Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์

การเปลี่ยนแปลงอายุการใช้งานสินทรัพย์


เรื่อง การเปลี่ยนแปลงอายุการใช้งานสินทรัพย์
แหล่งที่มา Facebook อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์
วันที่ วันที่ถาม 21/02/2023 - วันที่ตอบ 10/03/2023
ประเภทภาษี ภาษีเงินได้นิติบุคคล
ข้อกฎหมาย คำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.3/2527, พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 145) พ.ศ. 2527
ปุจฉา
รบกวนขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอายุการใช้งานสินทรัพย์ค่ะ
    จากข้อหารือสรรพากรเลขที่หนังสือ กค 0702/3266 วันที่ 17 เมษายน 2556 และคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 3/2527 หนูมีเคสของบริษัทลูกค้าที่คล้ายกันขอเรียนปรึกษาอาจารย์ดังนี้ค่ะ
    บริษัทฯ ได้ทำการต่อเติมปรับปรุงอาคารในราคา 10 ล้านบาท เมื่อต้นปี 2561 และมีนโยบายคำนวนค่าเสื่อมราคาทางบัญชีด้วยวิธีเส้นตรงในอัตราร้อยละ 10 (ประมาณการอายุการใช้งาน 10 ปี) ดังนั้นค่าเสื่อมราคาจึงบันทึกทางบัญชีไว้ที่ 1 ล้านบาทต่อปี และบริษัทได้ทำการบวกกลับเพื่อคำนวณกำไรสุทธิในการเสียภาษีจำนวน 500,000 บาทต่อปี (ร้อยละ 5 ของ 10 ล้านบาท)
    ต่อมาต้นปี 2565 บริษัทฯ ทำการประเมินสินทรัพย์ใหม่และเปลี่ยนแปลงอายุการใช้งานของส่วนปรับปรุงอาคารต่อไปอีก 20 ปี (นับรวมกับที่ใช้งานมาแล้ว 4 ปี รวมเป็น 24 ปี) ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชี โดยใช้วิธีเปลี่ยนทันทีเป็นต้นไป ทำให้ค่าเสื่อมราคาทางบัญชีสำหรับปี 2565 คำนวณได้เท่ากับ 400,000 บาท (NBV 8 ล้าน หารด้วยอายุการใช้งานใหม่คงเหลือ 20 ปี) โดยบริษัทฯ ไม่ได้แจ้งการเปลี่ยนแปลงนี้กับกรมสรรพากร เนื่องจากไม่ได้ต้องการเปลี่ยนแปลงอายุการใช้งานทางภาษีโดยยังคิดค่าเสื่อมราคาทางภาษีในอัตราเดิมที่ร้อยละ 5 ของต้นทุนเดิม 10 ล้านบาทหรือ 500,000 บาทต่อปี
คำถามค่ะ
    1. บริษัทจำเป็นต้องเปลี่ยนอัตราค่าเสื่อมราคาทางภาษีให้สอดคล้องกับทางบัญชีตามข้อ 2 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.3/2527 หรือไม่ 
    2. จากข้อหารือเลขที่ กค 0702/3266 ซึ่งเป็นกรณีที่คล้ายคลึงกัน ถ้าบริษัทฯ ไม่ได้แจ้งการเปลี่ยนแปลงนี้กับกรมสรรพากร เนื่องจากไม่ได้เปลี่ยนอัตราการคำนวนทางภาษีให้เหมือนกันทางบัญชี จะมีความผิดหรือมีผลกับเบี้ยปรับเงินเพิ่มทางกฏหมายเมื่อเจ้าหน้าที่สรรพากรตรวจพบหรือไม่
    3. เนื่องจากค่าเสื่อมราคาทางภาษีสำหรับปี 2565 สูงกว่าทางบัญชีอยู่ 100,000 บาท (ภาษี 500,000 - บัญชี 400,000) บริษัทสามารถนำยอด 100,000 บาท ไปหักออกจากกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีได้หรือไม่
วิสัชนา
1. กรณีบริษัทฯ ได้ทำการต่อเติมปรับปรุงอาคารในราคา 10 ล้านบาท เมื่อต้นปี 2561 และมีนโยบายคำนวนค่าเสื่อมราคาทางบัญชีด้วยวิธีเส้นตรงในอัตราร้อยละ 10 (ประมาณการอายุการใช้งาน 10 ปี) ดังนั้นค่าเสื่อมราคาจึงบันทึกทางบัญชีไว้ที่ 1 ล้านบาทต่อปี และบริษัทได้ทำการบวกกลับเพื่อคำนวณกำไรสุทธิในการเสียภาษีจำนวน 500,000 บาทต่อปี (ร้อยละ 5 ของ 10 ล้านบาท) นั้น 
    เช่นนี้ ในทางภาษีเงินได้นิติบุคคลเท่ากับบริษัทฯ ได้คำนวณหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาในอัตรา 5% ของมูลค่าต้นทุนส่วนต่อเติมปรับปรุงอาคาร บริษัทฯ จึงย่อมได้สิทธิคำนวณหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาส่วนต่อเติมปรับปรุงอาคาร ในทางภาษีอากรเป็นเวลา 20 ปี 

