Case study

การออกใบกำกับภาษี เมื่อรับเงินค่าคอมมิชชั่นจากต่างประเทศ(สกุลเงินต่างประเทศ)


เรื่อง การออกใบกำกับภาษี เมื่อรับเงินค่าคอมมิชชั่นจากต่างประเทศ(สกุลเงินต่างประเทศ)
แหล่งที่มา Case study
วันที่ 16/09/2023
ประเภทภาษี ภาษีมูลค่าเพิ่ม
ข้อกฎหมาย มาตรา 78/1 มาตรา 86/4
คำถาม

 บริษัทได้รับเงินค่าคอมมิชชั่นจากลูกค้าในต่างประเทศเป็น จำนวนเงิน 1,000 USD

 บริษัทออกใบกำกับภาษี

1.  รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ในยอด 1,000 USD ได้หรือไม่  (รายได้ค่าคอมมิชชั่น 934.58  USD  + vat 65.42 USD  =1,000 USD )  

2.  ออกใบกำกับภาษีเป็นเงิน USD ได้หรือไม่ 

คำตอบ

ตอบ   กรณีที่บริษัท ได้รับค่าคอมมิชชั่น จากการทำงานในประเทศไทย จึงต้องนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และ ออกใบกำกับเภาษีนั้น   มูลค่าของรายด่าคอมมิชชั่น จะออกแบบ รวม VAT ใน 1,000  USD หรือ  แยกออกจาก  1,000  USD  ก็ได้ แล้วแต่ข้อตกลงกันกับลูกค้า (แต่อย่างไรควรระบุถึงเงื่อนไขข้อตกลงนี้ให้ชัดตั้งแต่ทำสัญญาค่ะ)

          สำหรับสกุลเงิน ในการออกใบกำกับภาษีนั้น จะต้องออกเป็นสกุลเงินไทยเท่านั้นค่ะ  ตามมาตรา 86/4  วรรค 2 ดังนั้น บริษัทต้องแปลงค่า USD ให้เป็น บาท ณ วันที่ได้รับชำระเงิน (จุดรับผิดทางภาษีมูลค่าเพิ่มของงานบริการเกิดขึ้น ตามมาตรา 78/1)   โดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนของ ธนาคารพาณิชย์ หรือ ธนาคารแห่งประเทศไทย ตามมาตรา 9 

          อย่างไรก็ตาม บริษัทสามารถแสดงมูลค่า USD 934.58 + vat 65.42= 1,000 ในใบกำกับภาษีได้ค่ะ (ตามมาตรา 86/4 กฏหมายกำหนดรายการใรนใบกำกับภาษีว่าต้องมีรายการอะไรบ้างเป็นอย่างน้อย  ดังนั้นมีเกินกว่าที่กฏหมายกำหนดไม่เป็นไรค่ะ)


มาตรา 78/1 ภายใต้บังคับมาตรา 78/3 ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มที่เกิดจากการให้บริการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้

(1) การให้บริการนอกจากที่อยู่ในบังคับตาม (2) (3) หรือ (4) ให้ความรับผิดทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อได้รับชำระราคาค่าบริการ เว้นแต่กรณีที่ได้มีการกระทำดังต่อไปนี้เกิดขึ้นก่อนได้รับชำระราคาค่าบริการก็ให้ถือว่าความรับผิดเกิดขึ้นเมื่อได้มีการกระทำนั้น ๆ ด้วย

(ก) ได้ออกใบกำกับภาษี หรือ
 (ข) ได้ใช้บริการไม่ว่าโดยตนเองหรือบุคคลอื่น
 ทั้งนี้ โดยให้ความรับผิดเกิดขึ้นตามส่วนของการกระทำนั้น ๆ แล้วแต่กรณี


มาตรา 86/4   ภายใต้บังคับมาตรา 86/5 และมาตรา 86/6 ใบกำกับภาษีต้องมีรายการอย่างน้อยดังต่อไปนี้
 
    (1) คำว่า "ใบกำกับภาษี" ในที่ที่เห็นได้เด่นชัด
     (2) ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ออกใบกำกับภาษีและในกรณีที่ตัวแทนเป็นผู้ออกใบกำกับภาษีในนามของผู้ประกอบการจดทะเบียน ตามมาตรา 86 วรรคสี่ หรือมาตรา 86/2 หรือผู้ทอดตลาดเป็นผู้ออกใบกำกับภาษีในนามของผู้ประกอบการจดทะเบียนตามมาตรา 86/3 ให้ระบุชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของตัวแทนนั้นด้วย
     (3) ชื่อ ที่อยู่ ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ
     (4) หมายเลขลำดับของใบกำกับภาษี และหมายเลขลำดับของเล่ม ถ้ามี
     (5) ชื่อ ชนิด ประเภท ปริมาณ และมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ
     (6) จำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่คำนวณจากมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ โดยให้แยกออกจากมูลค่าของสินค้าและหรือของบริการให้ชัดแจ้ง
     (7) วัน เดือน ปี ที่ออกใบกำกับภาษี
     (8) ข้อความอื่นที่อธิบดีกำหนด

( ดูประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 39) )
 ( ดูประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 247))
 ( ดูคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.117/2545 )
 ( ดูคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.46/2537 )
 ( ดูคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.86/2542 )
 ( ดูคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.147/2557 )
 ( ดูคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.155/2560 )

รายการในใบกำกับภาษี ให้ทำเป็นภาษาไทย เป็นหน่วยเงินตราไทยและใช้ตัวเลขไทยหรืออารบิค เว้นแต่ในกิจการบางประเภทที่มีความจำเป็นต้องทำเป็นภาษาต่างประเทศ หรือเป็นหน่วยเงินตราต่างประเทศ ให้กระทำได้เมื่อได้รับอนุมัติจากอธิบดี

( ดูคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร ที่ 25/2537 )
 ( ดูประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 92) )

ใบกำกับภาษีอาจออกรวมกันสำหรับการขายสินค้าหรือการให้บริการหลายอย่างก็ได้ เว้นแต่อธิบดีจะได้กำหนดให้การออกใบกำกับภาษีสำหรับสินค้าหรือบริการบางอย่างหรือหลายอย่างต้องกระทำแยกต่างหาก โดยมิให้รวมไว้ในใบกำกับภาษีเดียวกันกับรายการอื่น

( ดูคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.121/2545 )



 

หมายเหตุ: TAX CASE STUDY จาก Tax-EZ Website เป็นเพียงเคสตัวอย่างเท่านั้น  กรุณาตรวจสอบข้อมูลก่อนนำไปใช้อ้างอิง         

หมายเหตุ : TAX CASE STUDY จาก Tax-EZ Website เป็นเพียงเคสตัวอย่างเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลก่อนนำไปใช้อ้างอิง
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การท่องเว็บที่ดีขึ้น ข้อตกลงและนโยบายความเป็นส่วนตัว
ยอมรับ