Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

ค่า Freight ขนสินค้าจากต่างประเทศมาที่ประเทศไทย


เรื่อง ค่า Freight ขนสินค้าจากต่างประเทศมาที่ประเทศไทย
แหล่งที่มา Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์
วันที่ วันที่ถาม 24/01/2023 - วันที่ตอบ 28/01/2023
ประเภทภาษี ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย,ภาษีมูลค่าเพิ่ม
ข้อกฎหมาย มาตรา 79/1 (2)(ข) ประกอบกับมาตรา 80/1 (3) แห่งประมวลรัษฎากร,มาตรา 3 เตรส แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ 12/4 (2) ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 4/2528ฯ
ปุจฉา
บริษัทนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ มีจ่ายค่าระวางเรือ (ค่า Freight) โดยจ้างทาง sub ในประเทศไทย ขนสินค้าจากต่างประเทศมาที่ประเทศไทย โดยทาง sub ออกใบแจ้งหนี้เรียกเก็บเป็นค่า Freight และมี VAT 7% มีคำถามดังนี้นะคะ
    1. ค่า Freight สามารถคิด VAT 7% ได้หรือไม่คะ
    2. ตอนจ่ายค่า Freight ต้องหัก ณ ที่จ่าย เป็นค่าบริการ 3% หรือค่าขนส่ง 1% คะ
วิสัชนา
1. ตามมาตรา 79/1 (2)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร ได้บัญญัติเกี่ยวกับฐานภาษีสำหรับการให้บริการขนส่งระหว่างประเทศ ที่เป็นการขนส่งสินค้าออกนอกราชอาณาจักร ดังนี้
    “มาตรา 79/1 ฐานภาษีสำหรับการขายสินค้าหรือการให้บริการในกิจการเฉพาะอย่างให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้ 
         (2) ฐานภาษีสำหรับการให้บริการขนส่งระหว่างประเทศ
              (ก) ในกรณีรับขนคนโดยสาร ได้แก่ มูลค่าของค่าโดยสาร ค่าธรรมเนียม และประโยชน์อื่นใดที่เรียกเก็บในราชอาณาจักรก่อนหักรายจ่ายใดๆ เนื่องในการรับขนคนโดยสารนั้น 
              (ข) ในกรณีรับขนสินค้า ได้แก่ มูลค่าของค่าระวาง ค่าธรรมเนียม และประโยชน์อื่นใดที่เรียกเก็บ ไม่ว่าในหรือนอกราชอาณาจักรก่อนหักรายจ่ายใดๆ เนื่องในการรับขนสินค้านั้นออกนอกราชอาณาจักร” 

2. ตามข้อ 4 คำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 54/2537 เรื่อง การเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับกิจการให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยเรือเดินทะเล และสำหรับกิจการให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยเรือเดินทะเล ลงวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2537 กรมสรรพากรได้วางแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีมูลค่าเพิ่มของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งประกอบกิจการให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยเรือเดินทะเล (Freight Forwarder) ในฐานะตัวแทนของผู้นำเข้าสินค้า ดังต่อไปนี้
    “ข้อ 4 ในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มของผู้ประกอบการจดทะเบียน ซึ่งประกอบกิจการให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยเรือเดินทะเล ค่าบริการที่ต้องนำมารวมคำนวณเป็นมูลค่าของฐานภาษีตามมาตรา 79 แห่งประมวลรัษฎากร หมายถึง มูลค่าของค่าบริการ โดยให้คำนวณจากค่าระวาง ค่าธรรมเนียม และประโยชน์อื่นใดที่ได้มีการเรียกเก็บจากผู้รับบริการ หักด้วยค่าระวาง ค่าธรรมเนียม และประโยชน์อื่นใดที่ได้ถูกบริษัทสายการเดินเรือเรียกเก็บ โดยให้ผู้ประกอบกิจการให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยเรือเดินทะเลใช้ใบตราส่งสินค้า (เฮ้าส์บิลออฟเลดิง) ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 58) เรื่อง กำหนดรายการในใบกำกับภาษีของสินค้าหรือบริการบางกรณีตามมาตรา 86/5 (1) และ (2) แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2537 เป็นใบกำกับภาษีตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร โดยให้แยกค่าบริการ และจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่คำนวณจากมูลค่าของค่าบริการ ออกจากค่าระวาง ค่าธรรมเนียม และประโยชน์อื่นใด ที่ถูกบริษัทสายการเดินเรือเรียกเก็บ และให้ถือเป็นใบกำกับภาษีทั้งในส่วนของค่าระวาง ค่าธรรมเนียม และประโยชน์อื่นใดที่ถูกบริษัทสายการเดินเรือเรียกเก็บ และเป็นใบกำกับภาษีทั้งในส่วนของค่าบริการที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนซึ่งประกอบกิจการให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยเรือเดินทะเลเรียกเก็บ” 

3. ตามข้อ ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 110/2545 เรื่อง การหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย กรณีการจ่ายเงินค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศให้แก่ผู้ประกอบกิจการให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยเรือเดินทะเล และผู้ประกอบกิจการให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยเรือเดินทะเล ลง
    “ข้อ 6 กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น ซึ่งเป็นผู้ใช้บริการ จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร ที่เป็นค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ เนื่องจากการรับขนของเข้ามาในประเทศไทยให้แก่ผู้ประกอบกิจการให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยเรือเดินทะเล ผู้ใช้บริการซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ดังนี้
         (1) กรณีผู้ใช้บริการ (Consignee หรือ Forwarder) จ่ายค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของเข้ามาในประเทศไทยให้แก่บริษัทสายการเดินเรือไทย โดยบริษัทสายการเดินเรือไทยออกใบตราส่งสินค้า (บิลออฟเลดิง) และออกใบเสร็จรับเงินในนามของผู้ใช้บริการ ผู้ใช้บริการซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย โดยคำนวณหักไว้ในอัตราร้อยละ 1.0 ของค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศตามที่ระบุไว้ในใบตราส่งสินค้า (บิลออฟเลดิง) และผู้ใช้บริการมีหน้าที่ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ให้แก่บริษัทสายการเดินเรือไทย เว้นแต่บริษัทสายการเดินเรือไทยเป็นบริษัทสายการเดินเรือที่เข้าลักษณะตามมาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 314) พ.ศ. 2540 ผู้ใช้บริการซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย
         (2) กรณีผู้ใช้บริการ (Consignee หรือ Forwarder) จ่ายค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของเข้ามาในประเทศไทยให้แก่บริษัทสายการเดินเรือต่างประเทศ โดยบริษัทสายการเดินเรือต่างประเทศออกใบตราส่งสินค้า (บิลออฟเลดิง) และออกใบเสร็จรับเงินในนามของผู้ใช้บริการ โดยเหตุที่ค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของเข้ามาในประเทศไทย ไม่เป็นฐานในการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 67 แห่งประมวลรัษฎากร ผู้ใช้บริการซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย
     ข้อ 7 กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น ซึ่งเป็นผู้ใช้บริการ จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร ที่เป็นค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของเข้ามาในประเทศไทยให้แก่ผู้ประกอบกิจการให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยเรือเดินทะเล (Forwarder) โดย Forwarder กระทำการในฐานะเป็นตัวแทนของ Forwarder ในต่างประเทศ และ Forwarder ในประเทศไทย ได้ออกใบเสร็จรับเงินในนามของผู้ใช้บริการ ถือว่าผู้ใช้บริการจ่ายค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งไม่เป็นฐานในการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 67 แห่งประมวลรัษฎากร ผู้ใช้บริการซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย แต่ผู้ใช้บริการมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย จาก Forwarder ในประเทศไทย สำหรับค่าบริการ หรือเรียกว่า Handling Charge (H/D) โดยคำนวณหักไว้ในอัตราร้อยละ 3.0 ตามข้อ 12/1 ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป. 4/2528 เรื่อง สั่งให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2528 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป. 104/2544 เรื่อง สั่งให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ลงวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2544
         กรณี Forwarder ในประเทศไทยได้กระทำการในฐานะเป็นตัวแทน เรียกเก็บค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการรับขนของเข้ามาในประเทศไทยของ Forwarder ในต่างประเทศ Forwarder ในประเทศไทยจะต้องมีหลักฐานหรือเอกสารอื่นใดที่มีเนื้อหาแสดงว่ากระทำการในฐานะเป็นตัวแทนของ Forwarder ในต่างประเทศ” 

ต่อข้อถาม ขอเรียนว่า
กรณีบริษัทฯ นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ มีจ่ายค่าระวางเรือ (ค่า Freight) โดยจ้าง Freight Forwarder ในประเทศไทยขนสินค้าจากต่างประเทศมาที่ประเทศไทย โดยทาง Freight Forwarder ออกใบแจ้งหนี้เรียกเก็บเป็นค่า Freight และมี VAT 7% นั้น 
    1. ค่า Freight สำหรับการขนส่งสินค้าขาเข้า ไม่สามารถเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้ เนื่องจากภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับการขนส่งสินค้านั้น กำหนดให้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรา 0% เฉพาะสำหรับการขนส่งสินค้าขาออกเท่านั้น ทั้งนี้ ตามมาตรา 79/1 (2)(ข) ประกอบกับมาตรา 80/1 (3) แห่งประมวลรัษฎากร Freight Forwarder จึงไม่สามารถเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับค่าขนส่ง
    2. เมื่อบริษัทฯ จ่ายค่า Freight ให้แก่ Freight Forwarder บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องคำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย โดยถือเป็นค่าขนส่ง ในอัตรา  1% ของเงินได้ตามมาตรา 3 เตรส แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ 12/4 (2) ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 4/2528ฯ ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2528



ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ 

คลิ๊กที่นี่ เพื่อติดตาม FB เพจ "อาจารย์ สุเทพ พงษ์พิทักษ์"

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การท่องเว็บที่ดีขึ้น ข้อตกลงและนโยบายความเป็นส่วนตัว
ยอมรับ