2. ต่อมาในรอบระยะเวลาบัญชีปี 2565 บริษัทฯ ทำการประเมินสินทรัพย์ใหม่และเปลี่ยนแปลงอายุการใช้งานของส่วนปรับปรุงอาคารต่อไปอีก 20 ปี (นับรวมกับที่ใช้งานมาแล้ว 4 ปี รวมเป็น 24 ปี) ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชี โดยใช้วิธีเปลี่ยนทันทีเป็นต้นไป ทำให้ค่าเสื่อมราคาทางบัญชีสำหรับปี 2565 คำนวณได้เท่ากับ 400,000 บาท (NBV 8 ล้าน หารด้วยอายุการใช้งานใหม่คงเหลือ 20 ปี) โดยบริษัทฯ ไม่ได้แจ้งการเปลี่ยนแปลงนี้กับกรมสรรพากร เนื่องจากไม่ได้ต้องการเปลี่ยนแปลงอายุการใช้งานทางภาษีโดยยังคิดค่าเสื่อมราคาทางภาษีในอัตราเดิมที่ร้อยละ 5 ของต้นทุนเดิม 10 ล้านบาทหรือ 500,000 บาทต่อปี นั้น บริษัทฯ มีสิทธิที่จะดำเนินการดังกล่าวได้ โดยระยะเวลาในการคำนวณค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาทางบัญชีและทางภาษีอากร แตกต่างกันไปตามนโยบายบัญชีของบริษัทฯ ดังกล่าว 
    (1) บริษัทฯ ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่แจ้งต้องเปลี่ยนอัตราค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาทางภาษีให้สอดคล้องกับทางบัญชีตามข้อ 2 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.3/2527 แต่อย่างใด เพราะบริษัทฯ ได้เลือกใช้อัตราค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาในอัตรา 5% ตามมาตรา 4 (1) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 145) พ.ศ. 2527 แล้ว 
    (2) กรณีตามข้อเท็จริงข้างต้น กับแนวคำตอบข้อหารือของกรมสรรพากรเลขที่ กค 0702/3266 ลงวันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2556 นั้น เป็นกรณีที่แตกต่างกัน กล่าวคือ ตามข้อเท็จจริง วิธีการคำนวณค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาทางบัญชีกับทางภาษีแตกต่างกันในตอนเริ่มต้นใช้ทรัพย์สิน แต่ตามแนวคำตอบข้อหารือ วิธีการคำนวณค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาทางบัญชีกับทางภาษีเป็นวิธีการเดียวกันในตอนเริ่มต้นใช้ทรัพย์สิน 
    ดังนั้น กรณีตามข้อเท็จจริงข้างต้นบริษัทฯ จึงไม่มีความจำเป็นต้องแจ้งขออนุมัติต่ออธิบดีกรมสรรพากรเพื่อขอเปลี่ยนแปลงวิธีการคำนวณค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคา แต่อย่างใด เพียงแต่ 
    (1) บริษัทฯ ต้องเปิดเผยวิธีการคำนวณค่าสีกหรอและค่าเสื่อมราคาไว้ในหมายเหตุประกอบงบการเงิน 
    (2) บริษัทฯ พึงต้องมีกระดาษทำการแสดงรายละเอียดในการคำนวณหักสึกหรอและค่าเสื่อมราคาทั้งในทางบัญชีและทางภาษีอากร ตลอดอายุการใช้งาน พร้อมให้เจ้าพนักงานประเมินทำการตรวจสอบได้ทันที  
    เป็นกรณีที่ไม่มีความเสี่ยงทางภาษีอากรที่มีผลกับเบี้ยปรับเงินเพิ่มทางกฏหมายเมื่อเจ้าหน้าที่สรรพากรตรวจพบ แต่อย่างใด 

3. เนื่องจากค่าเสื่อมราคาทางภาษีสำหรับปี 2565 สูงกว่าทางบัญชีอยู่ 100,000 บาท (ภาษี 500,000 - บัญชี 400,000) บริษัทสามารถนำยอด 100,000 บาทไปหักออกจากกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีได้ ตลอดไป



ขอขอบคุณข้อมูลจาก FB อ.สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ที่อนุญาตให้นำความรู้ดีๆมาเเบ่งปันใน Website Tax-EZ ค่ะ 

คลิ๊กที่นี่ เพื่อติดตาม FB เพจ "อาจารย์ สุเทพ พงษ์พิทักษ์"

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การท่องเว็บที่ดีขึ้น ข้อตกลงและนโยบายความเป็นส่วนตัว
ยอมรับ