Case study

นโยบายการกำหนดราคาโอน สำหรับการซื้อ-ขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ใช้แล้ว ระหว่างบริษัทในเครือ


เรื่อง นโยบายการกำหนดราคาโอน สำหรับการซื้อ-ขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ใช้แล้ว ระหว่างบริษัทในเครือ
แหล่งที่มา Case study
วันที่ 03/04/2025
ประเภทภาษี ภาษีเงินได้นิติบุคคล
ข้อกฎหมาย
คำถาม

บริษัท ขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ใช้แล้ว ระหว่างบริษัทในเครือ   โดยอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ซื้อ-ขายระหว่างกัน สามารถแบ่งได้ 2 เเบบ คือ 

 1. มูลค่าคงเหลือทางบัญชี เท่ากับ 0 หรือ 1 (ตัดค่าเสื่อมราคาเต็มมูลค่าแล้ว หรือ หมดอายุการใช้งานที่กำหนดแล้ว)  เเละ 

 2. มูลค่าคงเหลือทางบัญชี มากกว่า 0 หรือ 1 (ยังไม่หมดอายุการใช้งานที่กำหนด)


คำถาม :  บริษัทสามารถกำหนดราคาซื้อ-ขาย ทรัพย์สิน ที่ขายให้บริษัทในเครือ   โดย กำหนดราคาขายต่ำกว่าราคาตลาดได้หรือไม่

คำตอบ

คำตอบ 

การกำหนดราคาซื้อ-ขาย ทรัพย์สิน โดยถูกต้องตามกฎหมายทางภาษีที่เกียวข้อง ไม่ว่าจะขายให้บริษัททั่วไปหรือบริษัทในเครือ ก็ต้องกำหนดราคาขายในราคาตลาดไม่มีข้อยกเว้น

  • หากจะขายกันในราคาตามบัญชี(ที่ต่ำกว่าราคาตลาด) ไม่ว่าจะเหลือ 1 บาทหรือ มากกว่านั้นจะสามารถทำได้ แต่ต้องมีเหตุผลอันควรว่าเพราะเหตุใดจึงขายในราคานั้น เช่น จัดทำหลักฐาน เอกสารประกอบ เช่น พร้อมภาพถ่ายทรัพย์สินที่ชำรุดเสียหาย หมดอายุการใช้งาน มีเอกสารการตรวจสอบและอนุมัติการขายจากผู้มีอำนาจ และอื่นๆ  ประกอบ    
  • หากไม่มีเหตุผล หลักฐานเพียงพอ เจ้าหน้ามีอำนาจประเมินเป็นไปตามราคาตลาดได้ ตามมาตรา 65 ทวิ (4) แห่งประมวลรัษฎากร


มาตรา 65 ทวิการคำนวณกำไรสุทธิและขาดทุนสุทธิในส่วนนี้ให้เป็นไปตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้

        4) ในกรณีโอนทรัพย์สิน ให้บริการ หรือให้กู้ยืมเงิน โดยไม่มีค่าตอบแทน ค่าบริการหรือดอกเบี้ย หรือมีค่าตอบแทน ค่าบริการหรือดอกเบี้ยต่ำกว่าราคาตลาดโดยไม่มีเหตุอันสมควร เจ้าพนักงานประเมินมีอำนาจประเมินค่าตอบแทน ค่าบริการหรือดอกเบี้ยนั้นตามราคาตลาดในวันที่โอน ให้บริการ หรือให้กู้ยืมเงิน


 การขายทรัพย์สิน
 ให้บริษัทฯ ทำการขายในราคาตลาด นำส่งภาษีขาย ออกใบกำกับภาษี นำมูลค่าต้นทุนที่เหลืออยู่ตามบัญชี ตัดเป็นรายจ่ายได้ ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร และกรณีมีกำไรก็นำมารวมคำนวณกำไรสุทธิ เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล 


 ตัวอย่างการบัญทึกบัญชี

Dr. เงินสด

ค่าเสื่อมราคาสะสะ-ทรัพย์สิน

      ขาดทุนจากการตัดจำหน่ายทรัพย์สิน (กรณีขาดทุน)

                     Cr. ทรัพย์สิน-อุปกรณ์คอมพิวเตอร์

                           ภาษีขาย

                          กำไรจากการตัดจำหน่ายทรัพย์สิน (กรณีกำไร)

อ้างอิงคำตอบ


เรื่อง

การตัดจำหน่ายทรัพย์สิน หลักการปฏิบัติ แนวทางของบัญชีและภาษี

แหล่งที่มา

Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

วันที่

วันที่ถาม 18/02/2022 - วันที่ตอบ 06/04/2022

ประเภทภาษี

ภาษีเงินได้นิติบุคคล

ข้อกฎหมาย

ข้อ 1. ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 58/2538 คำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 86/2542, มาตรา 65 ตรี (13) แห่งประมวลรัษฎากร, คำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 79/2541, ข้อหารือเลขที่ กค 0811/09658 ลงวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2542

ปุจฉา

ขอปรึกษา เรื่องการตัดจำหน่ายทรัพย์สิน หลักการปฏิบัติ แนวทางของบัญชีและภาษี

วิสัชนา

1. กรณีที่ทรัพย์สินชำรุด ไม่สามารถใช้งานได้ บริษัทฯ ได้ทำการขายในราคาตลาด นำส่งภาษีขาย ออกใบกำกับภาษี นำมูลค่าต้นทุนที่เหลืออยู่ตามบัญชี ตัดเป็นรายจ่าย และนำราคาขายมารวมคำนวณกำไรสุทธิ เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามข้อ 1. ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 58/2538 กรณีที่ทรัพย์สินชำรุดจนไม่สามารถใช้งานได้ หากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล  ได้ขายไปซึ่งทรัพย์สินนั้น ก็มีสิทธิ์ตัดต้นทุนที่เหลืออยู่เป็นรายจ่ายได้ ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร 


2. กรณีที่ตรวจนับไม่พบทรัพย์สินสูญหาย บริษัทฯ ได้ตัดจำหน่ายออกจากบัญชี สินทรัพย์ที่หายถือว่าเป็นการขาย โดยใช้ราคาตลาด นำส่งภาษีขาย ไม่ออกใบกำกับภาษี ตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 86/2542 และนำภาษีขายที่นำส่ง และมูลค่าทรัพย์สินที่เหลืออยู่ของทรัพย์สินที่บริษัทฯ ได้ตัดจำหน่าย (write off) บวกกลับไม่ถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล  


3.กรณีที่ทรัพย์สินไม่มีตัวตน ประเภทโปรแกรม Software ต่างๆ ที่เลิกใช้งาน และตัดจำหน่ายเต็มมูลค่าคงเหลือ 1 บาท ไม่สามารถขายได้ บริษัทฯ ตัดออกจากบัญชี และนำมูลค่าต้นทุนที่เหลืออยู่ตามบัญชีถือเป็นรายจ่ายปกติ

    อย่างไรก็ตาม กรณีการทำลายทรัพย์สินที่ชำรุดไม่สามารถใช้การได้อย่างมีประสิทธิภาพ หาก บริษัทฯ สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีการทำลายทรัพย์สินดังกล่าวจริง และมีผู้สอบบัญชีของบริษัทฯ รับรอง การกระทำดังกล่าว ถือเป็นผลเสียหายจากการประกอบกิจการโดยตรงไม่ต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (13) แห่งประมวลรัษฎากร จึงมีสิทธินำมูลค่าต้นทุนของทรัพย์สินที่เหลืออยู่ดังกล่าวมาถือเป็นรายจ่ายใน การคำนวณกำไรสุทธิได้ ถึงแม้ไม่ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่สรรพากรทราบล่วงหน้าก่อนก็ตาม แต่ในการทำลาย ครั้งต่อไปเพื่อไม่ให้มีปัญหากับการตรวจของเจ้าหน้าที่จึงขอให้บริษัทฯ ปฏิบัติให้เป็นไปตาม คำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 79/2541 ฯ ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2541 (หนังสือกรมสรรพากรเลขที่ กค 0811/09658 ลงวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2542)


 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะคลิ๊กที่นี่ เพื่อติดตาม FB เพจ "อาจารย์ สุเทพ พงษ์พิทักษ์"



เรื่อง

ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการปรับปรุงและการทำลายทรัพย์สิน

แหล่งที่มา

ข้อหารือ กรมสรรพากร

วันที่

14/09/1999

เลขที่หนังสือ

กค 0811/09658

ประเภทภาษี

ภาษีเงินได้นิติบุคคล

ข้อกฎหมาย

มาตรา 65 ทวิ, มาตรา 65 ทวิ (2), มาตรา 65 ตรี (5), มาตรา 65 ตรี (13)

ข้อหารือ

     บริษัทฯ ประกอบธุรกิจโรงภาพยนตร์ระบบมัลติเพล็กซ์ที่ทันสมัย มีการนำเอาเทคโนโลยีที่นำสมัยมาใช้เสมอมาภายใต้สภาวะการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจประเภทนี้ทางบริษัทฯ จึงจะต้องมีการปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องมืออุปกรณ์ต่าง ๆ ให้มีความทันสมัยเพื่อสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ปัจจุบันมีประเด็นข้อปรึกษาเพื่อถือเป็นแนวทางในการปฏิบัติที่ถูกต้องดังนี้

     1. บริษัทฯ ได้มีการเปลี่ยนแปลงระบบคอมพิวเตอร์และพรม โดยแต่เดิมต้นทุนของทรัพย์สินทั้งสองประเภทได้บันทึกเป็นทรัพย์สินตัดค่าเสื่อมราคา 10 ปี ต่อมาเมื่อใช้งานไปได้ 2 - 3 ปี พบว่าสภาพของทรัพย์สินค่อนข้างชำรุด เนื่องจากการใช้งานทำให้การบริการไม่มีประสิทธิภาพ ทางบริษัทฯ จึงตัดสินใจเปลี่ยนทรัพย์สินใหม่เพื่อรักษาภาพพจน์ต่อผู้มาใช้บริการ ส่วนสินทรัพย์ชุดเก่าได้ทุบทำลายและเผาโดยได้ทำการถ่ายวิดีโอเทปและถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน แต่มิได้แจ้งเจ้าหน้าที่สรรพากรเกี่ยวกับการทำลายทรัพย์สินดังกล่าว ทางบริษัทฯ กระทำไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่กระทำไปด้วยความสุจริตและมีข้อเท็จจริงแสดงเป็นหลักฐานอย่างชัดเจน ซึ่งผู้ตรวจสอบบัญชีของบริษัทฯ ก็รับทราบการกระทำดังกล่าวด้วยทางบริษัทฯ จะสามารถนำต้นทุนที่เหลืออยู่ในบัญชีของทรัพย์สินดังกล่าวมาตัดเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในปีที่มีการทำลายทรัพย์สินนั้นได้หรือไม่อย่างไร

     2. บริษัทฯ ได้มีการทำลายอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์จำนวนหนึ่งและได้นำมูลค่าสุทธิที่เหลืออยู่ทางบัญชีมาคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายในการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล แต่ต่อมาภายหลังจากการตรวจเช็คทรัพย์สินปรากฏว่า มีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์บางส่วนที่ยังมิได้ทำลายจริง และยังคงใช้งานอยู่ในปัจจุบันจึงนำค่าใช้จ่ายที่ตัดจ่ายไปนั้นมาบวกกลับและเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติมให้ถูกต้องตามข้อเท็จจริงทางบริษัทฯ จะสามารถนำค่าใช้จ่ายที่บวกกลับมาทยอยตัดเป็นค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินตามอายุการใช้งานที่เหลืออยู่อีกได้หรือไม่อย่างไร

     3. บริษัทฯ มีการปรับปรุงทรัพย์สินบางประเภท เช่น เก้าอี้ เครื่องฉายภาพยนตร์ ให้อยู่ในสภาพที่สามารถใช้งานได้เป็นปกติตามอายุการใช้งานของทรัพย์สินแต่ละประเภท ต้นทุนค่าใช้จ่ายต่าง ๆเพื่อการรักษาประสิทธิภาพการทำงานนี้บริษัทฯ สามารถตัดเป็นค่าใช้จ่ายในงวดที่เกิดขึ้นจริงในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลได้หรือไม่อย่างไร

แนววินิจฉัย

     1. กรณีตาม 1. แยกพิจารณาได้ดังนี้

         (1) กรณีทรัพย์สินชำรุดจนไม่สามารถใช้งานได้ บริษัทฯ จะนำมูลค่าต้นทุนที่เหลืออยู่ของทรัพย์สินนั้นตัดเป็นรายจ่ายทั้งจำนวนไม่ได้ แต่หากได้ทำลายหรือขายไปซึ่งทรัพย์สินนั้นก็มีสิทธิตัดต้นทุนที่เหลืออยู่เป็นรายจ่ายได้ ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร ทั้งนี้ ตามข้อ 1 แห่งคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.58/2538 ฯ ลงวันที่ 2 สิงหาคม 2538

         (2) กรณีการทำลายทรัพย์สินที่ชำรุดไม่สามารถใช้การได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากบริษัทฯ สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีการทำลายทรัพย์สินดังกล่าวจริง และมีผู้สอบบัญชีของบริษัทฯ รับรองการกระทำดังกล่าว ถือเป็นผลเสียหายจากการประกอบกิจการโดยตรงไม่ต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (13) แห่งประมวลรัษฎากร จึงมีสิทธินำมูลค่าต้นทุนของทรัพย์สินที่เหลืออยู่ดังกล่าวมาถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิได้ ถึงแม้ไม่ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่สรรพากรทราบล่วงหน้าก่อนก็ตาม แต่ในการทำลายครั้งต่อไปเพื่อไม่ให้มีปัญหากับการตรวจของเจ้าหน้าที่จึงขอให้บริษัทฯ ปฏิบัติให้เป็นไปตาม
 คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.79/2541 ฯ ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2541

     2. กรณีตาม 2. เมื่ออุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์ยังมิได้มีการทำลายจริงและบริษัทฯ ได้นำค่าใช้จ่ายที่ตัดไปนั้นมาบวกกลับและเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติมแล้ว บริษัทฯ จึงมีสิทธินำมูลค่าต้นทุนส่วนที่เหลือของอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์ดังกล่าวมาหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาตามอายุการใช้งานที่เหลืออยู่ได้ตามมาตรา 65 ทวิ (2) แห่งประมวลรัษฎากร

     3. กรณีตาม 3. หากการปรับปรุงทรัพย์สินดังกล่าวไม่ได้เป็นการต่อเติมเปลี่ยนแปลงขยายออกหรือทำให้ดีขึ้นซึ่งทรัพย์สิน แต่เป็นการซ่อมแซมให้คงสภาพเดิมเพื่อให้ทรัพย์สินสามารถใช้การได้เป็นปกติ บริษัทฯ มีสิทธินำรายจ่ายดังกล่าวมาถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ไม่ต้องห้าม ตามมาตรา 65 ตรี (5) แห่งประมวลรัษฎากร

เลขตู้

62/28306



เรื่อง

ขาย & Write off สินทรัพย์ถาวร เครื่องใช้สำนักงาน เครื่องจักร เครื่องมือ ที่ใช้งานไม่ได้

แหล่งที่มา

Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

วันที่

วันที่ถาม 16/02/2024 - วันที่ตอบ 16/03/2024

ประเภทภาษี

ภาษีเงินได้นิติบุคคล,ภาษีมูลค่าเพิ่ม

ข้อกฎหมาย

คำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 58/2538ฯ, คำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 79/2541, คำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 86/2542

ปุจฉา

ขอสอบถาม เรื่อง สินทรัพย์ถาวร ค่ะ

    บริษัทฯ มีเครื่องใช้สำนักงาน เครื่องจักร เครื่องมือ ที่ใช้งานไม่ได้

อยากถามว่า

สินทรัพย์บางอย่าง เช่น เครื่องมือ เครื่องจักร ไม่สามารถขายได้ ทางบริษัทฯ ต้องการทำลายสินทรัพย์ดังกล่าว ต้องแจ้งสรรพากร หรือผู้สอบ เหมือนทำลายสินค้าไหมคะและต้องทำอย่างไรบ้างคะทางบัญชีและภาษีเนื่องจากปัจจุบันทางบริษัทเคยแต่ทำการขายรวมๆ เปิดใบกำกับภาษี ยื่นภาษีขายปกติค่ะ หรือ write off ออกจากบัญชี ทางบริษัทฯ ก็จะทำการประเมินราคาและบวกกลับทางภาษีค่ะ ไม่แน่ใจว่าทำถูกไหมคะ

วิสัชนา

1.กรณีที่ทรัพย์สินชำรุด ไม่สามารถใช้งานได้ บริษัทฯ ได้ทำการขายในราคาตลาด นำส่งภาษีขาย ออกใบกำกับภาษี นำมูลค่าต้นทุนที่เหลืออยู่ตามบัญชี ตัดเป็นรายจ่าย และนำราคาขายมารวมคำนวณกำไรสุทธิ เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามข้อ 1. ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 58/2538ฯ ลงวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2538 กรณีที่ทรัพย์สินชำรุดจนไม่สามารถใช้งานได้ หากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ได้ขายไปซึ่งทรัพย์สินนั้น ก็มีสิทธิ์ตัดต้นทุนที่เหลืออยู่เป็นรายจ่ายได้ ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร


