พระราชกฤษฏีกา R.D

พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ฉบับที่ 795
เรื่อง (ไทย) | พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 795) พ.ศ. 2568 การยกเว้นภาษี สำหรับการบริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่สภากาชาดไทยหรือมูลนิธิด้านการแพทย์และการสาธารณสุข |
เรื่อง (อังกฤษ) | |
ภาษาไทย (TH) | พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 795)พ.ศ. 2568 ________________________ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ไว้ ณ วันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2568 เป็นปีที่ 10 ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ในบางกรณี อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 175 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา 3 (1) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแ้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2496 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 795) พ.ศ. 2568” มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป มาตรา 3 ในพระราชกฤษฎีกานี้ “มูลนิธิ” หมายความว่า (1) มูลนิธิกาญจนบารมี (2) มูลนิธิคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ (3) มูลนิธิจุฬาภรณ์ (4) มูลนิธิชัยพัฒนา (5) มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (6) มูลนิธิรามาธิบดี ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (7) มูลนิธิโรคมะเร็ง โรงพยาบาลคิริราช (8) มูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก (9) มูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ (10) มูลนิธิโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ในพระสังฆราชูปถัมภ์ (11) มลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุภเกล้า ในพระราชุปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (12) มูลนิธิโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช (13) มูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี (14) มูลนิธิโรงพยาบาลเลิดสิน ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (15) มูลนิธิโรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (16) มูลนิธิโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (17) มูลนิธิโรงพยาบาลสงฆ์ (18) มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตื้ กองทัพเรือ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ (19) มูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอก คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเขียงใหม่ (20) มูลนิธิโรงพยาบาลหาดใหญ่ (21) มูลนิธิศรีสวางควัฒน ในพระอุปถัมภ์สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒนวรขัตติยราชนารี (22) มูลนิธิสถาบันมะเร็งแห่งชาติ (23) มูลนิธิสถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ (24) มูลนิธิสนับสนุนสถาบันประสาทวิทยา (25) มูลนิธิสมเด็จพระปินเกล้า (26) ศิริราชมูลนิธิ “ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์” หมายความว่า ระบบที่ใช้สร้างและเก็บรักษาข้อมูลการบริจาคในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 4 ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน 2 และส่วน 3 หมวด 3 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับการบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่สภากาชาดไทยหรือมูลนิธิ ที่ได้กระทำตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2568 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2570 ดังต่อไปนี้ (1) สำหรับบุคคลธรรมดา ให้ยกเว้นสำหรับเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักลดหย่อนตามมาตรา 47 (1) (2) (3) (4) (5) หรือ (6) แห่งประมวลรัษฎากร เป็นจำนวนสองเท่าของจำนวนเงินที่บริจาค (2) สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ให้ยกเว้นสำหรับเงินได้เป็นจำนวนสองเท่าของรายจ่ายที่บริจาค ไม่ว่าจะได้จ่ายเป็นเงินหรือทรัพย์สิน มาตรา 5 การยกเว้นภาษีเงินได้ตามมาตรา 4 (1) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้ (1) ต้องนำเงินได้ที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตามมาตรา 4 (1) มารวมคำนวณกับเงินได้ที่ได้มีพระราชกฤษฎีกาที่ออกตามความในประมวลรัษฎากรกำหนดให้มีการยกเว้นภาษีเงินได้เป็นจำนวนสองเท่าของเงินที่ได้จ่ายตามกรณีที่กำหนดไว้และไม่เกินร้อยละสิบของเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักลดหย่อนตามมาตรา 47 (1) (2) (3) (4) (5) หรือ (6) แห่งประมวลรัษฎากร (2) เมื่อรวมคำนวณเงินได้ตาม (1) แล้ว ต้องไม่เกินร้อยละสิบของเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักลดหย่อนตามมาตรา 47 (1) (2) (3) (4) (5) หรือ (6) แห่งประมวลรัษฎากร (3) หลักเกณฑ์และเงื่อนไขอื่นตามที่อธิบดีประกาศกำหนด มาตรา 6 การยกเว้นภาษีเงินได้ตามมาตรา 4 (2) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้ (1) ต้องนำเงินได้ที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตามมาตรา 4 (2) มารวมคำนวณกับรายจ่ายที่ได้มีพระราชกฤษฎีกาที่ออกตามความในประมวลรัษฎากรกำหนดให้มีการยกเว้นภาษีเงินได้เป็นจำนวนสองเท่าของรายจ่ายและไม่เกินร้อยละสิบของกำไรสุทธิก่อนหักรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะ หรือเพื่อการสาธารณประโยชน์ และรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬาตามมาตรา 65 ตรี (3) (ข) แห่งประมวลรัษฎากร (2) เมื่อรวมคำนวณรายจ่ายตาม (1) แล้ว ต้องไม่เกินร้อยละสิบของกำไรสุทธิก่อนหักรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์ และรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬา ตามมาตรา 65 ตรี (3) (ข) แห่งประมวลรัษฎากร (3) หลักเกณฑ์และเงื่อนไขอื่นตามที่อธิบดีประกาศกำหนด มาตรา 7 ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน 2 และส่วน 3 หมวด 3 ภาษีมูลค่าเพิ่มตามหมวด 4 ภาษีธุรกิจเฉพาะตามหมวด 5 และอากรแสตมป็ตามหมวด 6 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่บุคคลธรรมดาหรือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับเงินได้ที่ได้รับจากการโอนทรัพย์สิน หรือการขายสินค้า หรือสำหรับการกระทำตราสารอันเนื่องมาจากการบริจาคให้แก่สภากาชาดไทยหรือมูลนิธิ โดยผู้โอนจะต้องไม่นำต้นทุนของทรัพย์สินหรือสินค้า ซึ่งได้รับยกเว้นภาษีดังกล่าวมาหักเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้ของบุคคลธรรมดาหรือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ทั้งนี้ สำหรับการบริจาคที่ได้กระทำตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2568 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2570 และให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด มาตรา 8 บุคคลธรรมดาหรือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ได้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ตามพระราชกฤษฎีกานี้ ต้องไม่นำเงินบริจาคที่ไดใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ดังกล่าวไปหักลดหย่อนเป็นเงินบริจาคตามมาตรา 47 (7) (ข) แห่งประมวลรัษฎากร หรือต้องไม่นำเงินหรือทรัพย์สินที่ได้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ดังกล่าวไปหักเป็นรายจ่ายตามมาตรา 65 ตรี (3) (ข) แห่งประมวลรัษฎากร แล้วแต่กรณี อีก มาตรา 9 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________ หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรยกเว้นภาษีเงินได้ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ให้แก่บุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสำหรับการบริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่สภากาชาดไทยหรือมูลนิธิด้านการแพทย์และการสาธารณสุขเพื่อเป็นการจงใจให้มีการบริจาคเงินหรือทรัพย์สินเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานด้านการแพทย์และการสาธารณสุขของสภากาชาดไทยหรือมูลนิธิดังกล่าว จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 142 ตอนที่ 14 ก หน้า 57-61 ลงวันที่ 24 มีนาคม 2568 |
ภาษาอังกฤษ (EN) | ขออภัย สำหรับหัวข้อนี้ไม่มีการแปลภาษาอังกฤษค่ะ Sorry, This Regulation doesn’t have English Translation. |
Tax-EZ(easy) Note |