Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

กิจการขายส่งออกอัญมณี ต้องส่งสินค้าออกไปให้ลูกค้าตรวจสอบก่อนจะตัดสินใจซื้อจริง
| เรื่อง | กิจการขายส่งออกอัญมณี ต้องส่งสินค้าออกไปให้ลูกค้าตรวจสอบก่อนจะตัดสินใจซื้อจริง |
| แหล่งที่มา | Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ |
| วันที่ | วันที่ถาม 23/04/2024 - วันที่ตอบ 01/05/2024 |
| ประเภทภาษี | ภาษีเงินได้นิติบุคคล,ภาษีมูลค่าเพิ่ม |
| ข้อกฎหมาย | มาตรา 70 ตรี, มาตรา 80/1 (1), มาตรา 82/10 แห่งประมวลรัษฎากร |
| ปุจฉา | บริษัทฯ ทำธุรกิจขายส่งออกอัญมณี เนื่องจากก่อนขายสินค้า บริษัทฯ ต้องส่งของไปให้ลูกค้าตรวจสอบอัญมณีก่อน บริษัทฯ จึงออกแค่ proforma invoice สำหรับส่งออกผ่านพิธีการมทางศุลกากร และเจ้าพนักงานสรรพากรแนะนำให้บริษัทฯ ยื่นรายได้จาก proforma invoice ด้วยใน ภ.พ.30 หลังจากลูกค้าคอนเฟิร์มอัญมณีหลังตรวจ บริษัทฯ จึงจะออกอินวอยซ์ขาย |
| วิสัชนา | 1. ตามมาตรา 70 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร ได้กำหนดให้ถือว่า การส่งสินค้าออกไปต่างประเทศให้แก่หรือตามคำสังของลูกค้า ถือเป็นการขาย โดยให้ถือราคาสินค้าตามราคาตลาด (ราคา FOB) ในวันที่ส่งไปเป็นรายได้ในรอบระยะเวลาบัญชีที่ส่งไปนั้น ดังนี้ “มาตรา 70 ตรี บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลใด ส่งสินค้าออกไปต่างประเทศให้แก่หรือตามคำสั่งของสำนักงานใหญ่ สาขา บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลในเครือเดียวกัน ตัวการ ตัวแทน นายจ้าง หรือลูกจ้าง ให้ถือว่าการที่ได้ส่งสินค้าไปนั้นเป็นการขายในประเทศไทยด้วย และให้ถือราคาสินค้าตามราคาตลาดในวันที่ส่งไปเป็นรายได้ในรอบระยะเวลาบัญชีที่ส่งไปนั้น ความในวรรคก่อนมิให้ใช้บังคับในกรณีที่สินค้านั้น (1) เป็นของที่ส่งไปเป็นตัวอย่างหรือเพื่อการวิจัยโดยเฉพาะ (2) เป็นของผ่านแดน (3) เป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร แล้วส่งกลับออกไปให้ผู้ส่งเข้ามาภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่สินค้านั้นเข้ามาในราชอาณาจักร (4) เป็นของที่ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร แล้วส่งกลับคืนเข้ามาให้ผู้ส่งในราชอาณาจักรภายในหนึ่งปี นับแต่วันที่ส่งสินค้าออกไปนอกราชอาณาจักร” 2. ตามมาตรา 77/1 (ค) แห่งประมวลรัษฎากร “มาตรา 77/1 ในหมวดนี้ เว้นแต่ข้อความจะแสดงให้เห็นเป็นอย่างอื่น “ขาย” หมายความว่า จำหน่าย จ่าย โอนสินค้าไม่ว่าจะมีประโยชน์หรือค่าตอบแทนหรือไม่ และให้หมายความรวมถึง (ก) สัญญาให้เช่าซื้อสินค้า สัญญาซื้อขายผ่อนชำระที่กรรมสิทธิ์ในสินค้ายังไม่โอนไปยังผู้ซื้อเมื่อได้ส่งมอบสินค้าให้ผู้ซื้อแล้ว หรือสัญญาจะขายสินค้าที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขที่อธิบดีกำหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรี (ข) ส่งมอบสินค้าให้ตัวแทนเพื่อขาย (ค) ส่งสินค้าออกนอกราชอาณาจักร (ง) นำสินค้าไปใช้ไม่ว่าประการใด ๆ เว้นแต่การนำสินค้าไปใช้เพื่อการประกอบกิจการของตนเองโดยตรงตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกำหนด (ดู ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 1) ประกอบ) (จ) มีสินค้าขาดจากรายงานสินค้าและวัตถุดิบตามมาตรา 87 (3) หรือมาตรา 87 วรรคสอง (ฉ) มีสินค้าคงเหลือและหรือทรัพย์สินที่ผู้ประกอบการมีไว้ในการประกอบกิจการ ณ วันเลิกประกอบกิจการ แต่ไม่รวมถึงสินค้าคงเหลือและหรือทรัพย์สินดังกล่าวของผู้ประกอบการซึ่งได้ควบเข้ากันหรือได้โอนกิจการทั้งหมดให้แก่กัน ทั้งนี้ ผู้ประกอบการใหม่อันได้ควบเข้ากันหรือผู้รับโอนกิจการต้องอยู่ในบังคับที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 82/3 (ช) กรณีอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง (ดู กฎกระทรวง ฉบับที่ 188 (พ.ศ. 2534) ประกอบ) (14) “ส่งออก” หมายความว่า ส่งสินค้าออกนอกราชอาณาจักรเพื่อส่งไปต่างประเทศ และให้หมายความรวมถึง (ก) การนำสินค้าในราชอาณาจักรเข้าไปในเขตปลอดอากรเฉพาะสินค้าที่ต้องเสียอากรขาออกหรือที่ได้รับยกเว้นอากรขาออกตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกำหนด (ดู ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 125) ประกอบ) (ข) การขายสินค้าของคลังสินค้าทัณฑ์บนประเภทร้านค้าปลอดอากรตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรที่ขายให้แก่ผู้ที่เดินทางออกไปนอกราชอาณาจักร ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกำหนด (ดู ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 125) ประกอบ) 3. ตามมาตรา 78 (4) แห่งประมวลรัษฎากร กำหนดหลักเกณฑ์ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม เนื่องจากการส่งออกสินค้าดังนี้ “มาตรา 78 ภายใต้บังคับมาตรา 78/3 ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มที่เกิดจากการขายสินค้า ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ (4) การขายสินค้าโดยส่งออกให้ความรับผิดเกิดขึ้นดังต่อไปนี้ (ก) การส่งออกนอกจากที่ระบุใน (ข) หรือ (ค) ให้ความรับผิดเกิดขึ้นเมื่อชำระอากรขาออก วางหลักประกันอากรขาออก หรือจัดให้มีผู้ค้ำประกันอากรขาออก เว้นแต่ในกรณีที่ไม่ต้องเสียอากรขาออกหรือได้รับยกเว้นอากรขาออก แล้วแต่กรณี ก็ให้ถือว่าความรับผิดเกิดขึ้นในวันที่มีการออกใบขนสินค้าขาออกตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร (ข) การส่งออกในกรณีที่นำสินค้าเข้าไปในเขตปลอดอากรตามมาตรา 77/1 (14) (ก) ให้ความรับผิดเกิดขึ้นในวันที่นำสินค้าในราชอาณาจักรเข้าไปในเขตดังกล่าว (ค) การส่งออกซึ่งสินค้าที่อยู่ในคลังสินค้าทัณฑ์บนตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร ให้ความรับผิดเกิดขึ้นพร้อมกับความรับผิดตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร” ต่อข้อถาม ขอเรียนว่า กรณีตามข้อเท็จจริง บริษัทฯ ประกอบกิจการขายส่งออกอัญมณี 1. เนื่องจากก่อนขายสินค้า บริษัทฯ ต้องส่งของไปให้ลูกค้าตรวจสอบอัญมณีก่อน บริษัทฯ จึงออกแค่ proforma invoice สำหรับส่งออกผ่านพิธีการมทางศุลกากร นั้น 1.1 กรณีภาษีเงินได้นิติบุคคล การส่งส่งสินค้าออกไปต่างประเทศให้แก่หรือตามคำสั่งของลูกค้าดังกล่าว ถือเป็นการขาย ในรอบระยะเวลาบัญชีที่ส่งไปนั้น โดยให้ถือราคาสินค้าตามราคาตลาด (ราคา FOB) ในวันที่ส่งไปเป็นรายได้ ทั้งนี้ ตามมาตรา 70 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร 1.2 กรณีภาษีมูลค่าเพิ่ม การส่งสินค้าออกไปต่างประเทศให้แก่หรือตามคำสั่งของลูกค้าดังกล่าว โดยดำเนินพิธีการทางศุลกากร เข้าลักษณะเป็นการขายสินค้า ตามมาตรา 77/1 (ค) และ (14) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ ต้องนำรายได้จากการส่งออกในกรณีนี้ มากรอกแบบ ภ.พ.30 โดยเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรา 0% ตามมาตรา 80/1 (1) แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้น การที่เจ้าพนักงานสรรพากรแนะนำให้บริษัทฯ ยื่นรายได้จาก proforma invoice ใน ภ.พ.30 จึงเป็นกรณีที่ถูกต้องแล้ว 2. หลังจากลูกค้าคอนเฟิร์มอัญมณีหลังตรวจ เราถึงจะออกอินวอยซ์ขาย เนื่องจากบริษัทฯ ได้ยื่น proforma invoice เป็นนรายได้ในแบบ ภ.พ.30 สำหรับเดือนภาษีที่ได้ผ่านพิธีการทางศุลกากรแล้ว 2.1 กรณีภาษีเงินได้นิติบุคคล บริษัทฯ ต้องรับรู้รายได้จากการขายสินค้า ตาม Invoice อีกครั้งหนึ่ง โดยนำรายได้ตามที่กฎหมายกำหนดให้ถือเป็นการขายมาคำนวณเป็นต้นทุน ตามหลักการจับคู่ของรายจ่ายกับรายได้ (Matching Principle) ส่วนแตกต่างที่ลูกค้าไม่รับซื้อ ในทางบัญชียังคงถือเป็นสินค้าคงเหลือ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป 2.2 กรณีภาษีมูลค่าเพิ่ม การขายสินค้าในกรณี เข้าลักษณะเป็นรายได้ที่ไม่อยู่ในบังคับที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม เนื่องจากเป็นการส่งมอบสินค้าในต่างประเทศ จึงไม่อยู่ในบังคับที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (Out of VAT Scope: Out - Out) สำหรับ กรณีลูกค้าสั่งอัญมณีไม่ตรงกับ proforma invoice ที่บริษัทฯ ส่งออกไปแล้ว โดยมูลค่าสินค้าลดลง บริษัทฯ ไม่ต้องออกเอกสารใด ๆ เพื่อยื่นแบบ ภ.พ.30 สำหรับมูลค่าที่ลดลงดังกล่าว เนื่องจากไม่เข้าเงื่อนตามมาตรา 82/10 แห่งประมวลรัษฎากร ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ |