Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

จ่ายค่าคอมมิชชั่นให้ผู้มาลงทุนในหุ้น
| เรื่อง | จ่ายค่าคอมมิชชั่นให้ผู้มาลงทุนในหุ้น |
| แหล่งที่มา | Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ |
| วันที่ | วันที่ถาม 19/01/2023 - วันที่ตอบ 23/01/2023 |
| ประเภทภาษี | ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย,ภาษีเงินได้นิติบุคคล |
| ข้อกฎหมาย | มาตรา 40 (4)(ข), มาตรา 65 ตรี (13) แห่งประมวลรัษฎากร |
| ปุจฉา | นิติบุคคลต่างประเทศมาร่วมหุ้นในไทยพร้อมกับเปิดบัญชีเงินฝากในไทย และแต่ละเดือนบริษัทฯ มีการโอนค่าคอมฯ ให้นิติบุคคลต่างประเทศดังกล่าว และนิติบุคคลก็โอนจากบัญชีไทยไปต่างประเทศเข้าบริษัทที่มีบัญชีต่างประเทศ |
| วิสัชนา | ค่าคอมมิชชั่น (ค่านายหน้า หรือค่าตอบแทน) นายหน้า คือ บุคคลที่ชี้ช่องทางหรือจัดการให้บุคคลสองฝ่ายได้เข้าทำสัญญากัน เช่น สัญญาขายทรัพย์สิน สัญญาจำนองที่ดิน เป็นต้น 1. สัญญานายหน้าจะเป็นหนังสือ หรือตกลงด้วยปากเปล่าก็ได้ แต่สัญญานายหน้าจะต่างกับสัญญาตัวแทนที่ว่า นายหน้าเป็นผู้ชี้ช่องให้คู่กรณีทำสัญญากันเท่านั้นไม่มีสิทธิลงชื่อหรือเข้าทำสัญญาแทน ไม่มีสิทธิทำนิติกรรมสัญญาโดยตรง สาระสำคัญของสัญญานายหน้า มีดังนี้ (1) สัญญานายหน้าเป็นสัญญาสองฝ่าย (2) วัตถุประสงค์ของสัญญาก็คือ การที่นายหน้าชี้ช่อง หรือจัดการให้มีการทำสัญญา (3) บุคคลที่ตกลงกันจะได้ค่าบำเหน็จนายหน้า จะรับผิดชอบจ่ายค่าบำเหน็จต่อเมื่อสัญญานั้นได้ทำกันสำเร็จ 2. บำเหน็จของนายหน้า หรือค่านายหน้า ตามมาตรา 845 วรรค 1 แห่ง ป.พ.พ. ผู้วานนายหน้าต้องจ่ายค่าบำเหน็จตามจำนวนที่ตกลงไว้ให้แก่นายหน้า เมื่อนายหน้าปฏิบัติตามสัญญานายหน้าจนสำเร็จ กล่าวคือ เมื่อนายหน้าเป็นสื่อให้ผู้วานนายหน้าได้เข้าทำสัญญากับบุคคลอื่นจนสำเร็จแล้ว 3. ในทางภาษีอากร ค่านายหน้า เข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (2) แห่งประมวลรัษฎากร เว้นแต่ กรณีตัวแทนหรือนายหน้าหรือหัวหน้าตัวแทนมีหลักฐานในการประกอบกิจการให้เห็นได้อย่างชัดแจ้งว่า ได้ประกอบกิจการในรูปแบบของการทำธุรกิจและสามารถพิสูจน์รายจ่ายในการประกอบกิจการได้ ซึ่งต้องมีลักษณะการประกอบกิจการดังนี้ ให้ถือว่าค่านายหน้านั้น เข้าลักษณะเป็นเงินได้ตามมาตรา 40 ( 8 ) แห่งประมวลรัษฎากร (1) ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนและ (2) ได้จัดตั้งเป็นสำนักงานในการประกอบกิจการ โดยมีอาคารสำนักงานเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง หรือเช่าจากบุคคลอื่น โดยมีหลักฐาน เช่น หลักฐานการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ สัญญาเช่าสำนักงาน และ (3) มีการลงทุนด้วยการจัดหาเครื่องมือเครื่องใช้ มีค่าใช้จ่ายสำนักงาน และ (4) มีการจ้างลูกจ้างหรือพนักงานในการประกอบกิจการ โดยมีหลักฐานตามสัญญาจ้างแรงงาน หลักฐานการจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสังคมตามกฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม และหลักฐานการแสดงการหักภาษี ณ ที่จ่าย และนำส่ง ในกรณีการคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่าย ไม่มีภาษีที่ต้องหัก ณ ที่จ่ายและนำส่ง จะต้องมีหลักฐานเกี่ยวกับการยื่นรายการเกี่ยวกับค่าจ้างแรงงานตามแบบ ภ.