Case study

ภาษีมูลค่าเพิ่ม เเละ ภาษีหัก ณ ที่จ่าย สำหรับการจ่ายเงินค่าจองโรงแรม ให้ Agent


เรื่อง ภาษีมูลค่าเพิ่ม เเละ ภาษีหัก ณ ที่จ่าย สำหรับการจ่ายเงินค่าจองโรงแรม ให้ Agent
แหล่งที่มา Case study
วันที่ 12/01/2025
ประเภทภาษี ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย,ภาษีมูลค่าเพิ่ม
ข้อกฎหมาย
คำถาม

บริษัทมีการใช้บริการ Agent (บริษัทในประเทศไทย) ในการจองบริการต่างๆ โดยทางบริษัทได้ใช้ Agent ดังนี้ 

1. การจ่ายจองที่พัก"ใน"ประเทศ > ทางบริษัทได้รับใบเสร็จจาก Agent และได้รับใบกำกับภาษีจากโรงแรมโดยตรง 

2. การจ่ายจองที่พัก"ใน"ประเทศ > ทางบริษัทได้รับใบกำกับภาษีเรียกเก็บเป็นค่าห้องจาก Agent > โรงแรมเป็นผู้ออกใบกำกับภาษีค่าห้องให้กับ Agent 

3. การจ่ายจองที่พัก"ต่าง"ประเทศ > ทางบริษัทได้รับใบเสร็จจาก Agent และได้รับใบเสร็จและ/หรือใบกำกับภาษีจากโรงแรมโดยตรง 

4. การจ่ายจองที่พัก"ต่าง"ประเทศ > ทางบริษัทได้รับใบกำกับภาษีเรียกเก็บเป็นค่าห้องจาก Agent > โรงแรมเป็นผู้ออกใบเสร็จและ/หรือใบกำกับภาษีค่าห้องให้กับ Agent 

คำถาม ภาษีมูลค่าเพิ่ม เเละ ภาษีหัก ณ ที่จ่าย สำหรับการจ่ายเงินค่าจองโรงแรม ให้ Agent


คำตอบ


ตอบ  ก่อนอื่นต้องอธิบายรูปแบบของการจองโรงแรมก่อนว่า  โดยทั่วไปมีทั้งหมด  2 รูปแบบ

แบบที่ 1Agent เป็นตัวแทนของโรงแรม   และ   มีหน้าที่ช่วยโรงแรมขายห้องพักเท่านั้น

  • โรงแรมมีหน้าที่ออกใบกำกับภาษี/ใบเสร็จรับเงิน ให้กับผู้ใช้บริการ(ผู้เข้าพัก)   คือ บริษัท
  • โรงแรมบันทึกรายได้ค่าห้องพัก 
  • บริษัทไม่ต้องหัก ณ ที่จ่าย เพราะ ท.ป.4/2528ข้อ 12/1 ระบุว่า ไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย ค่าโรงแรม
  • Agent ออกใบแจ้งหนี้ไปเรียกเก็บกับโรงแรมเป็นค่าบริการ/ค่านายหน้า ตามที่ตกลงกับโรงแรม  บันทึกบัญชีรายได้ค่าคอมมิชชั่น 
  • โรงแรมจ่ายเงินให้กับ Agent  หัก ณ ที่จ่าย 3% (ตาม ท.ป.4/2528ข้อ 12/1)
  • Agent ออกใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี ให้กับโรงแรม


แบบที่ 2Agent ซื้อห้องพักจากโรงแรม  และ   นำมาขายต่อในนามของตนเอง

  • โรงแรมมีหน้าที่ออกใบกำกับภาษี/ใบเสร็จรับเงิน ให้กับผู้ที่ซื้อห้อง คือ Agent
  • โรงแรมบันทึกรายได้ค่าห้องพัก 
  • Agent  ไม่ต้องหัก ณ ที่จ่าย เพราะ ท.ป.4/2528ข้อ 12/1 ระบุว่า ไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย ค่าโรงแรม
  • Agent หน้าที่ออกใบกำกับภาษี/ใบเสร็จรับเงิน ให้กับผู้ใช้บริการ (ผู้เข้าพัก) คือ บริษัท
  • Agent   บันทึกรายได้ค่าห้องพัก 
  • บริษัทไม่ต้องหัก ณ ที่จ่าย เพราะค่าโรงแรมได้รับยกเว้นไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย (ตาม ท.ป.4/2528ข้อ 12/1)

