Case study

การยื่น ภ.ง.ด.93 เรื่อง สิทธิเก็บกิน


เรื่อง การยื่น ภ.ง.ด.93 เรื่อง สิทธิเก็บกิน
แหล่งที่มา Case study
วันที่ 13/12/2023
ประเภทภาษี ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ข้อกฎหมาย
คำถาม

การยื่น ภ.ง.ด.93 เรื่องสิทธิเก็บกิน นาย ก. เซ็นสัญญาปี 2566 (มีการจ่ายเงินมัดจำ) แต่ว่าสัญญาเริ่มปี 2567  

คำถาม  การคำนวนรายได้ให้เริ่มตั้งแต่วันใดคะ

คำตอบ

คำตอบ


    1. การคำนวณรายได้ให้เริ่ม ณ วันที่ทำสัญญา คือ ปี 2567 

    2. แต่การยื่นแบบ ภ.ง.ด.93 ให้ยื่นแบบภายในเดือน มีนาคม 2567 ตามข้อ 2 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 151/2558 เรื่อง การเสียภาษีเงินได้ กรณีเงินกินเปล่าหรือเงินได้อื่นในลักษณะทำนองเดียวกัน ลงวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2558


 


ยกตัวอย่างเช่น


    บุคคลธรรมดาทำสัญญาให้เช่าที่ดินและอาคาร สัญญาลงวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ.2566  เป็นการทำสัญญาเช่าล่วงหน้า ระยะเวลาการเช่า เริ่ม 1 มกราคม พ.ศ.2567 ถึง 31 ธันวาคม พ.ศ.2570 (3 ปี) ผู้เช่าตกลงชำระค่าเช่ามัดจำล่วงหน้า ณ วันที่ทำสัญญา จำนวน 600,000 บาท นั้น

    ผู้ให้เช่าสามารถขอใช้สิทธิตามประกาศกระทรวงการคลังฯ ลงวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 โดยนำเงินกินเปล่า (เงินมัดจำ) จำนวน 600,000 บาท ไปเฉลี่ยเป็นเงินได้พึงประเมินของปีภาษี 2567 ถึงปีภาษี 2570 จำนวน 3 ปี คิดเป็นเงินได้พึงประเมินถัวเฉลี่ยปีละ 200,000 บาท ดังนี้

    สำหรับปี พ.ศ. 2567 เป็นเงิน 200,000 บาท

    สำหรับปี พ.ศ. 2568 เป็นเงิน 200,000 บาท

    สำหรับปี พ.ศ. 2569 เป็นเงิน 200,000 บาท


    แล้วดำเนินการยื่นแบบ ภ.ง.ด. 93 จำนวน 3 ฉบับ และชำระภาษีเงินได้ของแต่ละปีภาษีทั้งหมด 3 ปี เป็นการล่วงหน้า (ถ้ามี) ให้เสร็จสิ้นไปภายในเดือน มีนาคม พ.ศ. 2567 และเมื่อถึงกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีภาษี 2567 ถึงปีภาษี 2570 ผู้มีเงินได้มีหน้าที่ต้องนำเงินกินเปล่าดังกล่าวมาคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยการยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 แล้วนำจำนวนภาษีที่ได้เสียไว้ตามแบบ ภ.ง.ด.93 มาหักจากภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่คำนวณได้ในแต่ละปีภาษีนั้น ทั้งนี้ ผู้มีเงินได้มีสิทธินำภาษีเงินได้ที่ถูกบริษัทจำกัด ผู้เช่าได้หักไว้ ณ ที่จ่ายทั้งจำนวน มาหักจากภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด.90 ประจำปีภาษี 2567 ได้ด้วย


    “สิทธิเก็บกิน” ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1417 เป็นทรัพย์สิทธิชนิดหนึ่งที่เจ้าของยังคงมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์อยู่ เพียงแต่ยอมให้ผู้ทรงสิทธิเก็บกินเข้ามามีสิทธิครอบครอง ใช้ และถือเอาซึ่งประโยชน์แห่งทรัพย์สิน ตลอดจนมีอำนาจจัดการทรัพย์สินนั้นได้


อ้างอิงคำตอบ


เรื่อง

“สิทธิเก็บกิน”

แหล่งที่มา

Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

วันที่

วันที่ถาม 30/05/2020 - วันที่ตอบ 10/06/2020

ประเภทภาษี

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

ข้อกฎหมาย

ป.พ.พ. มาตรา 1417

ปุจฉา

มีเรื่องสอบถามดังนี้ครับลูกชาย และลูกสาว รวม 3 คน มีชื่อในโฉนดที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (อาคารที่พักอาศัยรายเดือน) ได้จดทะเบียนสิทธิเก็บกินให้กับมารดา อายุ 80 ปี และนำส่งภาษีเงินได้ ภ.ง.ด.94 ภ.ง.ด.90 ในนามของผู้ทรงสิทธิเก็บกิน (คือมารดา) หลังจากจดทะเบียนสิทธิเก็บกินมาโดยตลอด ปรากฏว่าเมื่อต้นปี 2563 ที่ผ่านมา ผู้ทรงสิทธิเก็บกินได้ถึงแก่กรรม (ตายระหว่างปีภาษี)
 คำถาม
      1. กรณีที่ยังไม่ได้แต่งตั้ง ผู้จัดการมรดกใดๆ หรือ ยังไม่ได้แก้ไขทางทะเบียนที่กรมที่ดิน เรื่องผู้ทรงสิทธิเก็บกินเสียชีวิตแล้ว การนำส่งภาษีเงินได้ ที่เกิดจากรายได้ของปี 2563 ยังต้องนำส่งในนามของผู้ทรงสิทธิเก็บกิน (มารดา) ต่อไป 
ทั้งแบบ ภ.ง.ด.94 และ แบบ ภ.ง.ด.90 ถูกต้องหรือไม่ครับ โดยจะถือว่าเป็นเงินได้ระหว่างปีภาษีของผู้เสียชีวิต (ผู้ทรงสิทธิเก็บกิน)
      2. เรื่องที่ผมไม่ทราบแน่ชัดคือ
กรณีที่ผู้ทรงสิทธิเก็บกินเสียชีวิต จะถือว่าสิทธินั้นจะหมดไปโดยปริยายหรือไม่ครับและ/หรือจะต้องกลับไปยื่นเสียภาษีเงินได้ในนามของคณะบุคคล 3 คน (ลูกชาย และลูกสาวรวม 3 คน) เหมือนเดิม
      3. 
หากต่อมา ได้ดำเนินการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงแก้ไข ผู้ทรงสิทธิเก็บกิน ให้ผู้ใดผู้หนึ่งจากบุคคลเดิม (มารดา) ก็จะต้องนำส่งภาษีเงินได้ในนามผู้ทรงสิทธิเก็บกินคนใหม่ต่อไป ถูกต้องหรือไม่ครับ โดยจะถือเอาวันที่จดทะเบียนสิทธิเก็บกินเสร็จสิ้น เป็นวันที่เริ่มมีรายได้เพื่อเสียภาษีเงินได้ ในปีภาษีนั้นๆ ถูกต้องหรือไม่ครับ

วิสัชนา

“สิทธิเก็บกิน” ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1417 เป็นทรัพย์สิทธิชนิดหนึ่งที่เจ้าของยังคงมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์อยู่ เพียงแต่ยอมให้ผู้ทรงสิทธิเก็บกินเข้ามามีสิทธิครอบครอง ใช้ และถือเอาซึ่งประโยชน์แห่งทรัพย์สิน ตลอดจนมีอำนาจจัดการทรัพย์สินนั้นได้

การจดทะเบียนสิทธิเก็บกินนั้น มีทั้งข้อดีและข้อเสียดังนี้
 
     ข้อดี คือ ไม่ต้องเสียค่าตอบแทน สามารถจดทะเบียนสิทธิให้สิทธิเก็บกินตลอดชีวิตของผู้ทรงสิทธิได้ รวมทั้งผู้ทรงสิทธิเก็บกินสามารถเอาทรัพย์ให้ผู้อื่นเช่าและเก็บค่าเช่าได้
 
     ข้อเสีย คือ ผู้ทรงสิทธิไม่ได้กรรมสิทธิ์, ถ้าผู้ทรงสิทธิตาย สิทธิเก็บกินระงับ โอนทางมรดกไม่ได้ อีกทั้งเจ้าของทรัพย์อาจจดทะเบียนสิทธิเก็บกินให้แก่บุคคล 2 คนในเวลาเดียวกันก็ได้ เนื่องจากไม่มีกฎหมายห้ามไว้อย่างชัดแจ้ง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าระยะเวลาที่ยาวนานกว่าสำหรับการจดทะเบียนสิทธิเก็บกินนั้น เป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนต่างด้าวที่ต้องการอาศัยอยู่ในประเทศไทยมากกว่า 30 ปี เมื่อเทียบกับการจดทะเบียนเช่าซึ่งสามารถกำหนดระยะเวลาได้สูงสุดเพียง 30 ปี เท่านั้น...

สำนักงานกฎหมายธนู
http://thanulaw.com/
…/aboutu-s/13-uncategorized/102-usufruct


ต่อข้อถามขอเรียนว่า

     ลูกชายและลูกสาว รวม 3 คน มีชื่อในโฉนดที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (อาคารที่พักอาศัยรายเดือน) ได้จดทะเบียนสิทธิเก็บกินให้กับมารดา อายุ 80 ปี และนำส่งภาษีเงินได้ ภ.ง.ด.94 ภ.ง.ด.90 ในนามของผู้ทรงสิทธิเก็บกิน (คือมารดา) หลังจากจดทะเบียนสิทธิเก็บกินมาโดยตลอด ต่อมา เมื่อต้นปี พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา ผู้ทรงสิทธิเก็บกินได้ถึงแก่กรรม (ตายระหว่างปีภาษี) ลง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ว่าด้วยสิทธิเก็บกิน ท่านให้ถือว่า สิทธิเก็บกินดังกล่าวย่อมระงับสิ้นไป เงินได้จากการให้เช่าที่พักอาศัยจึงต้องกลับคืนไปสู่บุตรทั้งสามท่านในฐานะห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน

     1. กรณีที่ยังไม่ได้แต่งตั้ง ผู้จัดการมรดกใดๆ หรือ ยังไม่ได้แก้ไขทางทะเบียนที่กรมที่ดิน เรื่องผู้ทรงสิทธิเก็บกินเสียชีวิตแล้ว การนำส่งภาษีเงินได้ ที่เกิดจากรายได้ของปีภาษี พ.ศ. 2563 ในช่วงที่มารดายังมีชีวิต ต้องนำส่งในนามของมารดาผู้ทรงสิทธิเก็บกินต่อไป ทั้งแบบ ภ.ง.ด.94 และ แบบ ภ.ง.ด.90 ทั้งนี้ เพียงเฉพาะเงินได้ที่ได้รับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2563 จนถึงวันที่มารดาถึงแก่กรรมเท่านั้น ต่อจากนั้น ให้ถือเป็นเงินได้ของบุตรทั้งสามที่มีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมทันที แม้ไม่ได้แก้ไขหลักฐานการจดทะเบียนสิทธิเก็บกินต่างทางราชการกรมที่ดินก็ตาม เนื่องจากสิทธิเก็บกินของมารดาระงับหรือสิ้นสุดลงทันที่ที่มารดาถึงแก่กรรม

     2. กรณีที่ผู้ทรงสิทธิเก็บกินเสียชีวิต จะถือว่าสิทธิดังกล่าว ระงับหรือสินสุดลงไปโดยปริยาย และต้องกลับไปยื่นเสียภาษีเงินได้ในนามของ ห้างห้นุส่วนสามัญ บุตรทั้ง 3 คน (ลูกชาย และลูกสาวรวม 3 คน) เหมือนเดิม

     3. หากต่อมา ได้ดำเนินการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงแก้ไข ผู้ทรงสิทธิเก็บกิน ให้ผู้ใดผู้หนึ่ง จากบุคคลเดิม (มารดา) ก็จะต้องนำส่งภาษีเงินได้ ในนามผู้ทรงสิทธิเก็บกินคนใหม่ต่อไป ถูกต้องแล้ว โดยจะถือเอาวันที่ได้จดทะเบียนสิทธิเก็บกินต่อทางราชการเสร็จสิ้น เป็นวันที่เริ่มมีเงินได้เพื่อเสียภาษีเงินได้ ในปีภาษีนั้นๆ ถูกต้องแล้วครับ



ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆมาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ

คลิ๊กที่นี่ เพื่อติดตาม FB เพจ "อาจารย์ สุเทพ พงษ์พิทักษ์ "





เรื่อง

บุคคลธรรมดา ทำสัญญาให้เช่าที่ดินและอาคาร 3 ปี ต้องนำส่งภงด.93 อย่างไร

แหล่งที่มา

Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

วันที่

วันที่ถาม 05/01/2023 - วันที่ตอบ 06/01/2023

ประเภทภาษี

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

ข้อกฎหมาย

ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การเสียภาษีเงินได้ของผู้มีเงินได้จากการให้เช่าทรัพย์สินที่ได้รับเงินกินเปล่า เงินแป๊ะเจี๊ยะ เงินค่าปลูกสร้าง เงินค่าซ่อมแซมฯ ลงวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2558, คำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 151/2558 

ปุจฉา

กรณีเป็นบุคคลธรรมดา ทำสัญญาให้เช่าที่ดินและอาคาร สัญญาลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เป็นการทำสัญญาเช่าล่วงหน้า ระยะเวลาการเช่าเริ่ม กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 ถึง กุมภาพันธ์ พ.ศ.2569 (3 ปี) ผู้เช่าตกลงชำระค่าหน้าดินล่วงหน้า ณ วันที่ทำสัญญา จำนวน 750,000 บาท

คำถาม

ต้องรับรู้รายได้ 750,000 ทั้งจำนวน ในปี 2565 ที่ทำสัญญาเลย หรือสามารถเฉลี่ยรายได้การรับรู้ หรือยื่น ภ.ง.ด.93 ได้หรือไม่

วิสัชนา

    กรมสรรพากรได้วางแนวทางปฏิบัติกรณีผู้เสียภาษีที่มีเงินได้จากการให้เช่าทรัพย์สิน ซึ่งได้รับเงินกินเปล่า เงินแป๊ะเจี๊ยะ เงินค่าปลูกสร้าง เงินค่าซ่อมแซมหรือได้รับกรรมสิทธิ์ในอาคารหรือโรงเรือน หรือเงินได้อื่นในลักษณะทำนองเดียวกัน (เงินกินเปล่า)ให้ถูกต้องตรงตามเจตนารมณ์ของประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การเสียภาษีเงินได้ของผู้มีเงินได้จากการให้เช่าทรัพย์สินที่ได้รับเงินกินเปล่า เงินแป๊ะเจี๊ยะ เงินค่าปลูกสร้าง เงินค่าซ่อมแซม หรือค่าแห่งอาคารหรือโรงเรือนที่ได้รับกรรมสิทธิ์ หรือเงินได้อื่นในลักษณะทำนองเดียวกัน ลงวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 ตามข้อ 1 และข้อ 2 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 151/2558 เรื่อง การเสียภาษีเงินได้ กรณีเงินกินเปล่าหรือเงินได้อื่นในลักษณะทำนองเดียวกัน ลงวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 ดังนี้

    “ข้อ 1 ผู้มีเงินได้ซึ่งได้รับเงินกินเปล่าที่สามารถเฉลี่ยเงินกินเปล่าตามส่วนแห่งจำนวนปีของอายุการเช่าได้ จะต้องเป็นผู้มีเงินได้ที่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คือ ผู้ให้เช่าที่เป็นบุคคลธรรมดาห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ผู้ถึงแก่ความตายระหว่างปีภาษี และกองมรดก

    ข้อ 2 ผู้มีเงินได้ซึ่งได้รับเงินกินเปล่าตั้งแต่ปีภาษี 2557 เป็นต้นไป โดยยอมให้ผู้เช่าได้เช่าที่ดิน อาคาร หรือโรงเรือนเป็นระยะเวลานาน เช่น 3 ปี 10 ปี หรือ 30 ปี จะต้องนำเงินได้ดังกล่าวไปยื่นรายการและชำระภาษีเงินได้ ดังนี้

         2.1 นำเงินกินเปล่าที่ได้รับทั้งจำนวนไปยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 90) และชำระภาษีภายในเดือนมีนาคมของปีถัดจากปีที่ได้รับเงินได้พึงประเมิน หรือ

