1. หากได้มีการทำตราสารจ้างทำของ ผู้ว่าจ้าง และผู้รับจ้าง ลงลายมือชื่อครบทั้ง 2 ฝ่าย ในวันใด ให้เสียอากรวันที่ลงนามครบทั้งสองฝ่าย แต่ล่าช้าได้ไม่เกิน 15 วัน แม้จะมีหนังสือโต้ตอบก็ไม่ต้องเสียอากรแสตมป์ สำหรับหนังสือโต้ตอบนั้น แต่อย่างใด 
    2. กรณีที่ไม่ได้ “กระทำ” ตราสารจ้างทำของ 
        (1) ได้มีการจัดทำใบเสนอราคา (ผู้ว่าจ้าง และผู้รับจ้าง ลงลายมือชื่อครบทั้ง 2 ฝ่าย) ให้ผู้รับจ้างเสียอากรในวันที่ลงนามครบทั้งสองฝ่าย แต่ล่าช้าได้ไม่เกิน 15 วัน ซึ่งตามปกติผู้ว่าจ้าง ก็จะลงนามทีหลังอยู่แล้ว ก็จะเป็นวันที่ผู้ว่าจ้างลงนาม
        (2) ได้มีการจัดทำใบเสนอราคา โดยผู้รับจ้างลงชื่อฝ่ายเดียว) ---> ต่อมาผู้ว่าจ้าง ออกใบสั่งจ้าง/ใบสั่งซื้อ (P/O) โดยผู้ว่าจ้างลงนามในใบสั่งจ้างฝ่ายเดียว ถือเป็นหนังสือโต้ตอบระหว่างกันก่อให้เกิดตราสารจ้างทำของ  *(มีฝ่ายเสนอ และ ฝ่ายสนอง) ให้ผู้รับจ้างเสียอากรวันที่ผู้ว่าจ้างออกใบสั่งจ้างและแจ้งให้ผู้รับจ้างทราบ (ถ้ากรณีคนละวันต้องถือตามวันที่ผู้รับจ้างได้ทราบ) 
        (3) กรณีที่ไม่มีจากจัดทำใบเสนอราคา โดยผู้รับจ้างได้ทำงานจ้างทำของเสร็จสิ้นแล้ว ต่อมาผู้ว่าจ้างที่เป็นส่วนราชการ หรือไม่สามารถบันทึกบัญชีได้ เพราะระบบไม่ได้ออกใบสั่งจ้าง/ใบสั่งซื้อ (P/O) ในการนี้ ผู้รับจ้างได้ออกใบแจ้งหนี้ + แนบใบสั่งจ้าง + เรียกเก็บเงิน กรณีเช่นนี้ เข้าลักษณะเป็นหนังสือโต้ตอบระหว่างกันและก่อให้เกิดตราสารจ้างทำของ ให้ผู้รับจ้างเสียอากรในวันที่ได้ออกใบแจ้งหนี้ แต่ล่าช้าได้ไม่เกิน 15 วัน
อนึ่ง กรณีที่ตราสารดังกล่าวไม่เข้าลักษณะตามที่กล่าวข้างต้น ให้ใช้วิธีแสตมป์ปิดทับตราสารหรือจะชำระเป็นตัวเงินก็ได้
----



ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆมาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ 

คลิ๊กที่นี่ เพื่อติดตาม FB เพจ "อาจารย์ สุเทพ พงษ์พิทักษ์ "

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การท่องเว็บที่ดีขึ้น ข้อตกลงและนโยบายความเป็นส่วนตัว
ยอมรับ