Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

คำว่า dealer กับ distributor ต่างกันอย่างไร


เรื่อง คำว่า dealer กับ distributor ต่างกันอย่างไร
แหล่งที่มา Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์
วันที่ วันที่ถาม 04/04/2024 - วันที่ตอบ 07/04/2024
ประเภทภาษี ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย,ภาษีเงินได้นิติบุคคล
ข้อกฎหมาย คำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 118/2545
ปุจฉา

คำว่า dealer กับ distributor  ต่างกันอย่างไรค่ะ

วิสัชนา
1. คำว่า dealer แปลว่า “ตัวแทนจำหน่าย” 
    Example: 
     - ตัวแทนจำหน่ายหรือผู้จัดจำหน่าย (Dealer) มีความหมายคล้ายกับคำว่า Agent ในความหมายทั่วไป ตัวแทนจำหน่ายหรือผู้จัดจำหน่าย หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างห้องสมุดและสำนักพิมพ์ มีความรับผิดชอบในกระบวนการจัดหาให้แก่ห้องสมุด ได้แก่ การสมัครเป็นสมาชิก การรับ-ส่ง การต่ออายุสมาชิก การทวง การจ่ายเงิน และการแจ้งข้อมูลต่าง ๆ 
     - การจัดหาผ่านตัวแทนจำหน่าย ครอบคลุมทรัพยากรสารสนเทศทั้งในรูปสิ่งพิมพ์ และ อิเล็กทรอนิกส์หรือออนไลน์ ปัจจุบันตัวแทนจำหน่ายมีบทบาทมากขึ้น เพราะห้องสมุดส่วนใหญ่ใช้บริการสั่งซื้อ จัดหา บอกรับ ผ่านตัวแทนจำหน่าย และเพราะการผูกขาดของตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับสิทธิจากสำนักพิมพ์ให้เป็นผู้จำหน่ายแต่เพียงรายเดียวในแต่ละประเทศ ส่งผลให้ห้องสมุดต้องดำเนินการจัดหาผ่านตัวแทนจำหน่ายดังกล่าว 
     - การจัดหาผ่านตัวแทนจำหน่าย มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ที่เห็นได้อย่างชัดเจน ข้อดี คือ ประหยัดเวลาและแรงงานในการดำเนินงาน ข้อเสีย คือ ค่าใช้จ่ายในการบอกรับเพิ่มมากขึ้น เพราะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการใช้บริการผ่านตัวแทน (Service charge) และที่สำคัญ กรณีที่ตัวแทนจำหน่ายได้รับสิทธิผูกขาดในการจำหน่ายจากสำนักพิมพ์แต่เพียงรายเดียว เรื่องการเจรจาต่อรองราคา ห้องสมุดทำได้ยากมาก เพราะไม่มีคู่แข่งในการจำหน่าย หากห้องสมุดมีความร่วมมือกันเป็นเครือข่าย จะมีพลังในการเจรจาต่อรองเพื่อให้ได้ราคาที่ต่ำลง ช่วยให้ประหยัดงบประมาณได้มากยิ่งขึ้น 
    - เกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกตัวแทนจำหน่าย ห้องสมุดสามารถใช้วิธีการศึกษาข้อมูลจากบริษัทตัวแทนจำหน่ายโดยตรง หรือสอบถามไปยังผู้ดำเนินงานจัดหาของห้องสมุดอื่น ๆ เพื่อสอบถามข้อมูลก่อนตัดสินใจเลือกใช้บริการ [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
    คำว่า distributor แปลว่า ผู้ค้าส่ง, พ่อค้า, ผู้แทนจำหน่าย, ผู้แจกจ่าย, Syn. seller, wholesaler, jobber, seeder


2. ตามข้อ 1 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 118/2545 เรื่อง การหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย และการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการจ่ายรางวัล ส่วนลดหรือประโยชน์ใด ๆ เนื่องจากการส่งเสริมการขาย ลงวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2545 กรมสรรพากรได้วางแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย กรณีการจ่ายรางวัล ส่วนลด หรือประโยชน์ใด ๆ เนื่องจากการส่งเสริมการขาย ตามข้อ 12/2 ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป. 4/2528 เรื่อง สั่งให้ผู้จ่ายเงินได้ พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ.2528  ดังต่อไปนี้
    “ข้อ 1 กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น ได้ขายสินค้าให้แก่ผู้ซื้อซึ่งได้ซื้อสินค้าไปโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะนำไปขายต่อ หรือตามพฤติการณ์ผู้ซื้อได้ซื้อสินค้าไปโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะนำไปขายต่อ เช่น ผู้ซื้อสินค้าเป็นผู้ประกอบการขายปลีก หรือขายส่งสินค้าหรือผู้แทนจำหน่าย เมื่อผู้ขายสินค้าดังกล่าวจ่ายรางวัล ส่วนลด หรือประโยชน์ใดๆ เนื่องจากการส่งเสริมการขาย ซึ่งอาจเป็นสัญญาระยะยาว ผู้จ่ายเงินมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 3.0 ของรางวัล ส่วนลด หรือประโยชน์ใด ๆ เนื่องจากการส่งเสริมการขาย 
         รางวัล ส่วนลด หรือประโยชน์ใด ๆ เนื่องจากการส่งเสริมการขาย ตามวรรคหนึ่ง หมายถึง เงินอุดหนุน เงินสนับสนุน เงินช่วยเหลือ เงินส่วนลด หรือเงินอื่นใดในลักษณะทำนองเดียวกันที่ผู้ขายสินค้าซึ่งเป็นผู้ผลิตหรือผู้จัดจำหน่ายได้จ่ายให้แก่ผู้ซื้อสินค้าซึ่งเป็นผู้แทนจำหน่ายที่ซื้อสินค้าโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะนำไปขายต่อ ทั้งนี้ ไม่ว่าเงินดังกล่าวจะคำนวณจากฐานการซื้อขายหรือคำนวณจากฐานอื่นใด เพื่อให้มีผลต่อการขาย การลดต้นทุน หรือลดรายจ่าย ของผู้ซื้อซึ่งเป็นผู้แทนจำหน่าย...”

ต่อข้อถาม ขอเรียนว่า
    คำว่า dealer หมายถึง ผู้แทนจำหน่าย ที่มุ่งหมายจะใช้กับ “ผู้ค้าปลีก” (Retailer) รวมทั้งห้างสรรพสินค้า (Department Store)
    ส่วนคำว่า distributor หมายถึง ผู้แทนจำหน่าย ที่มุ่งหมายจะใช้กับ “ผู้ค้าส่ง” (Wholesaler) รวมทั้งผู้ส่งออก (Exporter)  
    ซึ่งตามข้อ 2 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 118/2545 มุ่งประสงค์ที่จะอธิบายว่า กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น ได้ขายสินค้าให้แก่ผู้ซื้อซึ่งได้ซื้อสินค้าไปโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะนำไปขายต่อ หรือตามพฤติการณ์ผู้ซื้อได้ซื้อสินค้าไปโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะนำไปขายต่อ (Dealer/Distributor) เช่น ผู้ซื้อสินค้าเป็นผู้ประกอบการขายปลีก (Retailer) หรือขายส่งสินค้า (Wholesaler) หรือผู้แทนจำหน่าย เมื่อผู้ขายสินค้าดังกล่าวจ่ายรางวัล ส่วนลด หรือประโยชน์ใดๆ เนื่องจากการส่งเสริมการขาย ซึ่งอาจเป็นสัญญาระยะยาว ผู้จ่ายเงินมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 3.0 ของรางวัล ส่วนลด หรือประโยชน์ใด ๆ เนื่องจากการส่งเสริมการขาย



ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ 

คลิ๊กที่นี่ เพื่อติดตาม FB เพจ "อาจารย์ สุเทพ พงษ์พิทักษ์

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การท่องเว็บที่ดีขึ้น ข้อตกลงและนโยบายความเป็นส่วนตัว
ยอมรับ