หมายเหตุ  สำหรับคำถามที่ว่า  Agent จะต้องเรียกเก็บบริษัทแบบมี VAT หรือไม่ นั้น   จะต้องพิจารณาเพิ่มเติมด้วยนะคะว่า   Agent เป็นผู้ประกอบการภาษีมูลค่าเพิ่ม(จด VAT) หรือไม่  ตารางสรุปด้านล่าง ขอตอบภายใต้สมมุติฐานว่า AGENT เป็นผู้ประกอบการภาษีมูลค่าเพิ่มนะคะ


บริษัทผู้ใช้บริการ(ผู้จ่ายเงิน)

VAT ภาษีมูลค่าเพิ่ม

ภาษีหัก ณ ที่จ่าย

การใช้บริการ Agent (บริษัทในประเทศไทย) – ค่าที่พัก


1

การจ่ายจองที่พัก"ใน"ประเทศ


บริษัทได้รับใบเสร็จจาก Agent และได้รับใบกำกับภาษีจากโรงแรมโดยตรง 

Agent ไม่มีหน้าที่ต้องออกใบกำกับภาษีเรียกเก็บ VAT 7% จากบริษัท เนื่องจาก เป็น แบบที่ 1คือ ผู้มีรายได้ค่าห้องพักคือโรงแรม ดังนั้นใบเสร็จที่ Agent ออกจึงเป็นเพียงหลักฐานใบรับเงินแทนโรงแรมเท่านั้น ดังนั้น โรงแรมมีหน้าที่ออกใบกำกับภาษีเรียกเก็บ VAT 7% จากบริษัท(ผู้เข้าพัก)

ไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย เพราะ ท.ป.4/2528ข้อ 12/1 ระบุว่า ไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย ค่าโรงแรม

2

การจ่ายจองที่พัก"ใน"ประเทศ

บริษัทได้รับใบกำกับภาษีเรียกเก็บเป็นค่าห้องจาก Agent > โรงแรมเป็นผู้ออกใบกำกับภาษีค่าห้องให้กับ Agent 

Agent มีหน้าที่ออกใบกำกับภาษีเรียกเก็บ VAT 7%จากบริษัท(ผู้เข้าพัก) ตามมาตรา 71/1(10) และ 77/2 แห่งประมวลรัษฎากร เนื่องจาก เป็น แบบที่ 2คือ ผู้มีรายได้ค่าห้องพักคือ Agent

ไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย เพราะ ท.ป.4/2528ข้อ 12/1 ระบุว่า ไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย ค่าโรงแรม

3

การจ่ายจองที่พัก"ต่าง"ประเทศ

บริษัทได้รับใบเสร็จจาก Agent และได้รับใบเสร็จและ/หรือใบกำกับภาษีจากโรงแรมโดยตรง

Agent ไม่มีหน้าที่ต้องออกใบกำกับภาษีเรียกเก็บ VAT 7% จากบริษัท เนื่องจาก เป็น แบบที่ 1คือ ผู้มีรายได้ค่าห้องพักคือโรงแรม ดังนั้นใบเสร็จที่ Agent ออกจึงเป็นเพียงหลักฐานใบรับเงินแทนโรงแรมเท่านั้น ซึ่งโรงแรมต่างประเทศเรียกเก็บ VAT หรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับกฏหมายของประเทศนั้นๆ

ไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 70 ระบุให้หัก ณ ที่จ่ายสำหรับเงินได้พึงประเมิน มาตรา 40(2)-(6) เท่านั้น สำหรับค่าที่พักเป็น 40(8) จึงไม่เข้าเงื่อนไขที่ต้องหักภาษีณ ที่จ่าย

4

การจ่ายจองที่พัก"ต่าง"ประเทศ

บริษัทได้รับใบกำกับภาษีเรียกเก็บเป็นค่าห้องจาก Agent > โรงแรมเป็นผู้ออกใบเสร็จและ/หรือใบกำกับภาษีค่าห้องให้กับ Agent

Agent มีหน้าที่ออกใบกำกับภาษีเรียกเก็บ VAT 7%จากบริษัท(ผู้เข้าพัก) ตามมาตรา 71/1(10) และ 77/2 แห่งประมวลรัษฎากร เนื่องจาก เป็น แบบที่ 2คือ ผู้มีรายได้ค่าห้องพักคือ Agent 

หมายเหตุ ถึงแม้ว่าจะเป็นการพักที่ โรงแรมต่างประเทศ  แต่ Agent เป็นนิติบุคคลที่อยู่ในประเทศไทย และ ให้บริการแก่บริษัท (ที่เป็นนิติบุคคลในประเทศไทย)  กรณีนี้ ถือว่าเป็น In to In คือ บริการได้ให้ในประเทศไทย และ     ใช้บริการเสร็จสิ้นในไทย 

ไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย เพราะ ท.ป.4/2528ข้อ 12/1 ระบุว่า ไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย ค่าโรงแรม



มาตรา 77/1 ในหมวดนี้ เว้นแต่ข้อความจะแสดงให้เห็นเป็นอย่างอื่น

(10) " บริการ " หมายความว่า การกระทำใด ๆ อันอาจหาประโยชน์อันมีมูลค่าซึ่งมิใช่เป็นการขายสินค้า และให้หมายความรวมถึงการใช้บริการของตนเอง ไม่ว่าประการใดๆ แต่ทั้งนี้ไม่รวมถึง



มาตรา 77/2 การกระทำกิจการดังต่อไปนี้ในราชอาณาจักรให้อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามบทบัญญัติในหมวดนี้
             (1) การขายสินค้าหรือการให้บริการโดยผู้ประกอบการ


คำสั่งกรมสรรพากร
 ที่ ท.ป. 4/2528
 เรื่อง สั่งให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่ หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย


ข้อ 12ให้บุคคล บริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น ห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคลซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินที่เป็นค่าจ้างทำของให้แก่ผู้รับจ้างซึ่งเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศประกอบกิจการในประเทศไทย โดยมิได้มีสำนักงานสาขาตั้งอยู่เป็นการถาวรในประเทศไทยหักภาษี ณ ที่จ่ายโดยคำนวณหักไว้ในอัตราร้อยละ 5.0
 (
ดูคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.8/2528)
                   "ข้อ 12/1 ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น ซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(8) เฉพาะที่เป็นการจ่ายเงินได้จากการให้บริการอื่น ๆ นอกเหนือจากกรณีที่กำหนดไว้ในข้อ 8 ข้อ 9 (2) ข้อ 10 ข้อ 12 ข้อ 12/3 และข้อ 12/4 
แต่ไม่รวมถึงการจ่าย ค่าบริการของโรงแรม ค่าบริการของภัตตาคาร และค่าเบี้ยประกันชีวิต ให้แก่ผู้รับซึ่งเป็น



มาตรา 70 บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ มิได้ประกอบกิจการในประเทศไทย แต่ได้รับเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (2)(3) (4) (5) หรือ (6) ที่จ่ายจากหรือในประเทศไทย ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นเสียภาษี โดยให้ผู้จ่ายหักภาษีจากเงินได้พึงประเมินที่จ่ายตามอัตราภาษีเงินได้ สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลแล้วนำส่งอำเภอท้องที่พร้อมกับยื่นรายการตามแบบที่อธิบดีกำหนดภายในเจ็ดวันนับแต่วันสิ้นเดือนของเดือนที่จ่ายเงินได้พึงประเมินนั้น ทั้งนี้ ให้นำมาตรา 54 มาใช้บังคับโดยอนุโลม



อ้างอิง

เรื่อง

การรับรู้รายได้ค่าห้อง Agoda

แหล่งที่มา

Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

วันที่

วันที่ถาม 08/11/2022 - วันที่ตอบ 16/11/2022

ประเภทภาษี

ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย,ภาษีเงินได้นิติบุคคล,ภาษีมูลค่าเพิ่ม

ข้อกฎหมาย

มาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร

ปุจฉา

การรับรู้รายได้ค่าห้อง Agoda เรารับรู้ยอดเต็มใช่มั้ยคะ แล้วค่อยหักค่าคอมทีหลังแต่เอกสารค่าคอมฯ ไม่มีให้เราค่ะ ตัวอย่างเอกสารแจ้งมาแบบนี้ค่ะ

วิสัชนา

เป็นคำถามที่ถามกันเข้ามาบ่อยๆ จึงนำคำตอบเก่ามาโพสต์ให้อีกครั้งหนึ่ง ด้งนี้

บริษัทฯ จดทะเบียนจัดตั้งในประเทศไทย ประกอบธุรกิจการให้เช่าห้องพัก แบบโฮมสเตย์ ลูกค้าที่เข้ามาพักจะมีทั้ง Walk In และจองผ่านตัวแทน บริษัทฯ จะมีการทำสัญญาบริการสำรองห้องพักโรงแรมทางออนไลน์ กับตัวแทน และให้ค่าคอมมิชชั่น เป็นค่าตอบแทน ดังนี้

    กรณีที่ 1บริษัทฯ ทำสัญญากับตัวแทน คือ Agoda Company Pte Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนที่ประเทศสิงคโปร์ ให้ค่านายหน้า 15% ของอัตราการขาย เมื่อลูกค้าเข้ามาใช้บริการจองห้องพักผ่านระะบบออนไลน์ ณ วันจองระบบจะให้ลูกค้าทำการชำระค่าห้องด้วยบัตรเครดิตและจะตัดเงินจากบัตรต่อเมื่อลูกค้าเดินทางออกจากที่พักแล้ว เงินดังกล่าวทาง Agoda จะเป็นผู้เรียกเก็บ ทางบริษัทฯ จะเรียกเก็บกับทาง Agoda ทุกสิ้นเดือน และทาง Agoda จะโอนยอดเงินหลังจากหักค่าคอมมิชชั่นให้กับทางบริษัทฯ

    กรณีที่ 2บริษัทฯ ทำสัญญากับตัวแทน คือBooking.comซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนและมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ให้ค่านายหน้า 15% ของอัตราการขาย ลูกค้าเข้ามาใช้บริการจองห้องพักผ่านระะบบออนไลน์ และเมื่อลูกค้าเดินทางเข้ามาพักถึงจะทำการจ่ายชำระค่าห้องพักให้กับบริษัทฯ และทางบริษัทฯ จะโอนค่าคอมมิชชั่นให้กับทางBooking.comทุกสิ้นเดือน

    กรณีที่ 3บริษัทฯ ทำสัญญากับตัวแทน คือ Hostel world ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนและมีสำนักงานอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย ให้ค่านายหน้า 12 - 15% ของอัตราการขาย ลูกค้าเข้ามาใช้บริการจองห้องพักผ่านระะบบออนไลน์ ระบบจะให้ลูกค้าทำการจ่าย 15% ณ วันจองและเมื่อลูกค้าเดินทางเข้ามาพักถึงจะทำการจ่ายชำระค่าห้องพักอีก 85% ให้กับบริษัทฯ ส่วน 15% นั้น ทาง Hostel world จะไม่โอนมาให้บริษัทฯ

    ทั้ง 3 กรณีดังกล่าว เพื่อให้บริษัทเหล่านั้นเป็นตัวแทน (Broker) ในการหาลูกค้าเพื่อใช้บริการโรงแรมของบริษัทฯ ตามราคาที่ตกลงกัน

    1. บริษัทฯ จะต้องออกใบกำกับภาษีขาย เมื่อมีการรับชำระราคาด้วยบัตรเครดิตทั้งโดยตัวแทน และบริษัทฯ เอง ทั้งกรณีเงินค่าบริการล่วงหน้า และชำระค่าห้องพักทั้งหมดที่โรงแรม

    2. ที่ถูกต้องบริษัทฯ ต้องออกใบกำกับภาษีขายให้แก่ลูกค้าผู้เข้าพักแรมกับบริษัทฯ

    3. บริษัทฯ ต้องรับรู้รายได้ตามเกณฑ์สิทธิเมื่อลูกค้าได้ใช้บริการเรียบร้อยแล้ว

    4. ค่าคอมมิชชั่นที่จ่ายนั้น ไม่อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร เพราะเป็นการจ่ายเงินได้ที่เป็นกำไรจากธุรกิจให้แก่บริษัทในประเทศที่มีอนุสัญญาภาษีซ้อนกับประเทศไทย บริษัทฯ จึงไม่ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.54

        สำหรับแบบ ภ.พ.36 นั้น ให้แยกพิจารณาดังนี้

        (1) กรณีลูกค้าเป็นชาวต่างประเทศที่อยู่ในต่างประเทศที่จะเข้ามาใช้บริการในประเทศไทย บริษัทฯ ไม่ต้องยื่นแบบ ภ.พ.36 เพราะเป็นบริการที่ให้ในต่างประเทศ และใช้บริการนั้นในต่างประเทศ

        (2) กรณีลูกค้าในประเทศไทย บริษัทฯ ต้องยื่นแบบ ภ.พ.36 เพื่อนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม เพราะเป็นบริการที่ให้ในต่างประเทศ และใช้บริการนั้นในประเทศไทย

    5. บริษัทฯ ได้รับเงินได้สุทธิจากอโกด้าโอนเงินมาให้ด้วยยอดสุทธิหลังหักค่านายหน้าไปแล้ว การบันทึกส่วนต่างเป็นค่าใช้จ่ายนายหน้าด้วยเอกสารสัญญาตั้งตัวแทน เพราะอโกด้าไม่ให้ใบเสร็จค่านายหน้า แต่อย่างใด และให้ใช้เอกสารทำขึ้นมาเองตามคู่มือการจัดทำเอกสารประกอบการลงบัญชีที่ถือเป็นรายจ่ายทางภาษีอากรได้ ที่กรมสรรพากรได้วางแนวทางปฏิบัติให้ใช้กรณีไม่ได้ใบเสร็จโดยแนบกับรายการโอนเงินได้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ

คลิ๊กที่นี่ เพื่อติดตาม FB เพจ "อาจารย์ สุเทพ พงษ์พิทักษ์"


เรื่อง

การให้บริการห้องพักโดยผ่านผ่านเวบไซต์ของ Agoda แห่งประเทศสิงคโปร์

แหล่งที่มา

Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

วันที่

วันที่ถาม 21/02/2021 - วันที่ตอบ 14/03/2021

ประเภทภาษี

ภาษีมูลค่าเพิ่ม

ข้อกฎหมาย

-

ปุจฉา

     บริษัทฯ ประกอบกิจการห้องพักให้เช่ารายวัน (โรงแรม) ได้ตกลงทำสัญญากับ Agoda Company Pte Ltd. แห่งประเทศสิงคโปร์ เพื่อให้เป็นตัวแทน (Broker) ในการหาลูกค้าเพื่อใช้บริการโรงแรมของบริษัทฯ ตามราคาที่ตกลงกัน

