Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

บริษัทฯ ขายสินค้าแบบมีประกัน ได้เปลี่ยนอะไหล่ให้ลูกค้าต้องนำส่ง VAT หรือไม่/ เกี่ยวกับใบลดหนี้ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม


เรื่อง บริษัทฯ ขายสินค้าแบบมีประกัน ได้เปลี่ยนอะไหล่ให้ลูกค้าต้องนำส่ง VAT หรือไม่/ เกี่ยวกับใบลดหนี้ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม
แหล่งที่มา Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์
วันที่ วันที่ถาม 18/04/2025 - วันที่ตอบ 18/04/2025
ประเภทภาษี ภาษีเงินได้นิติบุคคล,ภาษีมูลค่าเพิ่ม
ข้อกฎหมาย มาตรา 82/10 แห่งประมวลรัษฎากร, ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 82)
ปุจฉา
ขอสอบถามอาจารย์ดังนี้
1. บริษัทผลิตพัดลมระบายอากาศขาย เปิดบิลให้ลูกค้า มีประกัน 2 ปี ลูกค้าแจ้งซ่อมสินค้าเสีย บริษัทเปลี่ยนอะไหล่ให้ลูกค้า ไม่เก็บเงินเนื่องจากอยู่ในประกัน  
    1.1 บริษัทต้องเปิดบิลนำส่ง vat ตัด stock และล้างขาย ล้างลูกหนี้
    1.2 ไม่ต้องเปิดบิล แต่นำส่ง VAT
    1.3 ไม่ต้องนำส่ง VAT 

2. ใบลดหนี้ที่จะนำมาหักในภาษีซื้อและภาษีขายได้ต้องเป็นกรณีใดคะ และที่ไม่สามารถนำมาหักในรายงานภาษีซื้อและภาษีขายได้เป็นกรณีใดคะ
    ในใบลดหนี้เราว่าสามารถระบุว่า
    ชื่อทีอยู่ผิด
    ไม่ได้ส่งมอบสินค้า
    เปลี่ยนที่อยู่
    สามารถนำใบกำกับภาษีที่มีเหตุผลดังกล่าวไปหักรายงานภาษีซื้อภาษีขายได้หรือไม่คะ
วิสัชนา
1. กรณีบริษัทฯ ผลิตพัดลมระบายอากาศขาย เปิดบิลให้ลูกค้า มีประกัน 2 ปี 
ลูกค้าแจ้งซ่อมสินค้าเสีย  บริษัทฯ เปลี่ยนอะไหล่ให้ลูกค้า  ไม่เก็บเงินเนื่องจากอยู่ในประกัน  
เช่นนี้ คำตอบคือ 3.  บริษัทฯ ไม่ต้องนำส่ง VAT แต่อย่างใด หากแต่ต้องจัดทำรายงานการจ่ายอะไหล่โดยไม่คิดมูลค่า (สำหรับสินค้าที่มีประกัน)
ดู แบบรายงานการจ่ายอะไหล่โดยไม่คิดมูลค่า (สำหรับสินค้าที่มีประกัน) 

2. เกี่ยวกับใบลดหนี้ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม  
    2.1 หลักเกณฑ์การออกใบลดหนี้ เป็นไปตามมาตรา 82/10 แห่งประมวลรัษฎากร
         ในกรณีที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนขายสินค้าหรือให้บริการและได้นำภาษีขายไปรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 82/3 แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว ต่อมาหากมีเหตุการณ์อย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้เกิดขึ้นอันเป็นเหตุให้ภาษีขายที่คำนวณจากมูลค่าของสินค้าหรือบริการมีจำนวนลดลงไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนดังกล่าวนำภาษีขายที่คำนวณจากมูลค่าของสินค้าหรือบริการที่ลดลงนั้นมาหักออกจากภาษีขายของตนในเดือนภาษีที่ได้ออกใบลดหนี้ตามมาตรา 86/10 แห่งประมวลรัษฎากร 
         (1) มีการลดราคาสินค้าที่ขายเนื่องจากสินค้าผิดข้อกำหนดที่ตกลงกัน สินค้าชำรุดเสียหาย หรือขาดจำนวน คำนวณราคาสินค้าผิดพลาดสูงกว่าที่เป็นจริง หรือเนื่องจากเหตุอื่นตามที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 82) ฯ 
         (2) มีการลดราคาค่าบริการเนื่องจากการให้บริการผิดข้อกำหนดที่ตกลงกัน บริการขาดจำนวน คำนวณราคาค่าบริการผิดพลาดสูงกว่าที่เป็นจริง หรือเนื่องจากเหตุอื่นตามที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 82) ฯ  
         (3) ได้รับสินค้าที่ขายกลับคืนมาเนื่องจากสินค้าชำรุดบกพร่อง ไม่ตรงตามตัวอย่าง ไม่ตรงตามคำพรรณนา หรือเนื่องจากเหตุอื่นตามที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 82) ฯ   
         (4) มีการบอกเลิกสัญญาบริการเนื่องจากเหตุและตามเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 82) ฯ 
         ให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ได้รับใบลดหนี้ นำภาษีมูลค่าเพิ่มที่ปรากฏตามใบลดหนี้ดังกล่าวมาหักออกจากภาษีซื้อของตนในเดือนภาษีที่ได้รับใบลดหนี้นั้น 

    2.2 ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 82) เรื่อง กำหนดเหตุอื่นตามมาตรา 82/10 (1) (2) (3) และ (4) แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2542 ประกอบกับข้อ 2 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 80 /2542 เรื่อง แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการออกใบเพิ่มหนี้ตามมาตรา 86/9 และใบลดหนี้ ตามมาตรา 86/10 แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2542 กำหนดเงื่อนไขกรณีผู้ประกอบการจดทะเบียนที่มีสิทธิออกใบลดหนี้ตามมาตรา 86/10 แห่งประมวลรัษฎากร จะต้องเข้าเงื่อนไขดังต่อไปนี้
         (1) เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนที่คำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 82/3 แห่งประมวลรัษฎากร 
         (2) มีการขายสินค้าหรือให้บริการโดยได้ออกใบกำกับภาษีซึ่งมีรายการตามมาตรา 86/4 หรือมาตรา 86/6 แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว 
         (3) ภายหลังได้ออกใบกำกับภาษีแล้วได้มีเหตุการณ์อย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้เกิดขึ้นอันเป็นเหตุให้ภาษีขายที่คำนวณจากมูลค่าของสินค้าหรือบริการมีจำนวนลดลงไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน 
               (ก) มีการลดราคาสินค้าที่ขายเนื่องจากสินค้าผิดข้อกำหนดที่ตกลงกัน สินค้าชำรุดเสียหาย หรือขาดจำนวน คำนวณราคาสินค้าผิดพลาดสูงกว่าที่เป็นจริงหรือเนื่องจากเหตุอื่นตามที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด 
               (ข) มีการลดราคาค่าบริการเนื่องจากให้บริการผิดข้อกำหนดที่ตกลงกัน บริการขาดจำนวน คำนวณราคาค่าบริการผิดพลาดสูงกว่าที่เป็นจริง หรือเนื่องจากเหตุอื่นตามที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด 
               (ค) ได้รับสินค้าที่ขายกลับคืนมาเนื่องจากสินค้าชำรุดบกพร่อง ไม่ตรงตามตัวอย่าง ไม่ตรงตามคำพรรณนา หรือเนื่องจากเหตุอื่นตามที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด
               (ง) ผู้ประกอบการจดทะเบียนมีหน้าที่ต้องจ่ายเงินชดเชยหรือเงินอื่นในลักษณะทำนองเดียวกันให้แก่ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการตามข้อผูกพันในกฎหมาย 
               (จ) ผู้ประกอบการจดทะเบียนได้มีการจ่ายคืนเงินจ่ายล่วงหน้าเงินประกัน เงินมัดจำ เงินจอง หรือเงินอื่นที่เรียกเก็บในลักษณะทำนองเดียวกันให้แก่ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการตามข้อตกลงทางการค้า 
               (ฉ) มีการคืนสินค้าหรือแลกเปลี่ยนสินค้าตามข้อตกลงทางการค้าระหว่างผู้ประกอบการจดทะเบียนด้วยกัน
               (ช) มีการคืนสินค้าหรือแลกเปลี่ยนสินค้าตามข้อตกลงทางการค้าระหว่างผู้ประกอบการจดทะเบียนและผู้ซื้อสินค้า ทั้งนี้ เฉพาะที่กระทำภายในเวลาอันสมควร 
               (ซ) มีการบอกเลิกสัญญาบริการเนื่องจากการให้บริการบกพร่องหรือให้บริการผิดข้อกำหนดที่ตกลงกัน
               (ฌ) มีการบอกเลิกสัญญาบริการเนื่องจากไม่มีการให้บริการตามสัญญา 

    2.3 ตามมาตรา 86/10 แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ 3 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.80/2542 เรื่อง แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการออกใบเพิ่มหนี้ตามมาตรา 86/9 และใบลดหนี้ ตามมาตรา 86/10 แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2542 ดังต่อไปนี้ 
         ให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนออกใบลดหนี้ให้แก่ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการได้ในเดือนภาษีที่มีเหตุการณ์ตามข้อ 2.2 เกิดขึ้น เว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นไม่สามารถออกใบเพิ่มหนี้หรือใบลดหนี้ได้ทันในเดือนภาษีที่มีเหตุการณ์ตามข้อ 2.2 เกิดขึ้น ก็ให้ออกใบเพิ่มหนี้หรือใบลดหนี้ให้แก่ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการในเดือนภาษีถัดจากเดือนที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น 
         ใบเพิ่มหนี้หรือใบลดหนี้ตามวรรคหนึ่งต้องมีรายการอย่างน้อยดังต่อไปนี้
         (1) คำว่า "ใบลดหนี้" ในที่ที่เห็นได้เด่นชัด
         (2) ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ออกใบลดหนี้ 
         (3) ชื่อ ที่อยู่ ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ
         (4) วัน เดือน ปี ที่ออกใบเพิ่มหนี้หรือใบลดหนี้
         (5) หมายเลขลำดับของใบกำกับภาษีเดิม รวมทั้งหมายเลขลำดับของเล่ม ถ้ามี มูลค่าของสินค้าหรือบริการที่แสดงไว้ในใบกำกับภาษีดังกล่าว มูลค่าที่ถูกต้องของสินค้าหรือบริการ ผลต่างของจำนวนมูลค่าทั้งสอง และจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ใช้คืนสำหรับส่วนต่างนั้นในกรณีของใบลดหนี้
         (6) คำอธิบายสั้น ๆ ถึงสาเหตุในการออกใบลดหนี้
         รายการในใบลดหนี้จะตีพิมพ์ จัดทำขึ้นด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ประทับด้วยตรายาง เขียนด้วยหมึก พิมพ์ดีด หรือทำให้ปรากฏขึ้นด้วยวิธีการอื่นใดในลักษณะทำนองเดียวกันก็ได้
         มูลค่าของสินค้าหรือบริการตามวรรคสอง (5) หมายความถึงมูลค่ารวมทั้งหมดตามใบกำกับภาษีที่เป็นเหตุให้มีการเพิ่มหนี้หรือลดหนี้ มูลค่ารวมทั้งหมดที่ถูกต้อง มูลค่ารวมทั้งหมดของส่วนต่าง และจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่เรียกเก็บเพิ่มหรือใช้คืนสำหรับส่วนต่าง
         สาเหตุในการออกใบลดหนี้ตามวรรคสอง (6) ให้แสดงเฉพาะสาเหตุและรายการสินค้าหรือบริการที่คลาดเคลื่อนเท่านั้น 

    2.4 ต่อข้อถาม ขอเรียนว่า
         (1) ใบลดหนี้ที่จะนำมาหักในภาษีซื้อและภาษีขายได้ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนตามมาตรา 82/10 มาตรา 86/10 แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 82) เรื่อง กำหนดเหตุอื่นตามมาตรา 82/10 (1) (2) (3) และ (4) แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2542 ประกอบกับข้อ 2 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 80 /2542 เรื่อง แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการออกใบเพิ่มหนี้ตามมาตรา 86/9 และใบลดหนี้ ตามมาตรา 86/10 แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2542 ดังกล่าวข้างต้น 
         (2) ใบลดหนี้ที่ไม่สามารถนำมาหักในรายงานภาษีซื้อและภาษีขายได้เป็นกรณีที่ไม่เข้าลักษณะตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามข้อ 2.4 (1) ดังกล่าว 
         (3) ให้ผู้ประกอบการจดทะเบียน ระบุสาเหตุในการออกใบลดหนี้ ด้วยคำอธิบายสั้น ๆ ถึงสาเหตุในการออกใบลดหนี้ในใบลดหนี้ ตามรายละเอียดในข้อ 2.2 ข้างต้น  
         (4) กรณีใบกำกับภาษี มีรายการชื่อที่อยู่ของผู้ประกอบการจดทะเบียนที่เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือรับบริการผิด หรือมีการเปลี่ยนที่อยู่ ไม่สามารถนำใบกำกับภาษีที่มีเหตุผลดังกล่าวไปหักรายงานภาษีซื้อภาษีขายได้ เนื่องจากเป็นรายการที่เป็นสาระสำคัญของใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร  
         (5) กรณีผู้ประกอบการจดทะเบียนที่เป็นผู้ขายสินค้าไม่ได้ส่งมอบสินค้า หากต่อมาได้มีการออกใบลดหนี้ โดยระบุว่า “คำนวณราคาสินค้าผิดพลาดสูงกว่าที่เป็นจริง” ก็ย่อมสามารถนำใบกำกับภาษีที่มีเหตุผลดังกล่าวไปหักรายงานภาษีซื้อภาษีขายได้



ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ 

คลิ๊กที่นี่ เพื่อติดตาม FB เพจ "อาจารย์ สุเทพ พงษ์พิทักษ์"

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การท่องเว็บที่ดีขึ้น ข้อตกลงและนโยบายความเป็นส่วนตัว
ยอมรับ