2. กรณีที่ตรวจนับไม่พบทรัพย์สินสูญหาย บริษัทฯ ได้ตัดจำหน่ายออกจากบัญชี สินทรัพย์ที่หายถือว่าเป็นการขาย โดยใช้ราคาตลาด นำส่งภาษีขาย ไม่ออกใบกำกับภาษี ตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 86/2542 และนำภาษีขายที่นำส่ง และมูลค่าทรัพย์สินที่เหลืออยู่ของทรัพย์สินที่บริษัทฯ ได้ตัดจำหน่าย (write off) บวกกลับไม่ถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล


3. กรณีที่ทรัพย์สินไม่มีตัวตน ประเภทโปรแกรม Software ต่างๆ ที่เลิกใช้งาน และตัดจำหน่ายเต็มมูลค่าคงเหลือ 1 บาท ไม่สามารถขายได้ บริษัทฯ ตัดออกจากบัญชี และนำมูลค่าต้นทุนที่เหลืออยู่ตามบัญชีถือเป็นรายจ่ายปกติ


4.กรมสรรพากรอนุโลมให้นำหลักเกณฑ์การทำลายสินค้าไปปรับใช้กับการทำลายทรัพย์ ซึ่งตามข้อ 3.2 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 79/2541 กำหนดหลักเกณฑ์การแจ้งการทำลายให้สรรพากรพื้นที่ในท้องที่ที่รับผิดชอบทราบล่วงหน้าเป็นเวลา 30 วันก่อนวันทำลาย ดังนี้

     “(3.2) สำหรับของเสียหรือสินค้าหรือเศษซากที่โดยสภาพสามารถเก็บรักษาและรอการทำลายพร้อมกันได้เมื่อมีปริมาณที่เหมาะสม ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจะต้องแจ้งการทำลายให้สรรพากรพื้นที่... ในท้องที่ที่รับผิดชอบทราบล่วงหน้าเป็นเวลา 30 วันก่อนวันทำลาย ซึ่งสรรพากรพื้นที่... อาจส่งเจ้าหน้าที่ไปดูการทำลายด้วยก็ได้ตามความเหมาะสมแล้วแต่กรณี”

      อนึ่ง กรณีการทำลายทรัพย์สินที่ชำรุดไม่สามารถใช้การได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากบริษัทฯ สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีการทำลายทรัพย์สินดังกล่าวจริง และมีผู้สอบบัญชีของบริษัทฯ รับรองการกระทำดังกล่าว ถือเป็นผลเสียหายจากการประกอบกิจการโดยตรงไม่ต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (13) แห่งประมวลรัษฎากร จึงมีสิทธินำมูลค่าต้นทุนของทรัพย์สินที่เหลืออยู่ดังกล่าวมาถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิได้ ถึงแม้ไม่ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่สรรพากรทราบล่วงหน้าก่อนก็ตาม แต่ในการทำลายครั้งต่อไปเพื่อไม่ให้มีปัญหากับการตรวจของเจ้าหน้าที่จึงขอให้บริษัทฯ ปฏิบัติให้เป็นไปตามคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป. 79/2541 ฯ ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2541 (หนังสือกรมสรรพากรที่ กค 0811/09658 ลงวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2542)

 

5. สำหรับแบบฟอร์มการทำลายสินค้าหรือทรัพย์สินนั้น กรมสรรพากรมิได้กำหนดไว้แต่อย่างใด ให้กระทำเป็นคำร้องตามแบบฟอร์มหนังสือราชการทั่วไป โดยต้องแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าหรือทรัพย์สินที่จะทำลาย ดังต่อไปนี้เป็นอาทิ

     (1) ชื่อ ชนิด ประเภท ปริมาณ และมูลค่าของสินค้าหรือทรัพย์สินที่ต้องการทำลาย ซึ่งได้รับอนุมัติให้ทำลายของเสียหรือสินค้าหรือเศษซากหรือทรัพย์สินจากผู้มีอำนาจอนุมัติให้ทำลาย

     (2) วิธีการทำลาย

     (3) วัน เวลา สถานที่ที่ใช้ในการทำลาย

     (4) เหตุผลที่ต้องการทำลาย



ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ

คลิ๊กที่นี่ เพื่อติดตาม FB เพจ "อาจารย์ สุเทพ พงษ์พิทักษ์

หมายเหตุ : TAX CASE STUDY จาก Tax-EZ Website เป็นเพียงเคสตัวอย่างเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลก่อนนำไปใช้อ้างอิง
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การท่องเว็บที่ดีขึ้น ข้อตกลงและนโยบายความเป็นส่วนตัว
ยอมรับ