     1. การจองห้องพักในโรงแรมในประเทศไทย ผ่านเวบไซต์ของ Agoda แห่งประเทศสิงคโปร์ ในส่วนของโรงแรม นั้น ถือว่า บริษัทฯ (โรงแรม) มี Agoda เป็นลูกค้า ลูกค้าที่เข้าพักเป็นลูกค้าของ Agoda อีกต่อหนึ่ง ซึ่งบริษัทฯ (โรงแรม) มีหน้าที่ออกหลักฐานในกำกับภาษีให้แก่ Agoda ตามราคาที่ตกลงกัน ซึ่งในที่นี้คือ 800 บาท แม้ Agoda จะนำไปขายต่อในราคาที่บวกเพิ่มอีก 17% ก็เป็นสิทธิของ Agoda ไม่เกี่ยวกับทางบริษัทฯ (โรงแรม) แต่อย่างใด

     ....มีประเด็นว่าระหว่างราคา 800 บาท กับราคา 800 บาทบวกเพิ่มอีก 17% (136 บาท) รวมเป็น 936 บาท ราคาใดเป็น "ราคาตลาด" ตามมาตรา 79/3 แห่งประมวลรัษฎากร อันนี้ ก็ต้องตอบว่าทั้งสองราคาเป็นราคาตลาดด้วยกันทั้งคู่ กรณีของโรงแรม เมื่อตกลงกับ Agoda ไว้ที่ราคา 800 บาท จะใช้ราคา 800 บาท บวกด้วย 17% ดังเช่นที่ Agoda เรียกเก็บจากลูกค้าเป็นฐานภาษีไม่ได้ เพราะ Agoda ไม่ใช่ตัวแทนหาลูกค้าให้แก่ทางโรงแรม แต่ต้อง Treat หรือปฏิบัติต่อ Agoda ว่าเสมือนเป็นลูกค้าของทางบริษัท (โรงแรม) ซึ่งทางบริษัท (โรงแรม) ไม่เคยให้ค่าคอมมิชชั่นแก่ Agoda เป็นแต่ Agoda ไปเรียกเก็บจากลูกค้าของตนเองเพิ่มเติมเอง

     2. สัญญาของทางบริษัท (โรงแรม) กับ Agoda ไม่จำเป็นต้องเป็นลายลักษณ์อักษร หากเป็นแต่เพียงข้อกำหนด หรือข้อตกลงกันซึ่งอาจผ่านระบบ e-mail หรือหลักฐานอื่น ก็ย่อมนำไปแสดงต่อเจ้าพนักงานสรรพากร เพื่อใช้ประกอบการชี้แจงเกียวกับลักษณะการประกอบกิจการของทางโรงแรมได้

     3. บริษัทฯ (โรงแรม) ต้องรับรู้รายได้จากการให้บริการเมื่อได้ให้บริการแก่ลูกค้าของ Agoda จบเสร็จสิ้น และออกใบกำกับภาษีขาย เมื่อบริษัทฯ ได้รับชำระราคาค่าจาก Agoda โดยออกใบกำกับภาษีขายให้แก่ Agoda ไม่ใช่ลูกค้าของ Agoda ผู้เข้าพักแรมกับบริษัทฯ

     4. เนื่องจากบริษัทฯ มิได้มีการจ่ายค่าคอมมิชชั่นใดๆ ให้แก่ Agoda บริษัทฯ จึงไม่ต้องคำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร และไม่ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.54 รวมทั้งไม่ต้องยื่นแบบ ภ.พ.36 นั้น ตามมาตรา 83/6 (2) แห่งประมวลรัษฎากร แต่อย่างใด

     5. บริษัทฯ ไม่ต้องออกใบเสร็จรับเงินให้แก่ลูกค้าที่จองห้องพักผ่าน Agoda หากแต่ต้องไปขอใบเสร็จจาก Agoda เอาเอง

ข้อหารือ วันที่ 2 เมษายน 2561 ก็ตอบเหมือนกันอันนี้เลยค่ะ

     ส่วนวันนี้ที่อบรบกับอาจารย์ วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2564 อาจารย์บอกว่า ใบกำกับภาษีต้องออกยอดเต็มให้ Agoda แต่จริงๆ แล้ว เราขายห้องให้ Agoda แล้ว Agoda เอาไปขายต่อ ถูกมั้ยค่ะ เราควรจะทำตามข้อหารือแรก ที่อาจารย์เคยตอบตามวันที่ 13 เมษายน 2561 รึเปล่าค่ะ รบกวนอาจารย์ช่วยด้วยน่ะค่ะขอบพระคุณมากๆค่ะ

     ส่วนเวลามีการจองห้องมากับ Agoda รายละเอียดการจองห้องก็เป็น Agoda ไม่ได้เป็นชื่อลูกค้าที่มาพักน่ะค่ะ

     การทำงานของอโกด้าคือเค้าซื้อห้องไปที่ราคาตามที่ตกลงกันไว้ กับโรงแรม แล้วเค้าก็จ่ายเงิน ให้เราตามราคาที่ตกลงกับเรา เค้าเอาห้องของเราไปขายบนเว็ป ของเค้าอีกทีโดยที่ไม่เกี่ยวกับเราว่าจะเค้าจะขายราคาเท่าไหร่ ส่วนแต่booking.comกับ hotel world เค้าเป็นนายหน้าในการจองห้องให้เรา และลูกค้าก็จะจ่าย ให้เราโดยตรง และเราก็จ่ายค่าคอมมิชชั่นให้เค้า

Booking.com: The largest selection of hotels, homes, and vacation rentals

Whether you’re looking for hotels, homes, or vacation rentals, you’ll always find the guaranteed best price. Browse our 2,563,380 accommodations in over 85,000 destinations.

booking.com

     การทำงานของอโกดาคือ เราขายห้องให้อโกด้าโดยตรง ตามราคาที่ตกลงกันไว้ แล้วอโกด้าเอาไปขายต่อ ส่วนราคาที่ขายต่อก็แล้วแต่ Agoda ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกันกับบริษัทแล้ว Agoda ก็คือลูกค้าของบริษัท ไม่ใช่นายหน้าที่เราต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่น อันนี้หนูเข้าใจถูกมั้ยค่ะ พอดีหนูสับสนค่ะ ทำไม่ถูกเลยค่ะรบกวนขอคำแนะนำด้วยน่ะค่ะ

วิสัชนา

เกี่ยวกับการให้บริการห้องพักโดยผ่านเวบไซต์ของ Agoda แห่งประเทศสิงคโปร์ นั้น หากข้อเท็จจริงเปลี่ยนไปเป็นว่า บริษัทฯ ขายห้องให้อโกด้าโดยตรง ตามราคาที่ตกลงกันไว้ แล้ว Agoda เอาไปขายต่อ ส่วนราคาที่ขายต่อก็แล้วแต่ Agoda ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกันกับบริษัทแล้ว Agoda ก็คือลูกค้าของบริษัทฯ ไม่ใช่นายหน้าที่เราต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่น เช่นนี้ บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องออกใบกำกับภาษีให้แก่ Agoda ไม่ใช่ลูกค้าตามที่ได้ตอบในการสัมมนาเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 ครับ

ประเด็นปัญหา จึงขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงว่า บริษัทฯ deal กับ Agoda ในรูปแบบใด ไม่อาจยึดคำตอบใดคำตอบหนึ่งได้ครับ



ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆมาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ

คลิ๊กที่นี่ เพื่อติดตาม FB เพจ "อาจารย์ สุเทพ พงษ์พิทักษ์ "





หมายเหตุ : TAX CASE STUDY จาก Tax-EZ Website เป็นเพียงเคสตัวอย่างเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลก่อนนำไปใช้อ้างอิง
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การท่องเว็บที่ดีขึ้น ข้อตกลงและนโยบายความเป็นส่วนตัว
ยอมรับ