Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

ค่านายหน้าจากการขายสินค้าออนไลน์บน Application Shopee TikTok
เรื่อง | ค่านายหน้าจากการขายสินค้าออนไลน์บน Application Shopee TikTok |
แหล่งที่มา | Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ |
วันที่ | วันที่ถาม 27/12/2024 - วันที่ตอบ 26/01/2025 |
ประเภทภาษี | ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา,ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย |
ข้อกฎหมาย | มาตรา 40 (2) แห่งประมวลรัษฎากร, มาตรา 40 (8) แห่งประมวลรัษฎากร |
ปุจฉา | กรณีการไลฟ์สดขายสินค้าออนไลน์บนชอปปี้ ติ้กต่อก โดยสินค้าเป็นของร้านค้าบนแพลตฟอร์ม ได้รับเป็นค่าคอมมิชชั่นตามเปอร์เซ็นต์ที่กำหนด โดยได้รับเงินจากชอปปี้ ไม่ได้รับจากร้านค้าที่เราไปเอาของมาขาย ทางชอปปี้เป็นผู้จ่ายเงินค่าคอมมิชชั่น หัก ภาษี ณ ที่จ่าย 3% ระบุเป็นค่าบริการ คำถามมีดังนี้ค่ะ 1. เงินได้ถือเป็น 40 (2) หรือ (8) คะ |
วิสัชนา | กรณีตามข้อเท็จจริง การได้รับค่านายหน้าจากการขายสินค้าออนไลน์บน Application Shopee TikTok นั้น โดยทั่วไปเข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (2) แห่งประมวลรัษฎากร ผู้จ่ายเงินได้มีหน้าที่ต้องคำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามอัตราก้าวหน้าของเงินได้สุทธิ ตามมาตรา 50 (1) วรรคหนึ่ง และวรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 96/2543 เรื่อง การคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหัก ณ ที่จ่ายตามมาตรา 50 (1) แห่งประมวลรัษฎากร กรณีการจ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (1) แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543 อย่างไรก็ตาม กรณีผู้มีเงินได้มีหลักฐานในการประกอบกิจการให้เห็นได้อย่างชัดแจ้งว่า ได้ประกอบกิจการในรูปแบบของการทำธุรกิจและสามารถพิสูจน์รายจ่ายในการประกอบกิจการได้ ซึ่งต้องมีลักษณะการประกอบกิจการ ตามข้อ 2.1 (2) ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 115/2545 เรื่อง การเสียภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับกิจการตัวแทนประกันชีวิตและนายหน้าประกันชีวิต ลงวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2545 กรมสรรพากรวางแนวทางปฏิบัติอนุโลมให้ถือเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (8) แห่งประมวลรัษฎากร ดังนี้ “(ก) ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียน และ (ข) ได้จัดตั้งเป็นสำนักงานในการประกอบกิจการ โดยมีอาคารสำนักงานเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง หรือเช่าจากบุคคลอื่น โดยมีหลักฐาน เช่น หลักฐานการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ สัญญาเช่าสำนักงาน และ (ค) มีการลงทุนด้วยการจัดหาเครื่องมือเครื่องใช้ มีค่าใช้จ่ายสำนักงาน และ (ง) มีการจ้างลูกจ้างหรือพนักงานในการประกอบกิจการโดยมีหลักฐานตามสัญญาจ้างแรงงาน หลักฐานการจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสังคมตามกฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม และหลักฐานการแสดงการหักภาษี ณ ที่จ่าย และนำส่ง ในกรณีการคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่าย ไม่มีภาษีที่ต้องหัก ณ ที่จ่ายและนำส่ง จะต้องมีหลักฐานเกี่ยวกับการยื่นรายการเกี่ยวกับค่าจ้างแรงงานตามแบบ ภ.ง.ด.1 ก. (จ) มีค่าใช้จ่ายในการประกอบกิจการ เช่น ค่ารับรอง หรือค่าบริการเพื่อประโยชน์ในการติดต่องานกับลูกค้า ซึ่งผู้จ่ายเงินได้ที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลมีหน้าที่ต้องคำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายในอัตรา 3% ของเงินได้ ดังนั้น เงินได้ค่านายหน้าจากการขายสินค้าออนไลน์บน Application Shopee TikTok หากเป็นไปตามองค์ประกอบดังกล่าว (แม้จะไม่ครบองค์ประกอบทุกข้อ อาทิ ยังไม่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เพราะมีเงินได้ไม่ถึง 1.8 ล้านบาท) ย่อมเข้าลักษณะเป็นเงินได้ตามมาตรา 40 (8) แห่งประมวลรัษฎากร และในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้หักค่าใช้จ่ายได้ตามความจำเป็นและสมควร โดยให้นำมาตรา 65 ทวิ และมาตรา 65 ตรี มาใช้บังคับโดยอนุโลม ทั้งนี้ หากผู้มีเงินได้ไม่สามารถพิสูจน์รายจ่ายและไม่มีหลักฐานในการประกอบกิจการดังกล่าว เงินค่าจ้างที่ได้รับจากบริษัท Application Shopee TikTok เข้าลักษณะเป็นเงินได้ตามมาตรา 40 (2) แห่งประมวลรัษฎากร ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ |