Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

ภาระภาษี “DropShipper”
เรื่อง | ภาระภาษี “DropShipper” |
แหล่งที่มา | Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ |
วันที่ | วันที่ถาม 21/03/2022 - วันที่ตอบ 13/06/2022 |
ประเภทภาษี | ภาษีเงินได้นิติบุคคล,ภาษีมูลค่าเพิ่ม |
ข้อกฎหมาย | มาตรา 40 (2)(8) แห่งประมวลรัษฎากร, คำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 1/2528ฯ |
ปุจฉา | รบกวนขอความรู้เพิ่มเติม เรื่อง การเปิดบริษัทเพื่อทำธุรกิจ dropship เนื่องด้วยบริษัทฯ L (จดภาษีมูลค่าเพิ่ม) ต้องการสร้างโอกาสการขายของหลากหลายชนิด จึงได้มีการติดต่อไปยังบริษัทฯ ก, ข และ ค เพื่อขอนำรูปสินค้ามาลงขาย โดยไม่มีการสต็อคของทำแบบระบบ dropship คำถามมีดังนี้ค่ะ 1. การรับรู้รายได้ของบริษัทฯ L ที่ต้องนำมายื่นภาษีมูลค่าเพิ่มคือการรับรู้รายได้ประเภทค่าคอมมิชชั่นใช่ไหมค่ะ 2. กรณีบริษัทฯ L เป็นผู้เก็บเงินจากลูกค้า ถึงเวลาต้องโอนค่าสินค้าให้บริษัทฯ ก, ข และ ค ตอนชำระเงินให้ทั้ง 3 บริษัท บริษัทฯ ก, ข และ ค ต้องมีเอกสารใดให้บริษัทฯ L ไหมคะ 3. มีกฎหมายภาษีมาตราใดบ้างคะที่เกี่ยวกับธุรกิจประเภท dropship |
วิสัชนา | 1. การประกอบกิจการเป็น “DropShipper” ในทางภาษีอากรอาจแยกพิจารณาได้เป็น 2 แนวทาง ดังนี้ แนวทางที่ 1 กรณีที่เจ้าของสินค้ากำหนดราคาขายสินค้าไว้เป็นการตายตัวแน่นอน และยังคงถือเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของสินค้า อาจพิจารณา “Dropship” ในทางภาษีอากรได้เป็น 2 ประเภทเงินได้เช่นเดียวกับนายหน้าตัวแทน ซึ่งได้รับจากเจ้าของสินค้าเข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (2) แห่งประมวลรัษฎากร เช่นนี้ ค่าสินค้าจาก Supplier ไม่ได้ออกบิลในนามบริษัท L แต่บริษัท L แค่รับหน้าที่จ่ายแทนลูกค้า ดังนั้นไม่เข้าข่ายเป็นการซื้อมาขายสินค้า แนวทางที่ 2 กรณี “Dropshipper” มีอิสระในการกำหนดราคาสินค้า เนื่องจากได้รับโอนกรรมสิทธิ์ในตัวสินค้าจากเจ้าของสินค้าในลักษณะซื้อมาขายไปโดย “Dropshipper” เป็นผู้ซื้อสินค้ามาขาย เช่นนี้ เงินได้จากการขายสินค้าดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นเงินได้จากการขายสินค้าตามมาตรา 40 (8) แห่งประมวลรัษฎากร และในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล บริษัท A ต้องมีหลักฐานการซื้อสินค้าจากผู้ขายในประเทศจึน เพื่อประกอบการหักเป็นต้นทุนสินค้าที่ขาย รวมทั้งค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการประกอบกิจการขายสินค้า ในฐานะผู้นำเข้าสินค้ามาเพื่อขาย จากคำถามข้อ 1 ข้างต้น ตามแนวทางที่ 1 ค่าบริการที่ L เรียกเก็บเพิ่มจากลูกค้า และค่าบริการชิปปิ้ง ต้องนำมาคิดภาษีมูลค่าเพิ่ม ถูกต้องแล้ว 2. กรณีบริษัท L เป็นผู้เก็บเงินจากลูกค้า ถึงเวลาต้องโอนค่าสินค้าให้ บริษัท ก ข และ ค ตอนชำระเงินให้ทั้ง 3 บริษัท บริษัท ก ข และ ค ต้องออกใบเสร็จรับเงินให้แก่บริษัท L 3. มีกฎหมายภาษีที่เกี่ยวกับธุรกิจประเภท dropship 3.1 กรณีภาษีเงินได้นิติบุคคล มาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร ว่าด้วยเกณฑ์รับรู้รายได้จากการประกอบกิจการ Dropship ตามเกณฑ์สิทธิ ประกอบกับคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 1/2528ฯ ลงวันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2528 และการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากฐานกำไรสุทธิ รวมทั้งเงื่อนไขในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสี่ยภาษีเงินได้นิติบุคคล 3.2 กรณีภาษีเงินได้นิติบุคคลหัก ณ ที่จ่าย กรณีได้รับค่านายหน้า ตามมาตรา 3 เตรส แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 4/2528 ฯ ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2528 3.3 กรณีภาษีมูลค่าเพิ่ม (1) มาตรา 77/1 (10) แห่งประมวลรัษฎากร นิยามศัพท์คำว่า “บริการ” (2) มาตรา 77/2 (1) แห่งประมวลรัษฎากร – กิจการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (3) มาตรา 78/1 (1) มาตรา 78/3 แห่งประมวลรัษฎากร – ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (4) มาตรา 79 และมาตรา 80 แห่งประมวลรัษฎากร – ฐานภาษีและอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (5) มาตรา 82/3 มาตรา 82/5 แห่งประมวลรัษฎากร การคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีซื้อต้องห้าม (6) มาตรา 83 แห่งประมวลรัษฎากร – การยื่นแบบ ภ.พ.30 สำหรับผู้ประกอบการจดทะเบียน (7) มาตรา 86 – มาตรา 86/14 แห่งประวลรัษฎากร ว่าด้วยใบกำกับภาษ ใบเพิ่มหนี้ และใบลดหนี้ มาตรา 87 – มาตรา 87/3 แห่งประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการจัดทำรายงานและการเก็บรักษารายงานและหลักฐานเอกสาร 3.4 อากรแสตมป์ สำหรับตราสาร “นายหน้าตัวแทน” ตามลักษณะตราสาร 21 แห่งบัญชีอัตราอากรแสตมป์ หากทำสัญญาตัวแทนเป็นลายลักษณ์อักษร โดยปิดอากรแสตมป์ 30 บาท สำหรับการมอบอำนาจทั่วไป หมายเหตุ ตามแนวทางที่ 2 ของข้อ 1 ข้างต้น “DropShip” จะพูดง่าย ๆ ก็คือการซื้อมาขายไป โดยจะมีคนกลางเป็นคนจัดหาสินค้าให้แก่ผู้ซื้อ โดยคนกลาง จัดทำเว็บไซต์ โดยตนเองไม่มีสินค้าอยู่ในมือ คนกลางจะติดต่อกับร้านค้าเพื่อถ่ายรูป ใส่รายละเอียดสินค้ารวมถึงราคาเข้าไปในเว็บไซต์ของเขา เมื่อมีผู้ติดต่อซื้อสินค้าในเว็บ ผู้ซื้อจ่ายเงินให้คนกลาง คนกลางจ่ายเงินให้ร้านค้า โดยการจัดส่งสินค้านั้น คนกลางและร้านค้าจะต้องตกลงกัน ว่าใครจะเป็นผู้จัดส่ง คนกลางที่ทำเว็บจะได้กินเงินส่วนต่างนั่นคือ “กำไร” ข้อดีของการค้าขายแบบ DropShip มีหลายข้อด้วยกัน - ไม่ต้องมีการสต๊อกสินค้า หรือผลิตสินค้าเอง - หากต่อรองกับร้านค้าดีดี หรือหากคนกลางหาลูกค้าได้มากก็จะยิ่งได้ราคาถูกมากขึ้น นั่นก็หมายความกำไรมากขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง - และถ้าตกลงกับร้านค้าเป็นผู้จัดส่งสินค้า ยิ่งสบายกันไปใหญ่เพราะไม่ต้องมานั่งส่งสินค้าด้วยตัวเอง นั่งกินกำไรสบายกว่ากันเยอะ ข้อเสียดูเหมือนจะไม่มีนะ แต่มีข้อพึงระวังเท่านั้นเอง คือ ต้องเลือกร้านค้าที่ไว้ใจได้ ตรวจสอบประวัติร้านค้าดีดี อีกอย่างการนำภาพสินค้าและรายละเอียด ควรสอบถามกับร้านค้าก่อนว่า สามารถนำมาใส่ที่เว็บไซต์ของเราได้หรือไม่ ถ้าได้ก็ยิ่งสบายใหญ่ http://www.ondims.com/dropship-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8.../ ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆ มาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ |