Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

การรับรู้สิทธิการเช่าที่ดิน เพื่อทำเป็นอาคารสำนักงานให้เช่า
เรื่อง | การรับรู้สิทธิการเช่าที่ดิน เพื่อทำเป็นอาคารสำนักงานให้เช่า |
แหล่งที่มา | Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ |
วันที่ | วันที่ถาม 31/05/2022 - วันที่ตอบ 31/05/2022 |
ประเภทภาษี | ภาษีเงินได้นิติบุคคล |
ข้อกฎหมาย | มาตรา 65 ทวิ (2) แห่งประมวลรัษฎากร, พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 145) พ.ศ. 2527 |
ปุจฉา | กรณีบริษัทฯ ประกอบธุรกิจให้เช่าอาคารสำนักงาน ซึ่งบริษัทฯ ได้ไปเช่าพื้นที่กับผู้ให้เช่ารายหนึ่ง จ่ายเงินเป็นค่าสิทธิการเช่า 10 ปี จำนวน 10 ล้านบาท ณ วันที่ทำสัญญา (1 มกราคม พ.ศ. 2563) และกำหนดจ่ายค่าเช่ารายปีอีกปีละ 100,000 บาท (เริ่มจ่าย วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2564) โดยบริษัทฯ ได้ก่อสร้างอาคารสำนักงานเพื่อให้เช่า ซึ่งใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปี เริ่ม 1 มกราคม พ.ศ. 2563 สิ้นสุด 31 ธันวาคม พ.ศ. 2564 คำถามคือ 1. บริษัทบันทึกเงินที่จ่ายเป็นค่าสิทธิการเช่า 10 ปี จำนวน 10 ล้านบาท เป็นสินทรัพย์สิทธิการเช่า และบันทึกการตัดจำหน่ายปีละ 1 ล้านบาท เป็นต้นทุนของอาคารระหว่างการก่อสร้าง เนื่องจากถือว่าเข้าเกณฑ์เป็นรายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการลงทุน โดยนำมาเป็นตุ้นทุนของอาคารระหว่างการก่อสร้างไม่ได้บันทึกในลักษณะของค่าเสื่อมราคา ตามมาตรา 65 ทวิ (2) ถูกต้องหรือไม่ครับ 2. บริษัทฯ บันทึกเงินค่าเช่าจ่ายรายปี สำหรับปี 1 (1 มกราคม พ.ศ. 2564 – 31 ธันวาคม พ.ศ. 2564) เป็นต้นทุนของอาคารระหว่างการก่อสร้าง และบันทึกเงินค่าเช่าจ่ายรายปี สำหรับปีที่ 2 – 10 เป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ ถูกต้องหรือไม่ครับ |
วิสัชนา | กรณีบริษัทฯ ประกอบธุรกิจให้เช่าอาคารสำนักงาน ณ วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2563 บริษัทฯ ได้เช่าที่ดินกับผู้ให้เช่ารายหนึ่ง โดยได้จ่ายเงินเป็นค่าสิทธิการเช่า 10 ปี จำนวน 10 ล้านบาท และกำหนดจ่ายค่าเช่ารายปีอีกปีละ 100,000 บาท (เริ่มจ่ายวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2564) โดยบริษัทฯ ได้ก่อสร้างอาคารสำนักงานเพื่อให้เช่า ซึ่งใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปี เริ่ม 1 มกราคม พ.ศ. 2563 สิ้นสุด 31 ธันวาคม พ.ศ. 2564 นั้น 1. ตามมาตรา 65 ทวิ (2) แห่งประมวลรัษฎากร ค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สิน ให้หักได้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขและอัตราที่กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 145) พ.ศ. 2527 โดยให้คำนวณหักตามส่วนเฉลี่ยแห่งระยะเวลาที่ได้ทรัพย์สินนั้นมา ซึ่งตามมาตรา 4 แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 145) พ.ศ. 2527 ได้กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เกี่ยวกับการคำนวณหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาทรัพย์สิน ดังนี้ “มาตรา 4 การหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินให้คำนวณหักตามระยะเวลาที่ได้ทรัพย์สินนั้นมาในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชีในกรณีที่รอบระยะเวลาใดไม่เต็มสิบสองเดือนให้เฉลี่ยตามส่วนสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีนั้น ทั้งนี้ ไม่เกินอัตราร้อยละของมูลค่าต้นทุนตามประเภทของทรัพย์สิน ดังต่อไปนี้ (1) อาคาร อาคารถาวร ร้อยละ 5 อาคารชั่วคราว ร้อยละ 100 (2) ต้นทุนเพื่อการได้มาซึ่งแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สูญสิ้นไปได้ ร้อยละ 5 (3) ต้นทุนเพื่อการได้มาซึ่งสิทธิการเช่า กรณีไม่มีหนังสือสัญญาเช่า หรือมีหนังสือสัญญาเช่าที่มีข้อกำหนดให้ต่ออายุการเช่าได้ โดยเงื่อนไขในการต่ออายุนั้นเปิดโอกาสให้ต่ออายุการเช่ากันได้ต่อ ๆ ไป ร้อยละ 10 กรณีมีหนังสือสัญญาเช่าที่ไม่มีข้อกำหนดให้ต่ออายุการเช่าได้หรือมีข้อกำหนดให้ต่ออายุการเช่าได้เพียงระยะเวลาอันจำกัดแน่นอน ร้อยละ 100 หารด้วยจำนวนปีอายุการเช่าและอายุที่ต่อได้รวมกัน (4) ต้นทุนเพื่อการได้มาซึ่งสิทธิในกรรมวิธีสูตร กู๊ดวิล เครื่องหมายการค้า สิทธิประกองกิจการตามใบอนุญาต สิทธิบัตร ลิขสิทธิ์หรือสิทธิอย่างอื่น กรณีไม่จำกัดอายุการใช้ ร้อยละ 10 กรณีจำกัดอายุการใช้ ร้อยละ 100 หารด้วยจำนวนปีอายุการใช้ (5) ทรัพย์สินอย่างอื่น ซึ่งโดยสภาพของทรัพย์สินนั้นสึกหรอหรือเสื่อมราคาได้นอกจากที่ดินและสินค้า ร้อยละ 20 กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาโดยใช้วิธีการทางบัญชีที่รับรองทั่วไป ซึ่งมีอัตราการหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาไม่เท่ากันในแต่ละปีระหว่างอายุการใช้ทรัพย์สิน บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นจะหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาตามวิธีนั้นในบางปีเกินอัตราที่กำหนดข้างต้นก็ได้ แต่จำนวนปีอายุการใช้ของทรัพย์สินเพื่อการหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาต้องไม่น้อยกว่า 100 หารด้วยจำนวนร้อยละที่กำหนดข้างต้น (ดู คำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 3/2527 ประกอบ) ดังนั้น การที่บริษัทฯ บันทึกเงินที่จ่ายเป็นค่าสิทธิการเช่า 10 ปี จำนวน 10 ล้านบาท เป็นสินทรัพย์สิทธิการเช่า และบันทึกการตัดจำหน่ายปีละ 1 ล้านบาท ตามอายุการใช้ที่ดินตามสัญญาเช่าจึงเป็นวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องแล้ว แต่การนำค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาสิทธิการเช่าจำนวน 2 ล้านบาทมาเป็นต้นทุนของอาคารระหว่างการก่อสร้าง เนื่องจากถือว่าเข้าเกณฑ์เป็นรายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการลงทุนโดยนำมาเป็นต้นทุนของอาคารระหว่างการก่อสร้าง โดยไม่ได้บันทึกเป็นรายจ่ายในการดำเนินงาน นั้น 1.1 ในทางภาษีอากร เมื่อที่ดินที่บริษัทฯ ได้เช่ามาพร้อมใช้งานตามประสงค์แล้ว ย่อมถือได้ว่ารายจ่ายต้นทุนเพื่อการได้มาซึ่งสิทธิการเช่า เป็นรายจ่ายในการดำเนินงาน ซึ่งตามเกณฑ์สิทธิประกอบกับมาตรา 65 ตรี (9) แห่งประมวลรัษฎากร กำหนดให้บริษัทฯ ต้องนำไปถือเป็นรายจ่ายในการดำเนินงานตามรอบระยะเวลาบัญชีที่เกิดรายจ่ายนั้น ไม่เกี่ยวกับต้นทุนการก่อสร้างอาคารแต่อย่างใด 1.2 หากบริษัทฯ ได้ถือปฏิบัติในทางบัญชี เช่นนั้น (โดยที่ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตมิได้ทักท้วง) ในการยื่นแบบ ภ.ง.ด.50 สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีปี 2563 และ 2564 บริษัทฯ ต้องปรับปรุงนำค่าสึกหรอและค่าเสี่อมราคาต้นทุนเพื่อการได้มาซึ่งที่ดินมาถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ รับรู้ผลขาดทุนสุทธิยกไป ตามมาตรา 65 ตรี (12) แห่งประมวลรัษฎากร ต่อไป และปรับปรุงมูลค่าต้นทุนอาคารระหว่างก่อสร้างลงตามส่วนของรายจ่ายสิทธิการเช่าที่ดินดังกล่าว 2. เช่นเดียวกันกับต้นทุนเพื่อการได้มาซึ่งสิทธิการเช่า สำหรับรายจ่ายค่าเช่ารายปี ปีละ 100,000 บาท รวม 10 ปี นั้น ในทางภาษีอากรบริษัทฯ พึงต้องปรับปรุงค่าเช่าที่ดินรายปี มาถือเป็นรายจ่ายในการดำเนินงาน ตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีปี 2563 ที่เริ่มทำการเช่า ตามเกณฑ์สิทธิ แม้ตามสัญญาจะเริ่มจ่ายงวดแรกในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2564 ก็ตาม โดยส่วนต้ว ผมเห็นว่ารายการค่าใช้จ่ายทั้งสองรายการดังกล่าว นั้น แนวทางปฏิบัติทางบัญชีและทางภาษีอากรถือปฏิบัติเป็นอย่างเดียวกัน อยากให้สอบถามผู้สอบบัญชีรับอนุญาตของบริษัทฯ อีกครั้งหนึ่ง ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ |