Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

บุคคลธรรมดามีรายได้ค่าเช่าคอนโด
เรื่อง | บุคคลธรรมดามีรายได้ค่าเช่าคอนโด |
แหล่งที่มา | Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ |
วันที่ | วันที่ถาม 04/11/2023 - วันที่ตอบ 15/12/2023 |
ประเภทภาษี | ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา,ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย |
ข้อกฎหมาย | มาตรา 40 (5)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร, มาตรา 65 ทวิ (2) แห่งประมวลรัษฎากร และพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 145) พ.ศ. 2527 |
ปุจฉา | 1. อยากทราบว่าผมเป็นบุคคลธรรมดาถ้ากู้ธนาคารเพื่อซื้อคอนโด (สินเชื่อที่อยู่อาศัย) แล้วนำมาปล่อยเช่าให้กับบริษัทเพื่อน ตอนยื่นภาษีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (5)(ก) ผมเลือกแบบยื่นตามค่าใช้จ่ายจริง 2. ผมมีข้อสงสัยรบกวนขอคำปรึกษาครับ กรณีที่ นาย ก (บุคคลธรรมดา) มี Condo 2 ห้อง ซื้อและโอนกรรมสิทธิ์มาพร้อมกัน และมีบริษัท A มาขอเช่าทั้ง 2 ห้อง โดยทำเป็นสัญญาเช่า 2 ฉบับพร้อมกัน (ฉบับละห้อง) (1) คอนโดห้องที่ 1 : มีรายได้ค่าเช่าปีละ = 450,000 บ. มีค่าเสื่อมปีละ = 500,000 บ. และมีค่าใช้จ่ายจากดอกเบี้ยเงินกู้จากธนาคารปีละ = 230,000 บ. (2) คอนโดห้องที่ 2 : มีรายได้ค่าเช่าปีละ = 200,000 บ. มีค่าเสื่อมปีละ = 140,000 บ. ไม่มีค่าใช้จ่ายจากดอกเบี้ย (ซื้อเงินสด) อยากทราบว่า ในการคำนวณภาษีเงินได้ประจำปี สามารถนำรายได้และค่าใช้จ่ายจากการปล่อยเช่าคอนโดทั้ง 2 ห้อง มายื่นรวมกัน ดังตัวอย่างตามด้านล่างนี้ (แบบที่1) ได้ไหมครับ - เงินได้ทั้งหมด (รวมรายได้ค่าเช่าของคอนโดทั้ง 2 ห้อง) = 450,000 + 200,000 = 650,000 บ. - หักค่าใช้จ่ายตามจริง (รวมค่าเสื่อมและค่าใช้จ่ายของคอนโดทั้ง 2 ห้อง) = 500,000 + 140,000 + 230,000 = 870,000 บ. ในกรณีนี้เมื่อนำรายได้ทั้งหมด มาหักค่าใช้จ่ายตามจริงของห้องชุดทั้ง 2 ห้องแล้ว ทำให้ไม่มีส่วนต่างที่ต้องนำไปคำนวณภาษี หรือว่าต้องยื่นแยกตามแต่ละสัญญาเช่า (แบบที่ 2): - สัญญาเช่าห้องที่ 1 : รายได้จากค่าเช่า = 450,000 บ. เมื่อหักค่าใช้จ่ายตามจริง = 500,000 + 230,000 = 730,000 จะไม่มีส่วนต่างที่ต้องนำไปคำนวณภาษี - สัญญาเช่าห้องที่ 2 : รายได้จากค่าเช่า = 200,000 บ. เมื่อหักค่าใช้จ่ายตามจริง = 140,000 จะมีส่วนต่าง 60,000 บ. ที่จะต้องนำไปคำนวณภาษี จะสามารถยื่นคิดภาษีตามแบบที่ 1 ได้ไหมครับ เนื่องจากเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (5)(ก) เหมือนกัน และคนเช่าก็เป็นบริษัทเดียวกันครับ |
วิสัชนา | 1. กรณีคุณ Te Ty ในฐานะผู้มีเงินได้ที่เป็นบุคคลธรรมดา มีเงินได้พึงประเมินจากการให้เช่าห้องชุดในอาคารชุดที่ร่วมกับเพื่อน ตามมาตรา 40 (5)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร หากห้างหุ้นส่วนสามัญดังกล่าวเลือกหักค่าใช้จ่ายตามความเป็นจริงและสมควร (ค่าใช้จ่ายจริง) ในการยื่นแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด.94 และ ภ.ง.ด.90 ย่อมมีสิทธินำดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคารเพื่อซื้อคอนโด ซึ่งเป็นสินเชื่อที่อยู่อาศัย มาคำนวณหักเป็นค่าใช้จ่ายได้ หากดอกเบี้ยดังกล่าวได้กู้ร่วมกับเพื่อนที่เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญ ซึ่งถือเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารงาน รวมทั้งค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาห้องชุดในอาคารชุดดังกล่าวที่คำนวณหักตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามมาตรา 65 ทวิ (2) แห่งประมวลรัษฎากร และพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 145) พ.ศ. 2527 2. กรณีที่ นาย ก (บุคคลธรรมดา) มี Condo 2 ห้อง ซื้อและโอนกรรมสิทธิ์มาพร้อมกัน และมีบริษัท A มาขอเช่าทั้ง 2 ห้อง โดยทำเป็นสัญญาเช่า 2 ฉบับพร้อมกัน (ฉบับละห้อง) (1) คอนโดห้องที่ 1: มีรายได้ค่าเช่าปีละ = 450,000 บ. มีค่าเสื่อมปีละ = 500,000 บ. และมีค่าใช้จ่ายจากดอกเบี้ยเงินกู้จากธนาคารปีละ = 230,000 บ. (2) คอนโดห้องที่ 2: มีรายได้ค่าเช่าปีละ = 200,000 บ. มีค่าเสื่อมปีละ = 140,000 บ. ไม่มีค่าใช้จ่ายจากดอกเบี้ย (ซื้อเงินสด) ในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี สามารถนำรายได้และค่าใช้จ่ายจากการปล่อยเช่าคอนโดทั้ง 2 ห้อง มายื่นรวมกัน ตามแบบที่ 1 ได้ ดังนี้ - เงินได้ค่าเช่าอาคารชุดทั้ง 2 ห้อง = 450,000 + 200,000 = 650,000 บาท - หักค่าใช้จ่ายตามความจำเป็นและสมควรหรือค่าใช้จ่ายจริง (รวมค่าสึกหรอและค่าเสื่อม และค่าใช้จ่ายของคอนโดทั้ง 2 ห้อง) = 500,000 + 140,000 + 230,000 = 870,000บ. ในกรณีนี้เมื่อนำรายได้ทั้งหมด มาหักค่าใช้จ่ายตามจริงของห้องชุดทั้ง 2 ห้องแล้ว ทำให้ไม่มีส่วนต่างที่ต้องนำไปคำนวณภาษี เนื่องจาก เงินได้พึงประเมินจากการให้เช่าทรัพย์สิน ตามมาตรา 40 (5)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร ผู้มีเงินได้มีสิทธินำเงินได้จากการให้เช่าทรัพย์สินมารวมกันทั้งหมด แล้วเลือกหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจการการให้เช่าทั้งสิ้นมาถือรวมเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของผู้ให้เช่า ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ |