1. ตามมาตรา 81 (1)(จ) แห่งประมวลรัษฎากร “มาตรา 81 ให้ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการประกอบกิจการประเภทต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ (1) การขายสินค้าที่มิใช่การส่งออก หรือการให้บริการ ดังต่อไปนี้ (จ) การขายยาหรือเคมีภัณฑ์ที่ใช้สำหรับพืชหรือสัตว์ เพื่อบำรุงรักษา ป้องกัน ทำลายหรือกำจัดศัตรูหรือโรคของพืชและสัตว์...”
2. ตามมาตรา 81/3 (1) แห่งประมวลรัษฎากร “มาตรา 81/3 ผู้ประกอบการซึ่งประกอบกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังต่อไปนี้ มีสิทธิแจ้งต่ออธิบดีตามแบบที่อธิบดี กำหนดเพื่อขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามหมวดนี้ได้ โดยต้องคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 82/3 (1) กิจการขายสินค้าตามที่ระบุไว้ในมาตรา 81 (1) (ก) ถึง (ฉ)”
3. สิทธิของผู้ประกอบการจดทะเบียน (1) สิทธิที่จะออกใบกำกับภาษีสำหรับการขายสินค้าหรือการให้บริการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษี มูลค่าเพิ่ม เมื่อความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้น ตามมาตรา 86 แห่งประมวลรัษฎากร (2) สิทธิที่จะเรียกเก็บภาษีขายจากการขายสินค้าหรือการให้บริการ ตามมาตรา 82/4 แห่งประมวลรัษฎากร (3) สิทธิที่จะนำภาษีซื้อที่เกี่ยวเนื่องโดยตรงกับการประกอบกิจการที่อยู่ในบังคับที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม มาเครดิตหักออกจากภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 82/3 แห่งประมวลรัษฎากร (4) สิทธิที่จะเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรา 0% ตามมาตรา 80/1 แห่งประมวลรัษฎากร (5) สิทธิที่จะขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม ในกรณีที่ในเดือนภาษีใดมียอดภาษีซื้อมากกว่าภาษีขาย ตามมาตรา 84 แห่งประมวลรัษฎากร (6) สิทธิที่จะขอถอนทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ในกรณีที่มีรายได้จากการประกอบกิจการไม่เกินมูลค่าของฐานภาษีของกิจการขนาดย่อม ตามมาตรา 81/1 แห่งประมวลรัษฎากร คือ ไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี ติดต่อกันไม่น้อยกว่า 3 ปี
4. หน้าที่ของผู้ประกอบการจดทะเบียน (1) หน้าที่ที่ต้องปฏิบัติเกี่ยวกับทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามส่วน 9 การจดทะเบียน หมวด 4 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร (2) ออกใบกำกับภาษีตามมาตรา 86 แห่งประมวลรัษฎากร และสำเนาใบกำกับภาษีสำหรับการขายสินค้า หรือการให้บริการทุกครั้ง และต้องจัดทำในทันทีที่ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้น พร้อมทั้งให้ส่งมอบใบกำกับภาษีนั้นแก่ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ ส่วนสำเนาใบกำกับภาษีให้เก็บรักษาไว้ตามมาตรา 87/3 แห่งประมวลรัษฎากร รวมทั้งใบเพิ่มหนี้ และใบลดหนี้ ตามมาตรา 86/9 และมาตรา 86/10 แห่งประมวลรัษฎากร ตามส่วน 10 ใบกำกับภาษี ใบเพิ่มหนี้ และใบลดหนี้ หมวด 4 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร (3) จัดทำรายงายภาษีมูลค่าเพิ่ม และเก็บรักษารายงานและหลักฐานเอกสาร ตามส่วน 11 หมวด 4 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร (4) คำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามส่วน 6 หมวด 4 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร (5) ยื่นแบบแสดงรายการ ภ.พ.30 ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป ไม่ว่าจะมีรายได้จากการประกอบกิจการหรือไม่ก็ตาม (6) ให้ความร่วมมือแก่ทางราชการในการตรวจสอบความถูกต้องของการปฏิบัติหน้าที่ทางภาษีมูลค่าเพิ่ม
ต่อข้อถาม ขอเรียนว่า กรณีบริษัทฯ ขายสินค้า “ยาหรือเคมีภัณฑ์ที่ใช้สำหรับพืชหรือสัตว์ เพื่อบำรุงรักษา ป้องกัน ทำลายหรือกำจัดศัตรูหรือโรคของพืชและสัตว์เคมีเกษตร” ซึ่งเป็นการขายสินค้าที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 81 (1)(จ) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งบริษัทฯ มีสิทธิจดแจ้งต่อธิบดีกรมสรรพากรเพื่อจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผู้ประกอบการจดทะเบียน และเสียภาษีมูลค่าเพิ่มได้ตามมาตรา 81/3 (1) แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้น ภายหลังจากที่บริษัทฯ ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว เมื่อมีการขายสินค้าเคมีเกษตรดังกล่าว บริษัทฯ ย่อมมีหน้าที่ต้องออกใบกำกับภาษี และเรียกเก็บ VAT 7% จากผู้ซื้อ และปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ให้ถูกกต้องครบถ้วน รวมทั้งการยื่นแบบ ภ.พ.30 โดยบริษัทฯ มีสิทธิใช้ภาษีซื้อที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการประกอบกิจการ เพื่อนำมาเครดิตหักออกจากภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มได้ ตามนัยมาตรา 77/1 (18) “ภาษีซื้อ” และมาตรา 82/3 แห่งประมวลรัษฎากร
ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ คลิ๊กที่นี่ เพื่อติดตาม FB เพจ "อาจารย์ สุเทพ พงษ์พิทักษ์" |