Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

การจัดเก็บภาษีในฮ่องกง ทำงานที่ไทยแต่สัญญาจ้างที่ฮ่องกง
เรื่อง | การจัดเก็บภาษีในฮ่องกง ทำงานที่ไทยแต่สัญญาจ้างที่ฮ่องกง |
แหล่งที่มา | Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ |
วันที่ | วันที่ถาม 05/10/2024 - วันที่ตอบ 01/11/2024 |
ประเภทภาษี | ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา |
ข้อกฎหมาย | - |
ปุจฉา | ถ้าทำงานที่ไทยแต่สัญญาจ้างที่ฮ่องกง ไม่ทราบว่าอาจารย์พอทราบวิธีลดหย่อนภาษีฮ่องกงมั้ยคะ |
วิสัชนา | บทความ : การจัดเก็บภาษีในฮ่องกง จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ภายใต้มาตรา 108 ของกฎหมายพื้นฐานของฮ่องกงระบบภาษีในฮ่องกงเป็นอิสระและแตกต่างจากระบบภาษีในจีนแผ่นดินใหญ่นอกจากนี้ ภายใต้มาตรา 106 ของกฎหมายพื้นฐานของฮ่องกงฮ่องกงมีการเงินสาธารณะที่เป็นอิสระ และไม่มีรายได้จากภาษีที่ส่งมอบให้กับรัฐบาลกลางในประเทศจีน โดยทั่วไปแล้ว ระบบภาษีในฮ่องกงถือเป็นหนึ่งในระบบที่ง่ายที่สุด โปร่งใสที่สุด และตรงไปตรงมาที่สุดในโลกภาษีจัดเก็บผ่านกรมสรรพากร (IRD) เนื่องจากระบบกฎหมายทั่วไปถูกนำมาใช้ในฮ่องกง คำพิพากษาของศาลและคณะกรรมการพิจารณาคดีในคดีภาษีจึงถูกนำมาใช้เพื่อช่วยในการตีความกฎและแนวคิดด้านภาษี นอกจากนี้ กรมสรรพากรยังออกบันทึกการตีความและแนวทางปฏิบัติของกรม (DIPN) เป็นระยะๆ เพื่อชี้แจงและขยายความเกี่ยวกับกฎภาษี และเพื่อให้กระบวนการจัดเก็บภาษีราบรื่นขึ้น ภาษีที่จัดเก็บในฮ่องกงสามารถจำแนกประเภทโดยทั่วไปได้ดังนี้: ภาษีตรง – รวมถึงภาษีเงินเดือน ภาษีทรัพย์สิน และภาษีกำไร กฎหมายที่ใช้บังคับคือกฎหมายรายได้ภายในประเทศ (บทที่ 112) ภาษีทางอ้อม – รวมถึงอากรแสตมป์ อากรการพนัน อากรมรดก (ยกเลิกเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549) และอื่นๆ ภาษีเงินได้ ต่างจากประเทศส่วนใหญ่ที่ใช้ทั้งเขตอำนาจศาลที่อยู่อาศัยและเขตอำนาจศาลอาณาเขตในการพิจารณาภาระภาษีของบุคคล ฮ่องกงใช้เฉพาะเขตอำนาจศาลแหล่งที่มาของพื้นที่และไม่สนใจแนวคิดเรื่องถิ่นที่อยู่ ดังนั้น กำไรที่ได้มาจากฮ่องกงเท่านั้นที่ต้องเสียภาษี ในขณะที่รายได้จากต่างประเทศไม่ต้องเสียภาษี (ยกเว้นรายรับจากการค้าที่ถือว่า เป็นรายได้ทั่วโลกบางประเภทที่ต้องเสียภาษีสำหรับผู้ที่ไม่มีถิ่นที่อยู่) ดังนั้น กรณีทำงานที่ประเทศไทย แต่สัญญาจ้างที่ฮ่องกง บริษัทแห่งประเทศฮ่องกงไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้ตามกฎหมายภาษีอากรแห่งประเทศฮ่องกง อย่างไรกาม การเสียภาษีเงินได้จากการให้บริการที่บริษัทในประเทศไทย จ่ายให้แก่บริษัทแห่งประเทศฮ่องกง ตามแนวคำตอบข้อหารือของกรมสรรพากรตามหนังสือเลขที่ กค 0702/7884 ลงวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2559 เป็นกรณีตัวอย่างดังนี้ 1. บริษัทฯ ในประเทศไทยได้ทำสัญญากับบริษัทฮ่องกงเพื่อให้บริษัทฮ่องกงให้บริการต่าง ๆ และมีการเรียกเก็บค่าบริการ ดังนี้ (1) การให้บริการด้านการตลาด ส่งเสริมการขาย การวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับอัญมณีต่าง ๆ ซึ่งไม่มีลักษณะของการให้ใช้สิทธิแต่อย่างใด โดยคิดค่าบริการเป็นอัตราต้นทุนของแต่ละปีตามรายได้ของแต่ละบริษัท (2) การบริการด้านความปลอดภัย โดยให้คำปรึกษาและแนะนำมาตรการรักษาความปลอดภัยภายในระหว่างบริษัทในกลุ่ม โดยคิดค่าบริการเป็นอัตราต้นทุนของแต่ละปีตามมูลค่าสินค้าของแต่ละบริษัท (3) การบริการด้านการเงิน ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการออกใบเรียกเก็บค่าบริการระหว่างบริษัทในกลุ่ม ดำเนินการเกี่ยวกับบัญชีและการตรวจสอบภายใน โดยคิดค่าบริการเป็นอัตราต้นทุนของแต่ละปีตามเวลาในการจัดทำเอกสาร (4) การบริการเป็นศูนย์ควบคุมกลางระบบคอมพิวเตอร์ ระบบติดตามสินค้าระหว่างขนส่งทางเครื่องบิน ระบบรักษาความปลอดภัยสินค้า โดยคิดค่าบริการเป็นอัตราต้นทุนของแต่ละปีตามจำนวนเที่ยวขนส่งที่แต่ละบริษัทจัดส่ง เนื่องจากการให้บริการตาม (1) – (4) เข้าลักษณะเป็นการที่บริษัทฮ่องกงให้บริการต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการดำเนินกิจการของบริษัทฯ ซึ่งเป็นการรับจ้างทำของ ดังนั้น ค่าบริการที่บริษัทฯ จ่ายให้แก่บริษัทฮ่องกงเข้าลักษณะเป็นกำไรจากธุรกิจตามข้อ 7 แห่งความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนและการป้องกันการเลี่ยงรัษฎากรในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเก็บจากเงินได้ (อนุสัญญาฯ) และหากบริษัทฮ่องกงให้บริการในต่างประเทศ โดยไม่ผ่านสถานประกอบการถาวรในประเทศไทย บริษัทฮ่องกงได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลในประเทศไทยสำหรับค่าบริการดังกล่าวตามข้อ 7 แห่งอนุสัญญาฯ ประกอบกับมาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 18) พ.ศ. 2505 เมื่อบริษัทฯ จ่ายค่าบริการไปให้บริษัทฮ่องกง จึงไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร 2. การบริการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัทฯ จะได้รับการติดตั้งโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อใช้บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการขนส่ง ระบบออกใบเรียกเก็บเงินของแต่ละประเทศ ซึ่งโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ได้รับติดตั้งนี้ จะใช้ได้เฉพาะเพื่อการปฏิบัติระหว่างบริษัทในกลุ่มเท่านั้น โดยคิดค่าบริการในอัตราต้นทุนแต่ละปีตามระยะเวลาที่บริษัทฯ ได้มีการใช้งาน หากการที่บริษัทฯ ได้รับการติดตั้งโปรแกรมคอมพิวเตอร์จากบริษัทฮ่องกงนั้น เป็นเพียงเพื่อให้บริษัทฮ่องกงใช้ในการให้บริการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศแก่บริษัทฯ ซึ่งเป็นการรับจ้างทำของ ค่าตอบแทนการให้บริการดังกล่าว เข้าลักษณะเป็นกำไรจากธุรกิจ ฉะนั้น หากบริษัทฮ่องกงให้บริการดังกล่าว โดยไม่ผ่านสถานประกอบการถาวรในประเทศไทย บริษัทฮ่องกงได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลในประเทศไทยสำหรับค่าบริการดังกล่าวตามข้อ 7 แห่งอนุสัญญาฯ ประกอบกับมาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 18) พ.ศ. 2505 เมื่อบริษัทฯ จ่ายค่าบริการไปให้บริษัทฮ่องกง จึงไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ |