Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์
บริษัทจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้กับพนักงานขายจากกำไรขั้นต้น
| เรื่อง | บริษัทจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้กับพนักงานขายจากกำไรขั้นต้น |
| แหล่งที่มา | Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ |
| วันที่ | วันที่ถาม 05/05/2022 - วันที่ตอบ 24/05/2022 |
| ประเภทภาษี | ภาษีเงินได้นิติบุคคล |
| ข้อกฎหมาย | มาตรา 65 ตรี (19) แห่งประมวลรัษฎากร |
| ปุจฉา | เนื่องจากว่าบริษัทฯ โดนสรรพากรประเมินและแจ้งว่าการคิดค่าคอมมิชั่นให้พนักงานขายของบริษัทฯ ถือเป็นค่าใช้จ่ายต้องห้าม ไม่สามารถลงเป็นค่าใช้จ่ายได้ นโยบายของบริษัทฯ คือคำนวณค่าคอมมิชชั่นของพนักงานขายจาก ยอดขาย - ต้นทุนสินค้า เมื่อครบเดือนสมมุติพนักงานขายทำยอดกำไรได้ 120,000 บาท จะได้ค่าคอมมิชชั่น จาก 3% ของยอดกำไร ถ้าทำกำไรได้ 240,000 ขึ้นไปจะได้ค่าคอมมิชชั่น 6% ของยอดกำไรนี้ บริษัทไม่ได้มีเจตนาจะถือเป็นค่าใช้จ่ายที่ประเมินจากกำไร แต่สรรพากรบอกว่าสิ่งที่จ่ายจากกำไรถือเป็นค่าใช้จ่ายต้องห้าม ทั้งๆ ที่ตามข้อเท็จจริง สิ่งที่เราจ่ายค่าคอมมิชชั่น คือ กำไรขั้นต้น ที่จริงแล้วพนักงานขายต้องได้ค่าคอมมิชชั่น และบริษัทเห็นแล้วว่าการจ่ายจากยอดขาย พนักงานขายจะได้ค่าคอมฯ มากกว่าที่บริษัทจ่ายอีก จึงมองไม่ออกว่าทำไมต้องเป็นค่าใช้จายบวกกลับ และถูกประเมินภาษีเพิ่ม ทางเราตกกฎหมายข้อใดไปหรือคะอาจารย์ |
| วิสัชนา | 1 ตามมาตรา 65 ตรี (19) แห่งประมวลรัษฎากร กำหนดห้ามมิให้บริษัทหรือห้างหุ้นนิติบุคคล นำรายจ่ายใด ๆ ที่กำหนดจ่ายจากผลกำไรที่ได้เมื่อสิ้นสุดรอบระยะเวลาบัญชีแล้ว ไม่ให้ถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล นั้น คำว่า “ผลกำไรที่ได้เมื่อสิ้นสุดรอบระยะเวลาบัญชี” ในที่นี้ นอกจากจะหมายถึง “กำไรสุทธิ” แล้ว ยังหมายความรวมถึง “กำไรขั้นต้น” หรือ “กำไรในลักษณะอื่น” ด้วย อาทิ กำไรต่อหน่วย 2. เหตุผลที่มีการห้ามไม่ให้กำหนดรายจ่ายที่จากผลกำไร (1) เพื่อป้องกันไม่ให้บริษัทและห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลมีการลดทอนกำไรอันเป็นฐานในการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลให้น้อยลง (2) ตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร กำหนดหลักทั่วไปในการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยบัญญัติให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากฐานกำไรสุทธิ ที่คำนวณได้จากรายได้จากกิจการหรือเนื่องจากกิจการที่ได้กระทำในรอบระยะเวลาบัญชี หักด้วยรายจ่ายทั้งสิ้นที่เกี่ยวกับรายได้ อันประกอบด้วยต้นทุน และรายจ่ายในการดำเนินงาน ตามเงื่อนไขในมาตรา 65 มาตรา 65 ทวิ และมาตรา 65 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งรับรู้ตามเกณฑ์สิทธิ เมื่อกิจการมีกำไรต้องนำไปคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลเท่านั้น จะนำไปใช้จ่ายอันมีผลทำให้ฐานภาษีลดน้อยลงไม่ได้ (3) กำไรขั้นต้น หรือกำไรต่อหน่วย หรือกำไรในลักษณะอื่น เป็นส่วนสำคัญที่จะนำไปสู่ “กำไรสุทธิ” ที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลในที่สุด ซึ่งหากบริษัทฯ ใช้นโยบายจ่ายค่าคอมมิชชั่นจากกำไรขั้นต้น จะมีผลให้ ผลรวมของค่าคอมมิชชั่นที่จ่ายไปในระหว่างงวด สามารถคำนวณอ้างอิงกลับไปยังผลรวมของกำไรขั้นต้นที่เกิดขึ้นในบริษัทฯ ได้ (แม้ว่าจะมีอัตราการจ่ายที่แตกต่างกัน 2 ระดับ ก็ตาม) ต่อข้อถาม ขอเรียนว่า กรณีบริษัทฯ กำหนดนโยบายจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้กับพนักงานขายจากยอดขายหักด้วยต้นทุนสินค้าหรือกำไรขั้นต้น ในอัตรา 3% สำหรับระดับกำไรที่น้อยกว่า 240,000 บาท และในอัตรา 6% สำหรับระดับกำไรที่มากกว่าเท่ากับ 240,000 บาท นั้น เข้าลักษณะเป็นรายจ่ายต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (19) แห่งประมวลรัษฎากร – รายจ่ายที่กำหนดจ่ายจากกำไรที่ได้เมื่อสิ้นสุดรอบระยะเวลาบัญชี แม้ในทางบัญชีจะถือเป็นรายจ่ายได้ แต่ในทางภาษีอากร บริษัทฯ ไม่สามารถนำรายจ่ายดังกล่าวไปถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลของบริษัทฯ ได้ ดังนั้น เพื่อให้บริษัทฯ สามารถนำรายจ่ายไปรวมคำนวณกำไรเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ โดยไม่ถือเป็นรายจ่ายต้องห้าม บริษัทฯ ต้องไม่กำหนดนโยบายการจ่ายค่าคอมมิชชั่นโดยการอ้างอิงจากตัวเลขกำไร ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขกำไรในบรรทัดใดในงบกำไรขาดทุนอีก ขอแนะนำว่าบริษัทฯ อาจกำหนดค่าคอมมิชชั่นจากยอดขายที่พนักงานทำได้ โดยลดทอนอัตราการจ่ายค่าคอมมิชชั่นลงมา เนื่องจากหากใช้ยอดขายเป็นฐานในการคำนวณ จะมีมูลค่าของจำนวนเงินที่สูงกว่าการใช้กำไรขั้นต้นเป็นฐาน จากนั้นลองทดลองคำนวณดูว่านโยบายใหม่ที่กำหนด (จ่ายจากฐานยอดขาย) ทำให้ผลรวมของค่าคอมมิชชั่นที่ต้องจ่ายใกล้เคียงกับการจ่ายโดยใช้นโยบายเดิม (จ่ายจากฐานกำไรขั้นต้น) หรือไม่ ทั้งนี้เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับพนักงาน และบริษัทฯ เองในภาพรวม เครดิต อาจารย์ ดร. ก้อย Sirada Jarutakanont ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ |
