Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

สแกนคิวอาร์ บริจาคเงินให้วัดต่างๆ สามารถนำมาหักลดหย่อนได้ไหมค
เรื่อง | สแกนคิวอาร์ บริจาคเงินให้วัดต่างๆ สามารถนำมาหักลดหย่อนได้ไหมค |
แหล่งที่มา | Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ |
วันที่ | วันที่ถาม 02/04/2025 - วันที่ตอบ 23/04/2025 |
ประเภทภาษี | ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา,ภาษีเงินได้นิติบุคคล,ภาษีมูลค่าเพิ่ม |
ข้อกฎหมาย | มาตรา 47 (7) (ข) แห่งประมวลรัษฎากร, พระราชกฤษฎีกาฯ ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 239) พ.ศ. 2534 |
ปุจฉา | กรณีสแกนคิวอาร์ บริจาคเงินให้วัดต่างๆ สามารถนำมาหักลดหย่อนได้ไหมคะ |
วิสัชนา | 1. ตามประกาศกรมสรรพากร เรื่อง การบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ลงวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 กรมสรรพากรได้ออกประกาศเกี่ยวกับการบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่หน่วยรับบริจาคในการบันทึกข้อมูลการรับบริจาค โดยไม่ต้องออกเอกสารหลักฐานการรับบริจาคให้ผู้บริจาค และผู้บริจาคสามารถนำเงินหรือทรัพย์สินที่บริจาคให้แก่หน่วยรับบริจาคไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้ตามมาตรา 47 (7) แห่งประมวลรัษฎากร หรือหักเป็นรายจ่ายของบริษัทและห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามมาตรา 65 ตรี (3) แห่งประมวลรัษฎากร หรือยกเว้นภาษีเงินได้ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในมาตรา 3 (1) แห่งประมวลรัษฎากร หรือกฎกระทรวงออกตามความในมาตรา 42 (17) แห่งประมวลรัษฎากรได้ โดยไม่ต้องมีเอกสารหลักฐานการบริจาคให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ดังต่อไปนี้ “ข้อ 1 ในประกาศนี้ “หน่วยรับบริจาค” หมายความว่า หน่วยรับบริจาคที่ผู้บริจาคได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร “ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation)” หมายความว่า ระบบที่ใช้สร้างและเก็บรักษาข้อมูลการบริจาคในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร “ธนาคาร” หมายความว่า ธนาคารตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน และธนาคารที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น ซึ่งได้ทำบันทึกข้อตกลงการรับส่งข้อมูลการรับบริจาคของหน่วยรับบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) กับกรมสรรพากร ข้อ 2 ให้หน่วยรับบริจาคมีและใช้เลขประจำตัวหน่วยรับบริจาค สำหรับการเปิดบัญชีเงินฝากธนาคารเพื่อรับบริจาค หรือการลงทะเบียนเป็นผู้ใช้งานระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th ดังนี้ (1) หน่วยรับบริจาคที่มีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร ให้ใช้เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรนั้นเป็นเลขประจำตัวหน่วยรับบริจาค (2) หน่วยรับบริจาคที่เป็นหน่วยงานในสังกัดของทางราชการ องค์การของรัฐบาลสภากาชาดไทย หรือนิติบุคคลอื่น ซึ่งมีและใช้เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรหมายเลขเดียวกับหน่วยงานต้นสังกัด ให้หน่วยรับบริจาคดังกล่าวยื่นค าขอมีและใช้เลขประจำตัวหน่วยรับบริจาค ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่หรือสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาในเขตท้องที่ที่หน่วยรับบริจาคตั้งอยู่ (3) หน่วยรับบริจาคอื่นนอกจากที่ระบุไว้ใน (1) และ (2) ให้ยื่นค าขอมีและใช้เลขประจำตัวหน่วยรับบริจาค ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่หรือสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาในเขตท้องที่ที่หน่วยรับบริจาคตั้งอยู่ เลขประจำตัวหน่วยรับบริจาคตาม (2) และ (3) มิใช่เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร ข้อ 3 หน่วยรับบริจาคที่รับบริจาคผ่านธนาคารโดย QR Code หรือ Bar Code ให้ปฏิบัติดังนี้ (1) เปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารโดยผู้มีอำนาจกระทำการแทนหน่วยรับบริจาคและใช้ชื่อบัญชีหน่วยรับบริจาคเพื่อรับบริจาคโดย QR Code หรือ Bar Code (2) ทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรตั้งตัวแทนและมอบอำนาจให้ธนาคารส่งข้อมูลการรับบริจาคของหน่วยรับบริจาคให้กรมสรรพากร โดยกำหนดให้ธนาคารส่งข้อมูลการรับบริจาคให้กรมสรรพากรภายในสองวันทำการนับแต่วันที่หน่วยรับบริจาคได้รับบริจาค ตามรูปแบบและวิธีการส่งข้อมูลการรับบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ที่ธนาคารได้ทำไว้กับกรมสรรพากร ข้อ 4 หน่วยรับบริจาคที่รับบริจาคโดยวิธีอื่นนอกจากที่ระบุไว้ในข้อ 3 ให้ปฏิบัติดังนี้ (1) ลงทะเบียนเป็นผู้ใช้งานระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th โดยต้องกรอกข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วนตามความเป็นจริง (2) หน่วยรับบริจาคโดยผู้มีอำนาจกระทำการแทนหน่วยรับบริจาคหรือผู้รับมอบอำนาจต้องมาแสดงตัวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ของกรมสรรพากร ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่หรือสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาในเขตท้องที่ที่หน่วยรับบริจาคตั้งอยู่ พร้อมเอกสารหลักฐานดังนี้ (ก) ใบลงทะเบียนระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ตาม (1) พร้อมลงลายมือชื่อของผู้มีอำนาจกระทำการแทนหน่วยรับบริจาค (ข) สำเนาหนังสือรับรองการจัดตั้งหน่วยรับบริจาค พร้อมลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง (ค) สำเนาหนังสือการแต่งตั้งผู้มีอำนาจกระทำการแทนหน่วยรับบริจาคพร้อมลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง (ง) หนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีอำนาจกระทำการแทนหน่วยรับบริจาคพร้อมลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง กรณีมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมาแสดงตัวและยื่นเอกสารหลักฐานแทน (3) เมื่อหน่วยรับบริจาคได้รับอนุมัติให้เป็นผู้ใช้งานระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) แล้ว หน่วยรับบริจาคจะได้รับชื่อผู้ใช้งาน (Username) ผ่านที่อยู่จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Email Address) ของหน่วยรับบริจาคที่ระบุไว้ในใบลงทะเบียนระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) และให้หน่วยรับบริจาคเป็นผู้กำหนดรหัสผ่าน (Password) ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th เพื่อเข้าใช้งานระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) (4) ชื่อผู้ใช้งาน (Username) และรหัสผ่าน (Password) เป็นหลักฐานแสดงการลงลายมือชื่อของหน่วยรับบริจาคในการใช้งานระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th หน่วยรับบริจาคต้องเก็บรักษาชื่อผู้ใช้งาน (Username) และรหัสผ่าน (Password) ไว้เป็นความลับ การระบุชื่อผู้ใช้งาน (Username) และรหัสผ่าน (Password) เข้าใช้งานระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ถือเป็นการยืนยันหน่วยรับบริจาคและรับรองข้อความในข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (5) กรณีหน่วยรับบริจาคต้องการแก้ไขข้อมูลที่ลงทะเบียนไว้เพื่อใช้ในการอ้างอิงหรือยืนยันหน่วยรับบริจาค เช่น ชื่อ-นามสกุล และเลขประจำตัวประชาชนของผู้มีอำนาจกระทำการแทนหน่วยรับบริจาค ที่อยู่จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Email Address) หมายเลขโทรศัพท์ ให้หน่วยรับบริจาคทำการแก้ไขข้อมูลดังกล่าวผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th การติดต่อหน่วยรับบริจาคไปยังที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หรือที่อยู่จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Email Address) ที่กรมสรรพากรได้รับแจ้งไว้ ถือว่าเป็นการติดต่อโดยชอบจนกว่าจะได้มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลที่ลงทะเบียนไว้ตามวรรคหนึ่ง (6) ให้หน่วยรับบริจาคทำการบันทึกและส่งข้อมูลการรับบริจาค ผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th ในวันที่รับบริจาคหรือภายในวันที่ 5 ของเดือนถัดไป โดยไม่ต้องออกเอกสารหลักฐานการรับบริจาคให้ผู้บริจาค เว้นแต่ผู้บริจาคจะร้องขอให้ออกเอกสารหลักฐานการรับบริจาค ข้อ 5 ผู้บริจาคที่มีความประสงค์จะใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรตามประมวลรัษฎากรให้ปฏิบัติดังนี้ (1) กรณีบริจาคให้หน่วยรับบริจาคที่รับบริจาคผ่านธนาคารโดย QR Code หรือ Bar Code ตามข้อ 3 ให้ผู้บริจาคทำการสแกน QR Code หรือ Bar Code ผ่าน Mobile Banking ซึ่งจะต้องปรากฏข้อความว่า “e-Donation ชื่อและเลขประจำตัวหน่วยรับบริจาค” และระบุจำนวนเงินบริจาค พร้อมแจ้งความประสงค์ให้ธนาคารส่งข้อมูลการบริจาคให้กรมสรรพากร (2) กรณีบริจาคให้หน่วยรับบริจาคที่รับบริจาคโดยวิธีอื่นตามข้อ 4 ให้ผู้บริจาคแจ้งหน่วยรับบริจาคทำการบันทึก ชื่อ เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร จำนวนเงินหรือมูลค่าของทรัพย์สินที่บริจาค และวันเดือนปีที่บริจาค บนระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th (3) ตรวจสอบรายชื่อหน่วยรับบริจาคและข้อมูลการบริจาคของตน ผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th ข้อ 6 ข้อมูลการบริจาคที่ปรากฏในระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ถือเป็นหลักฐานประกอบการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรตามประมวลรัษฎากรของผู้บริจาค โดยไม่ต้องแสดงเอกสารหลักฐานการบริจาคนั้นต่อเจ้าพนักงานประเมิน ข้อ 7 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับสำหรับการบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป” 2. คำถาม - คำตอบ ระบบบริจำคอิเล็กทรอนิกส์ 2.1 ระบบบริจำคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) คือ อะไร ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ เป็นระบบที่กรมสรรพากรพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในการรองรับข้อมูลการรับบริจาคของสถานศึกษา ศาสนสถาน สถานพยาบาล องค์กรสาธารณกุศล และหน่วยรับบริจาคอื่น ๆ ที่กฎหมายกำหนดให้สามารถนำการบริจาคมาใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บริจาค ให้สามารถใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้โดยไม่ต้องเก็บหลักฐานการบริจาคมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริจาคได้รับเงินคืนภาษีได้รวดเร็วขึ้น โดยมีช่องทางการรับข้อมูลได้ 2 ช่องทาง ดังนี้ (1) กรณีรับบริจาคเป็นเงินสด หน่วยรับบริจาคจะเป็นผู้บันทึกข้อมูลการรับบริจาคบนระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (2) กรณีรับบริจาคโดยผ่าน QR Code สถาบันการเงินเป็นผู้ให้บริการ และจะเป็นผู้ส่งข้อมูลการรับบริจาคให้กรมสรรพากรตามที่ผู้บริจาคแจ้งความประสงค์ 2.2 หน่วยรับบริจาค คือ ใคร หน่วยรับบริจาค ได้แก่ • สถานศึกษา • ศาสนสถานทุกศาสนา • สถานพยาบาลของรัฐ • องค์การ สถานสาธารณกุศล ที่ได้รับการประกาศให้เป็นองค์กรสาธารณกุศล ตามประกาศกระทรวงการคลังว่าด้วยภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 2) เรื่อง กำหนดองค์การ สถานสาธารณกุศล สถานพยาบาลและสถานศึกษา ตามมาตรา 47 (7) (ข) แห่งประมวลรัษฎากร และมาตรา 3 (4) (ข) แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 239) พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 254) พ.