ง.ด.1 ก. (5) มีค่าใช้จ่ายในการประกอบกิจการ เช่น ค่ารับรอง หรือค่าบริการเพื่อประโยชน์ในการติดต่องานกับลูกค้า (โปรดศึกษาเพิ่มเติมจากคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 115/2545) 4. ค่านายหน้าเป็นรายได้จากการให้บริการที่อยู่ในข่ายที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 77/2 (1) แห่งประมวลรัษฎากร 5. ผู้จ่ายค่านายหน้าต้องคำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย (1) กรณีจ่ายให้แก่ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ต้องคำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 50 (1) แห่งประมวลรัษฎากร (2) กรณีจ่ายให้แก่ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ประกอบกิจการในประเทศไทย ต้องคำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 3 เตรส แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 4/2528ฯ ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2528 (3) กรณีจ่ายให้แก่ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลที่มิได้ประกอบกิจการในประเทศไทย ต้องคำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ทีจ่าย ตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งต้องพิจารณาอนุสัญญาภาษีซ้อนประกอบอีกด้วย ต่อข้อถาม ขอเรียนว่า 1. กรณีนิติบุคคลต่างประเทศ มาร่วมหุ้นในไทย พร้อมกับเปิดบัญชีเงินฝากในไทย และแต่ละเดือน บริษัทฯ มีการโอนค่าคอมมิชชั่น ให้นิติบุคคลต่างประเทศดังกล่าว นั้น ค่าคอมมิชชั่นเป็นค่าตอบแทนจากการให้บริการชี้ช่องให้บริษัทฯ สามารถขายสินค้าหรือให้บริการได้ การร่วมลงทุนแล้วได้รับคอมมิชชั่น โดยปราศจากฐานในการคิดค่าคอมมิชชั่น จึงไม่สมเหตุสมผลอย่างยิ่ง บริษัทฯ จึงพึงต้องหาคำตอบในการจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้แก่บริษัทต่างประเทศที่เข้าร่วมหุ้นกับบริษัทฯ มิฉะนั่น บริษัทฯ ย่อมไม่อาจนำค่าคอมมิชชั่นมาถือเป็นรายจ่ายในการดำเนินกิจการ เพราะเข้าลักษณะเป็นรายจ่ายต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (13) แห่งประมวลรัษฎากร – รายจ่ายที่ไม่ใช่รายจ่ายเพื่อหากำไรหรือเพื่อกิจการโดยเฉพาะ 2. การร่วมลงทุน โดยเข้าถือหุ้นในบริษัทฯ ต้องได้รับผลตอบแทนเป็นเงินปันผลที่จ่ายจากกำไรสุทธิที่ทำมาหาได้จากการประกอบกิจการ ซึ่งเข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (4)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร ไม่สามารถกำหนดจ่ายในรูปของค่าคอมมิชชั่นได้ 3. ค่าคอมมิชชั่น โดยปราศจากฐานในการคิดค่าคอมมิชชั่น อาจถูกตีความว่า เป็น “ดอกเบี้ย” หุ้นกู้ มากกว่าที่จะเป็นหุ้นทุน กรณีเช่นนี้ บริษัทฯ อาจต้องคำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายในอัตรา 15% ของเงินได้ และนำส่งพร้อมทั้งยื่นแบบ ภ.ง.ด.54 ตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ |