ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร

(ฉบับที่ 48)

เรื่อง  กําหนดมาตรฐานเกี่ยวกับรูปแบบ วิธีการส่ง การเก็บรักษา เอกสารหลักฐานหรือหนังสือ และ

ความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศ สําหรับการดําเนินการที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์

_________________

            อาศัยอํานาจตามความในข้อ 6 (2) ข้อ 8 ข้อ 13 (3) ข้อ 15 และข้อ 18 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 384 (พ.ศ. 2565) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการดําเนินการเกี่ยวกับเอกสารหลักฐานหรือหนังสือด้วยกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์ อธิบดีกรมสรรพากรจึงกําหนดมาตรฐานเกี่ยวกับรูปแบบวิธีการส่ง การเก็บรักษา เอกสารหลักฐานหรือหนังสือ และความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศ สําหรับการดําเนินการที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์ ดังต่อไปนี้

            ข้อ  1  ผู้เสียภาษีอากรหรือบุคคลใดที่ประสงค์จะยื่นคําขออนุญาตเชื่อมต่อระบบอิเล็กทรอนิกส์ของตนกับระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากร เพื่อยื่นหรือส่งเอกสารหลักฐานหรือหนังสือ ต้องเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้บริการภาษีผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากร และต้องมีระบบความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศตามที่ประกาศบนเว็บไซต์ของกรมสรรพากร

            ข้อ  2  ผู้เสียภาษีอากรหรือบุคคลใดที่ประสงค์จะจัดทําเอกสารหลักฐานหรือหนังสือเพื่อยื่นหรือส่งให้แก่กรมสรรพากรโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นนอกจากการดําเนินการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากร ต้องจัดทําข้อความขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ต้องสามารถเข้าถึงและนํากลับมาใช้ได้โดยความหมายไม่เปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ ตามรูปแบบ ขนาด ประเภท และ รายการข้อมูลที่ประกาศไว้บนเว็บไซต์ของกรมสรรพากร 

            กรณีการจัดทําใบกํากับภาษี หรือใบรับ ที่ผู้ประกอบการจดทะเบียน หรือผู้มีหน้าที่ออกใบรับ มีหน้าที่ต้องดําเนินการตามประมวลรัษฎากร อาจกระทําได้โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ ตามรูปแบบ ขนาด ประเภท และรายการข้อมูลที่ประกาศไว้บนเว็บไซต์ของกรมสรรพากร

            กรณีตัวแทนหรือผู้ให้บริการจัดทําเอกสารหลักฐานหรือหนังสือหรือนําส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เป็นผู้กระทําการแทน ให้นําความในวรรคหนึ่งหรือวรรคสองมาใช้บังคับแล้วแต่กรณี และต้องทําให้สามารถระบุได้ว่าเอกสารหลักฐานหรือหนังสือนั้นเป็นของผู้เสียภาษีอากรหรือบุคคลใด

            ข้อ  3  ผู้ประกอบการจดทะเบียนหรือผู้มีหน้าที่ออกใบรับ มีหน้าที่ส่งใบกํากับภาษีหรือใบรับที่จัดทําโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในการส่งข้อมูลให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

            ให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนหรือผู้มีหน้าที่ออกใบรับ แจ้งข้อมูลใบกํากับภาษีหรือใบรับตามวรรคหนึ่งผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากร และในขณะที่แจ้งข้อมูลให้แก่กรมสรรพากร ใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในการลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ต้องยังไม่หมดอายุ

            ข้อ  4  ให้ผู้ประกอบการจดทะเบียน ผู้มีหน้าที่ออกใบรับ หรือตัวแทนตามมาตรา 86/2 แห่งประมวลรัษฎากร ที่ได้จัดทําใบกํากับภาษีหรือใบรับโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการที่ได้รับใบกํากับภาษีหรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้จัดทําขึ้นโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์มีหน้าที่เก็บรักษาใบกํากับภาษีหรือใบรับนั้น ตามหลักเกณฑ์ ดังนี้

            (1) ใช้วิธีการที่เชื่อถือได้ในการรักษาความถูกต้องของข้อความตั้งแต่การสร้างข้อความเสร็จสมบูรณ์และสามารถแสดงข้อความนั้นในภายหลังได้

            (2) เก็บรักษาข้อมูลใบกํากับภาษีหรือใบรับ โดยสามารถเข้าถึงและนํากลับมาใช้ได้โดยความหมายไม่เปลี่ยนแปลง

            (3) เก็บรักษาข้อมูลใบกํากับภาษีหรือใบรับให้อยู่ในรูปแบบที่เป็นอยู่ในขณะที่ได้สร้าง ส่ง หรือได้รับข้อมูลใบกํากับภาษีหรือใบรับนั้น หรืออยู่ในรูปแบบที่สามารถแสดงข้อความที่สร้าง ส่ง หรือได้รับให้ปรากฏอย่างถูกต้องได้ และ

            (4) เก็บรักษาข้อความส่วนที่ระบุถึงแหล่งกําเนิด ต้นทาง และปลายทางของใบกํากับภาษี หรือใบรับ ตลอดจนวันและเวลาที่ส่งหรือได้รับข้อความดังกล่าว ถ้ามี

            ข้อ  5  ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2566

ลวรณ แสงสนิท

(นายลวรณ แสงสนิท)

อธิบดีกรมสรรพากร