ศ. 2535 • หน่วยรับบริจาคอื่น ๆ ที่กฎหมายกำหนดให้สามารถนำการบริจาคมาใช้สิทธิ ลดหย่อนภาษีได้ 2.3 ผู้บริจาคที่ประสงค์จะขอใช้สิทธิลดหย่อนทางภาษีผ่านระบบบริจำคอิเล็กทรอนิกส์ต้องทำอย่ำงไร ผู้บริจาคหากต้องการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากการบริจาค จะต้องแสดงความประสงค์ในการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีดังนี้ • กรณีบริจาคด้วยเงินสดที่หน่วยรับบริจาค ให้แจ้งหน่วยรับบริจาคบันทึกข้อมูลการบริจาค บนระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ทันที • กรณีบริจาคผ่านธนาคารพาณิชย์โดยการโอนเงินด้วย QR Code ผู้บริจาคต้องแสดงความประสงค์ผ่านระบบของธนาคารพาณิชย์ที่เป็นตัวกลางรับบริจาค ให้ส่งข้อมูลการบริจาค ดังกล่าวให้กรมสรรพากร เมื่อดำเนินการตามข้างต้น ข้อมูลการบริจาคจะเข้ามาเก็บอยู่ในฐานข้อมูลของกรมสรรพากร และเมื่อถึงเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ ผู้บริจาคสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากการบริจาคได้ทันที 2.4 ขั้นตอนกำรบริจำคเงินผ่านธนาคารพาณิชย์ (QR Code) และการใช้สิทธิลดหย่อนภาษี การบริจาคเงินและแจ้งความประสงค์ส่งข้อมูลเพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษี มีขั้นตอนดังนี้ (1) ประชาชนเลือกใช้ Mobile Banking ของธนาคารใดก็ได้ที่เข้าร่วมโครงการ โดย Download Mobile Banking Application (2) เข้าสู่ Menu การบริจาคเงินผ่าน QR Code สแกน QR Code ของหน่วยรับบริจาค และใส่จำนวนเงินบริจาค โดย Application จะมีข้อความแจ้งความประสงค์ส่งข้อมูลเพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษี ข้อมูลการบริจาคจะถูกบันทึกในระบบ e-Donation ภายใน 2 วันทำการถัดไป 2.5 กำรบริจำคเงินผ่าน QR Code ในโครงการ e-Donation มีค่าธรรมเนียมหรือไม่ การบริจาคเงินผ่าน QR Code ในโครงการระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ไม่มีค่าธรรมเนียมแต่อย่างใด - 2.6 ผู้บริจาคโอนเงินด้วย QR Code จะทรำบได้อย่างไรว่าสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้หรือไม่ การบริจาคผ่าน QR Code ที่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้จะต้องมีลักษณะ ดังนี้ (1) แผ่นป้าย QR Code ต้องมีข้อความ “e-Donation” และชื่อบัญชีเงินฝาก “หน่วยรับบริจาค” (2) เมื่อสแกน QR Code ของหน่วยรับบริจาคให้ผู้บริจาคสังเกต ดังนี้ (ก) เป็นการโอนเงินไปยังบัญชีเงินฝากของ “หน่วยรับบริจาค” (ข) Application จะมีข้อความแจ้งความประสงค์ส่งข้อมูลเพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษี โดยผู้บริจาคต้องแสดงความประสงค์ให้ธนาคารส่งข้อมูลดังกล่าวให้กรมสรรพากรด้วย ต่อข้อถาม ขอเรียนว่า กรณีผู้มีเงินได้สแกนคิวอาร์ บริจาคเงินให้วัดต่างๆ สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ตามมาตรา 47 (7) (ข) แห่งประมวลรัษฎากร และได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการบริจาคสินค้าตามมาตรา 3 (4) (ข) แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 239) พ.ศ. 2534 ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ |