Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

ขั้นตอนวิธีการตัดทรัพย์สินนั้นออกจากทะเบียนทรัพย์สินกรณีทรัพย์สินบางรายการสูญหาย เนื่องจากการตรวจนับประจำปี
เรื่อง | ขั้นตอนวิธีการตัดทรัพย์สินนั้นออกจากทะเบียนทรัพย์สินกรณีทรัพย์สินบางรายการสูญหาย เนื่องจากการตรวจนับประจำปี |
แหล่งที่มา | Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ |
วันที่ | วันที่ถาม 11/01/2023 - วันที่ตอบ 13/01/2023 |
ประเภทภาษี | ภาษีเงินได้นิติบุคคล,ภาษีมูลค่าเพิ่ม |
ข้อกฎหมาย | มาตรา 77/1 (8) แห่งประมวลรัษฎากร, คำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 58/2538 ฯ |
ปุจฉา | |
วิสัชนา | 1. กรณีภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามข้อ 2 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 58/2538 เรื่อง ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการตัดมูลค่าต้นทุนที่เหลืออยู่ของทรัพย์สินที่สูญหายหรือชำรุดจนไม่สามารถใช้งานได้ ลงวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2538 กรมสรรพากรได้วางแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับกรณีทรัพย์สินสูญหาย “ข้อ 2 กรณีที่ทรัพย์สินสูญหาย ซึ่งถือเป็นผลเสียหายจากการประกอบกิจการ และบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ประสงค์จะตัดต้นทุนที่เหลืออยู่ของทรัพย์สินนั้นเป็นรายจ่ายทั้งจำนวน ได้ดังนี้ (ก) กรณีที่ทรัพย์สินที่สูญหายนั้น บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ได้มีการประกันหรือสัญญาคุ้มกันใด ๆ ไว้ กรณีดังกล่าวถือเป็นผลเสียหายอันอาจได้รับกลับคืนเนื่องจากการประกันหรือสัญญาคุ้มกันใด ๆ ดังนั้น เมื่อทรัพย์สินได้รับความเสียหายและกำลังรอการชดใช้จากบริษัทประกันภัย แต่ได้สิ้นสุดรอบระยะเวลาบัญชีไปก่อน เช่นนี้บริษัทและห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล จะตัดผลเสียหายดังกล่าวเป็นรายจ่ายทันทีไม่ได้ ต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (12) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น จะต้องรอจนกว่าจะได้รับค่าสินไหมที่ได้รับชดใช้จากบริษัทประกันภัยเสียก่อน ถ้าผลเสียหายมากกว่าค่าชดใช้ผลต่างถือเป็นผลเสียหายที่มีสิทธิ์หักเป็นรายจ่ายได้ แต่ถ้าค่าชดใช้สูงกว่าความเสียหาย ผลต่างถือเป็นรายได้ จึงต้องนำมารวมคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลด้วย (ข) กรณีทรัพย์สินที่สูญหายนั้น ไม่มีการประกันหรือสัญญาคุ้มกันใด ๆ มูลค่าของต้นทุนที่เหลืออยู่ของทรัพย์สินนั้น ถือเป็นผลเสียหายจากการประกอบกิจการ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล มีสิทธิ์ตัดเป็นรายจ่ายได้ทั้งจำนวน ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร แต่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล จะต้องมีหลักฐานที่เชื่อถือได้ เพื่อแสดงให้เห็นว่าทรัพย์สินนั้นได้สูญหายจริง” กรณีสินค้าที่ซื้อมาเพื่อขายสูญหาย เนื่องจากถูกโจรกรรม และบริษัทฯ ได้แจ้งความไว้แล้ว หากสินค้าที่สูญหายดังกล่าวไม่มีการประกันหรือสัญญาคุ้มกันใดๆ ย่อมถือเป็นผลเสียหายเนื่องจากการประกอบกิจการ บริษัทฯ มีสิทธินำมูลค่าต้นทุนของสินค้าทั้งจำนวน ไปถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร แต่บริษัทฯ จะต้องมีหลักฐานที่เชื่อถือได้ เพื่อแสดงให้เห็นว่า สินค้านั้นได้สูญหายจริง (หนังสือตอบข้อหารือของกรมสรรพากรที่ กค 0706/34060 ลงวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2549) 2. กรณีภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีสินค้าสูญหาย เข้าลักษณะเป็นสินค้าขาดจากรายงานสินค้าและวัตถุดิบตามมาตรา 87 (3) หรือมาตรา 87 วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร ถือเป็นการขายสินค้าตามมาตรา 77/1 (8)(จ) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มจากมูลค่าของสินค้าตามราคาตลาดของสินค้าที่สูญหายไปดังกล่าวตามมาตรา 79 และมาตรา 79/3 (3) แห่งประมวลรัษฎากร (หนังสือตอบข้อหารือของกรมสรรพากรที่ กค 0706/34060 ลงวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2549) ต่อข้อถาม ขอเรียนว่า ขั้นตอนวิธีการตัดทรัพย์สินนั้นออกจากทะเบียนทรัพย์สินกรณีทรัพย์สินบางรายการสูญหาย เนื่องจากการตรวจนับประจำปี ซึ่งควรกำหนดให้มีคณะกรรมการตรวจนับทรัพย์สิน เพื่อความชัดเจน และโปร่งใส 1. ให้จัดทำรายงานการสูญหายของทรัพย์สินให้ผู้บังคับบัญชาได้รับทราบถึงการสูญหายดังกล่าว ตามลำดับชั้น กรณีที่เป็นการสูญหายทั้วไปที่ไม่ใช่การโจรกรรม บริษัทฯ ไม่ต้องแจ้งความลงบันทึกประจำวันต่อเจ้าพนักงานตำรวจ แต่อย่างใด 2. ควรแจ้งสาเหตุของการสูญหายของทรัพย์สินให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นได้รับทราบ เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ แลแนวทางในการจัดเก็บดูแลรักษาทรัพย์สินรายการที่เหลือต่อไป 3. ในรายงานความเสียหายเนื่องจากการสูญหายของทรัพย์สิน ให้ขออนุมัติตัดรายการทรัพย์สินรายการที่สูญหายออกจากบัญชีทรัพย์สิน 4. ผลกระทบทางภาษีอากร 4.1 กรณีภาษีเงินได้นิติบุคคล ให้ถือปฏิบัติตามข้อ 2 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 58/2538 ฯ ลงวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2538 ดังกล่าวข้างต้น 4.2 กรณีภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีทรัพย์สินสูญหาย เข้าลักษณะเป็นการจำหน่าย จ่ายโอนทรัพย์สิน /สินค้าตามมาตรา 77/1 (8) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มจากมูลค่าของสินค้าตามราคาตลาดของสินค้าที่สูญหายไปดังกล่าวตามมาตรา 79 และมาตรา 79/3 (3) แห่งประมวลรัษฎากร ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ |