Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

วันที่ออกใบกำกับภาษีของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง / การติดอากรแสตมป์สัญญาก่อสร้าง


เรื่อง วันที่ออกใบกำกับภาษีของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง / การติดอากรแสตมป์สัญญาก่อสร้าง
แหล่งที่มา Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์
วันที่ วันที่ถาม 28/03/2024 - วันที่ตอบ 03/04/2024
ประเภทภาษี ภาษีมูลค่าเพิ่ม,อากรแสตมป์
ข้อกฎหมาย คำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 51/2537ฯ, คำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 153/2559
ปุจฉา
ขออนุญาตสอบถามเกี่ยวกับการออกใบกำกับภาษีของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างค่ะ 
1. วันที่ที่ต้องระบุในใบกำกับภาษีขาย คือ วันที่ได้รับชำระเงินจากลูกค้าใช้มั้ยคะ หากส่งมอบงานลูกค้าวันที่ 10 มีนาคม ลูกค้าจ่ายเช็คระบุวันที่ 25 มีนาคม แต่นำเช็คไปขึ้นเงินและเข้าบัญชีธนาคารวันที่ 27 มีนาคม จะต้องระบุวันที่ในใบกำกับภาษีที่ออกให้ลูกค้าเป็นวันที่ตามเช็คหรือวันที่เงินเข้าบัญชีคะ

2. หนังสือสัญญาก่อสร้างที่ทำกับลูกค้าเอกชนไม่ใช่หน่วยงานรัฐ จำต้องเป็นต้องไปตีตราจ่ายอากรแสตมป์ที่สรรพากรทุกครั้งมั้ยคะ
วิสัชนา
1. กรมสรรพากรได้วางแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการออกใบกำกับภาษีและใบรับ กรณีผู้ประกอบการจดทะเบียนซึ่งขายสินค้าหรือให้บริการ ได้รับชำระราคาสินค้าหรือค่าบริการด้วยเช็ค ตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 51/2537ฯ ลงวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2537 ดังต่อไปนี้
    “ข้อ 1 กรณีผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ประกอบกิจการขายสินค้า ได้รับชำระราคาสินค้าด้วยเช็ค ซึ่งลงวันที่ก่อนส่งมอบสินค้า หรือก่อนโอนกรรมสิทธิ์สินค้า หรือเป็นผู้ประกอบกิจการให้บริการ ได้รับชำระค่าบริการด้วยเช็ค ผู้ประกอบการมีหน้าที่ออกใบกำกับภาษีและใบรับตามวันที่ลงในเช็ค
     ข้อ 2 กรณีผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการ ได้รับชำระค่าสินค้าหรือบริการด้วยเช็ค โดยได้รับมอบเช็คลงวันที่ที่ผ่านมาแล้ว ให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนจัดทำใบกำกับภาษีและใบรับตามวันที่ลงในเช็คนั้น เว้นแต่กรณีดังต่อไปนี้ ให้จัดทำใบกำกับภาษีและใบรับในวันที่ได้รับมอบเช็คนั้น
          (1) กรณีรัฐบาล องค์การของรัฐบาล เทศบาล สุขาภิบาล หรือองค์การบริหารราชการส่วนท้องถิ่นอื่นเป็นผู้ออกเช็ค 
          (2) นอกจากกรณีตาม (1) ในกรณีผู้ออกเช็คเป็นบุคคลธรรมดาบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น ซึ่งได้ออกเอกสารรับรองว่า ได้ส่งมอบเช็คให้ผู้ประกอบการเมื่อ วัน เดือน ปีใด และได้ส่งมอบเอกสารดังกล่าวให้ในวันเดียวกับที่ส่งมอบเช็คนั้น และผู้ประกอบการต้องมีเอกสารนี้พร้อมที่จะให้เจ้าพนักงานสรรพากรตรวจสอบได้ทันที”  
    ดังนั้น กรณีตามข้อเท็จจริง ให้บริษัทฯ ออกใบกำกับภาษีในวันที่ลงในเช็ค ได้แก่ วันที่ 25 มีนาคม 

2. ตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 153/2559 กรมสรรพากรได้วางแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการเสียอากรแสตมป์ สำหรับตราสารจ้างทำของ โดยให้ผู้รับจ้างมีหน้าที่เสียอากรแสตมป์เป็นตัวเงิน และเสียอากรแสตมป์เมื่อมีการ “กระทำ” ตราสารจ้างทำของ ซึ่งหมายถึงกรณที่แทน โดยคู่สัญญาได้ลงลายมือชื่อครบถ้วนทั้งสองฝ่าย ดังนี้
    “ข้อ 2 ตราสารดังต้อไปนี้ต้องชําระอากรเป็นตัวเงินแทนการปิดแสตมป์อากร 
         (1) เช่าที่ดิน โรงเรือน สิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น หรือแพ
              (ก) ตราสารที่มีค่าเช่าตั้งแต่ 1,000,000 บาทขึ้นไป สำหรับตราสารที่กระทำตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2558 เป็นต้นไป
              (ข) ตราสารที่รัฐบาล องค์การของรัฐบาล เทศบาล สุขาภิบาล หรือองค์การบริหารราชการส่วนท้องถิ่นเป็นผู้เช่า หรือ
              (ค) ตราสารที่ต้องจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิน
         (2) จ้างทำของ
              (ก) ตราสารที่มีสินจ้างตั้งแต่ 1,000,000 บาทขึ้นไป สำหรับตราสารที่กระทำตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2558 เป๋นต้นไป หรือ 
              (ข) ตราสารที่รัฐบาล องค์การของรัฐบาล เทศบาล สุขาภิบาล หรือองค์การบริหารราชการส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ว่าจ้าง และมีสินจ้างตั้งแต่ 200,000 บาทขึ้นไป
         ตราสารตามวรรคหนึ่ง หากมิได้มีการชําระอากรแสตมป์เป็นตัวเงิน ถือว่าตราสารนั้นไม่ได้ปิดแสตมป์บริบูรณ์ ต้องชําระอากรแสตมป์เป็นตัวเงินและเสียเงินเพิ่มอากร ตามมาตรา 113 และมาตรา 114 แห่งประมวลรัษฎากร
     ข้อ 5 ตราสารจ้างทำของที่ต้องเสียอากร หมายถึง เอกสารการจ้างทำของซึ่งผู้รับจ้างตกลงทำการงานสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนสำเร็จให้แก่ผู้ว่าจ้าง และผู้ว่าจ้างตกลงจะให้สินจ้างเป็นการตอบแทน โดยคู่สัญญาได้ลงลายมือชื่อทั้งสองฝ่าย 
         ตัวอย่าง 
         (1) บริษัท ก จำกัด ว่าจ้างบริษัท ข จำกัด ซึ่งประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้าง ให้สร้างอาคารสำนักงานโดยบริษัท ก จำกัด แจ้งให้บริษัท ข จำกัด ประเมินราคางานเบื้องต้นในวันที่  1 กุมภาพันธ์ 2559 และบริษัท ข จำกัด ทำใบเสนอราคา (Quotation) ให้แก่บริษัท ก จำกัด ในวันที่ 1 มีนาคม 2559 ต่อมาบริษัท ก จำกัด และบริษัท  ข จำกัด ได้ทำสัญญาจ้างและลงลายชื่อทั้งสองฝ่ายในวันที่ 1 เมษายน 2559 บริษัท ข จำกัด ผู้รับจ้างจึงมีหน้าที่ต้องเสียอากรในวันที่ 1 เมษายน 2559 ซึ่งเป็นวันที่ได้จัดทำตราสารจ้างทำของ 
         (2) บริษัท ก จำกัด ว่าจ้างบริษัท ข จำกัด ซ่อมเครื่องจักร โดยบริษัท ข จำกัด ผู้รับจ้างออกใบเสนอราคา (Quotation) ให้บริษัท ก จำกัด ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2559 และบริษัท ก จำกัดได้ลงนามในใบเสนอราคาฉบับดังกล่าวในวันที่ 1 มีนาคม  2559 บริษัท ข จำกัด ผู้รับจ้าง จึงมีหน้าที่ต้องเสียอากรในวันที่ 1 มีนาคม 2559 ซึ่งเป็นวันที่ได้จัดทำตราสารจ้างทำของ
         (3) บริษัท ก จำกัด ว่าจ้างบริษัท ข จำกัด ซ่อมเครื่องถ่ายเอกสาร โดยบริษัท ข จำกัด ผู้รับจ้าง ออกใบเสนอราคา (Quotation) ให้บริษัท ก จำกัด ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2559 แต่บริษัท ก จำกัด ไม่ได้ลงนามในใบเสนอราคาดังกล่าว ต่อมาบริษัท ก จำกัด ออกใบสั่งจ้าง (Purchase Order) แจ้งให้บริษัท ข จำกัด ทราบในวันที่ 1 มีนาคม 2559 ใบสั่งจ้างตามใบเสนอราคาเป็นหนังสือโต้ตอบระหว่างกันและก่อให้เกิดตราสารจ้างทำของ บริษัท ข จำกัด ผู้รับจ้าง จึงมีหน้าที่ต้องเสียอากรในวันที่ 1 มีนาคม 2559 
         (4) บริษัท ก จำกัด ว่าจ้างบริษัท ข จำกัด ซ่อมหลังคาอาคารโรงงาน บริษัท ข จำกัด ได้ซ่อมหลังคาอาคารโรงงานตามที่ตกลงแล้วเสร็จในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2559 ต่อมาบริษัท ก จำกัด ออกใบสั่งจ้าง (Purchase Order) ให้แก่บริษัท ข จำกัด ในวันที่ 1 มีนาคม 2559 และบริษัท ข จำกัดออกใบแจ้งหนี้ (Invoice) พร้อมแนบใบสั่งจ้างเรียกเก็บเงินจากบริษัท ก จำกัด ในวันที่ 1 เมษายน 2559 ใบแจ้งหนี้ตามใบสั่งจ้างเป็นหนังสือโต้ตอบระหว่างกันและก่อให้เกิดตราสารจ้างทำของ บริษัท ข จำกัด ผู้รับจ้าง จึงมีหน้าที่ต้องเสียอากรในวันที่ 1 เมษายน 2559”



ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ 

คลิ๊กที่นี่ เพื่อติดตาม FB เพจ "อาจารย์ สุเทพ พงษ์พิทักษ์

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การท่องเว็บที่ดีขึ้น ข้อตกลงและนโยบายความเป็นส่วนตัว
ยอมรับ