         2.2 นำเงินกินเปล่าไปเฉลี่ยตามส่วนแห่งจำนวนปีของอายุการเช่า แล้วยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 93) และชำระภาษีเงินได้จากเงินได้ที่เฉลี่ยเป็นรายปีตามจำนวนปีของอายุการเช่าเป็นการล่วงหน้าให้เสร็จสิ้นไปภายในเดือนมีนาคมของปีถัดจากปีที่ได้รับเงินกินเปล่า ตามประกาศกระทรวงการคลังฯ ลงวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 ทั้งนี้ เมื่อถึงกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในแต่ละปีภาษี ผู้มีเงินได้มีหน้าที่ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด. 90 โดยนำเงินกินเปล่าตามส่วนที่ได้เฉลี่ยไว้ตามแบบ ภ.ง.ด. 93 ไปรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ แล้วนำจำนวนภาษีที่ได้เสียไว้ตามแบบ ภ.ง.ด. 93 มาหักจากภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่คำนวณได้ในแต่ละปีภาษี

              กรณีผู้มีเงินได้มิได้ดำเนินการตาม 2.1 และ 2.2 แต่ต่อมาได้นำเงินกินเปล่า มายื่นแบบ ภ.ง.ด. 93 โดยขอเฉลี่ยเงินกินเปล่าตามส่วนแห่งจำนวนปีของอายุการเช่า และชำระภาษี เงินได้จากเงินได้ที่เฉลี่ยเป็นรายปีตามจำนวนปีของอายุการเช่าเมื่อพ้นกำหนดเดือนมีนาคมของปีถัดจากปีที่ได้รับเงินกินเปล่า ผู้มีเงินได้ยังคงสามารถขอเฉลี่ยเงินกินเปล่าตามส่วนแห่งจำนวนปีของอายุการเช่าและยื่นแบบ ภ.ง.ด. 93 ได้ แต่ต้องเสียเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือนของเงินภาษีที่ต้องชำระ โดยให้คำนวณเงินเพิ่มเป็นรายปีภาษีตั้งแต่เดือนเมษายนของปีถัดจากปีที่ได้รับเงินกินเปล่าเป็นต้นไป

              ตัวอย่า

              ในปี พ.ศ. 2557 นายแดงได้นำที่ดินของตนเองไปให้ บริษัท ดำ จำกัด เช่า เพื่อสร้างห้างสรรพสินค้า สัญญาเช่ามีกำหนดเวลา 30 ปี เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 ถึงปี พ.ศ. 2586 โดยนายแดงได้รับเงินกินเปล่าในวันที่ทำสัญญาเช่าเป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาท และได้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ในอัตราร้อยละ 5 นายแดงมีสิทธิเลือกเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ ดังนี้

              1. นำเงินกินเปล่าทั้งจำนวน 30 ล้านบาท ไปถือเป็นเงินได้พึงประเมินประจำปีภาษี 2557 แล้วยื่นแบบ ภ.ง.ด. 90 และชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาภายในเดือนมีนาคม 2558 โดยนายแดงมีสิทธินำภาษีเงินได้ที่ถูก บริษัท ดำ จำกัด หัก ณ ที่จ่ายไว้ทั้งจำนวน มาหักจากภาษี เงินได้บุคคลธรรมดาที่คำนวณได้ในปีภาษี 2557 หรือ

              2. ขอใช้สิทธิตามประกาศกระทรวงการคลังฯ ลงวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 โดยนำเงินกินเปล่าจำนวน 30 ล้านบาท ไปเฉลี่ยเป็นเงินได้พึงประเมินของปีภาษี 2557 ถึงปีภาษี 2586 จำนวน 30 ปี คิดเป็นเงินได้พึงประเมินปีละ 1 ล้านบาท แล้วดำเนินการยื่นแบบ ภ.ง.ด. 93 จำนวน 30 ฉบับ และชำระภาษีเงินได้ของแต่ละปีภาษีทั้งหมด 30 ปี เป็นการล่วงหน้า ให้เสร็จสิ้นไปภายในเดือนมีนาคม 2558 และเมื่อถึงกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีภาษี 2557 ถึงปีภาษี 2586 นายแดงมีหน้าที่ต้องนำเงินกินเปล่าดังกล่าวมาคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยการยื่นแบบ ภ.ง.ด. 90 แล้วนำจำนวนภาษีที่ได้เสียไว้ตามแบบ ภ.ง.ด. 93 มาหักจากภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่คำนวณได้ในแต่ละปีภาษีนั้น ทั้งนี้ นายแดง มีสิทธินำภาษีเงินได้ที่ บริษัท ดำ จำกัด ได้หักไว้ ณ ที่จ่ายทั้งจำนวน มาหักจากภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีภาษี 2557 ได้ด้วย

              หากนายแดงได้นำเงินกินเปล่ามายื่นแบบ ภ.ง.ด. 93 จำนวน 30 ฉบับ ในวันที่ 16 พฤษภาคม 2558 นายแดงจะต้องรับผิดเสียเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 1.5 ของภาษีที่ต้องชำระตามแบบ ภ.ง.ด. 93 ทั้ง 30 ฉบับ เป็นจำนวน 2 เดือน (เมษายน - พฤษภาคม 2558)และจะต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด. 90 สำหรับปีภาษี 2557 เพิ่มเติม โดยนำเงินกินเปล่าตามส่วนของปีภาษี 2557 ไปรวมคำนวณภาษีเงินได้ด้วย” 


ต่อข้อถาม ขอเรียนว่า

    กรณีเป็นบุคคลธรรมดา ทำสัญญาให้เช่าที่ดินและอาคาร สัญญาลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2565 เป็นการทำสัญญาเช่าล่วงหน้า ระยะเวลาการเช่า เริ่ม กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 ถึงกุมภาพันธ์ พ.ศ.2569 (3 ปี) ผู้เช่าตกลงชำระค่าหน้าดินล่วงหน้า ณ วันที่ทำสัญญา จำนวน 750,000 บาท นั้น

    ผู้ให้เช่าสามารถขอใช้สิทธิตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การเสียภาษีเงินได้ของผู้มีเงินได้จากการให้เช่าทรัพย์สินที่ได้รับเงินกินเปล่า เงินแป๊ะเจี๊ยะ เงินค่าปลูกสร้าง เงินค่าซ่อมแซม หรือค่าแห่งอาคารหรือโรงเรือนที่ได้รับกรรมสิทธิ์หรือเงินได้อื่นในลักษณะทำนองเดียวกัน ลงวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 ประกอบกับคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 151/25258ฯ ลงวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 

    โดยนำเงินกินเปล่าจำนวน 750,000 บาท ไปเฉลี่ยเป็นเงินได้พึงประเมินของปีภาษี 2566 ถึงปีภาษี 2569 จำนวน 3 ปี คิดเป็นเงินได้พึงประเมินถัวเฉลี่ยปีละ 250,000 บาท ดังนี้

    สำหรับปี พ.ศ. 2566 (11 เดือน) เป็นเงิน 229,166.67 บาท

    สำหรับปี พ.ศ. 2567 และ 2568 เป็นเงิน 250,000.00 บาท

    สำหรับปี พ.ศ. 2569 (1 เดือน) เป็นเงิน 20,833.33 บาท 

    แล้วดำเนินการยื่นแบบ ภ.ง.ด. 93 จำนวน 4 ฉบับ และชำระภาษีเงินได้ของแต่ละปีภาษีทั้งหมด 4 ปี เป็นการล่วงหน้า (ถ้ามี) ให้เสร็จสิ้นไปภายในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2567 และเมื่อถึงกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีภาษี 2566 ถึงปีภาษี 2569 ผู้มีเงินได้มีหน้าที่ต้องนำเงินกินเปล่าดังกล่าวมาคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยการยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 แล้วนำจำนวนภาษีที่ได้เสียไว้ตามแบบ ภ.ง.ด. 93 มาหักจากภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่คำนวณได้ในแต่ละปีภาษีนั้น ทั้งนี้ ผู้มีเงินได้มีสิทธินำภาษีเงินได้ที่ถูกบริษัทจำกัด ผู้เช่าได้หักไว้ ณ ที่จ่ายทั้งจำนวน มาหักจากภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด.90 ประจำปีภาษี 2566 ได้ด้วย




อ้างอิงกฏหมาย


https://www.rd.go.th/fileadmin/user_upload/kormor/newlaw/58_11612.pdf




https://www.rd.go.th/fileadmin/user_upload/kormor/newlaw/dn151a.pdf






หมายเหตุ: TAX CASE STUDY จาก Tax-EZ Website เป็นเพียงเคสตัวอย่างเท่านั้น  กรุณาตรวจสอบข้อมูลก่อนนำไปใช้อ้างอิง

หมายเหตุ : TAX CASE STUDY จาก Tax-EZ Website เป็นเพียงเคสตัวอย่างเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลก่อนนำไปใช้อ้างอิง
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การท่องเว็บที่ดีขึ้น ข้อตกลงและนโยบายความเป็นส่วนตัว
ยอมรับ